ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก
ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 139-140
ท่าทางแอบดมกลิ่นผ้าเช็ดหน้าลายปักของอวี้ฉือเฟยเยี่ยนอย่างหลงใหลของหวังอวี้หล่างในอดีตยังคล้ายเพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้า หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหวังอวี้หล่างแค่กล้าคิดไม่กล้าทำ เขาก็คงจะกำจัดอีกฝ่ายทิ้งไปนานแล้ว จะเก็บหวังอวี้หล่างมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร
แต่เขาไม่อยู่ที่ไหวหนานเป็นเวลานานนั้นไม่เหมาะสม…คิดถึงตรงนี้เซียวอ๋องก็ลอบตัดสินใจเงียบๆ ว่าจะส่งเซวียเฟิงกลับเจียงหนาน ให้ไปหาจวนที่ทัศนียภาพงดงามเหมาะให้อวี้ฉือเฟยเยี่ยนย้ายไปพักอยู่ ส่วนเรื่องฉาวโฉ่ขององค์หญิงเล่อผิง ในเมื่อหวังอวี้หล่างผู้นั้นอยากรับเอาไว้ เขาเองก็คร้านจะสนใจ ยินดีกับความเงียบสงบได้พอดี
เมื่อคิดเช่นนี้เซียวอ๋องก็ตวัดกายขึ้นหลังม้าในเวลาเช้าตรู่ เตรียมจะจัดการกับงานต่างๆ ก่อนออกเดินทาง
ตอนที่มาถึงหน้าค่ายทหารกลับเห็นคนผู้หนึ่งมายืนรออยู่หน้าประตูตั้งแต่เช้าตรู่
รอเซียวอ๋องเดินนำองครักษ์กลุ่มหนึ่งเข้าใกล้ถึงเพิ่งเห็นว่าเป็นหวังอวี้หล่างอย่างคาดไม่ถึง ไม่ได้พบหน้ากันเสียนาน อีกฝ่ายผอมลงและดำคล้ำขึ้นมาก แต่ว่ารูปร่างกำยำขึ้นกว่าแต่ก่อน
อาจเพราะตื่นเช้าเกินไป ราชบุตรเขยหวังจึงยังไม่ได้กินอาหารเช้า น่าจะซื้อบะหมี่เส้นมันสำปะหลังชามหนึ่งมาจากเพิงขายอาหารเช้า กำลังถือชามไม้นั่งสูดเส้นบะหมี่กินช้าๆ อยู่บนก้อนหินข้างค่ายทหาร
ในตอนที่ความร้อนของบะหมี่เส้นมันสำปะหลังกำลังดีจึงสูดอย่างแรงเข้าไปคำใหญ่ ปลายหางตาก็มองเห็นเซียวอ๋องขี่ม้ามาถึงตรงหน้า เขาจึงรีบวางชามที่ยกชิดปากลง เตรียมจะรีบกลืนลงไป ผลปรากฏว่ารีบร้อนกลืนจนสำลักติดคอ พ่นกระฉูดออกมา ทำเอาบนชุดขุนนางมีแต่รอยน้ำแกง น้ำมูกน้ำตาไหลออกมาพร้อมกัน สภาพดูไม่ได้อย่างมาก!
เซียวอ๋องมองสภาพลุกลี้ลุกลนของหวังอวี้หล่างแล้วขมวดคิ้ว นึกไม่ถึงว่าจะยังมีสภาพโง่งมเหมือนเมื่อก่อน! เสียทีที่ชั่วพริบตาเมื่อครู่นี้ยังหลงนึกว่าคนผู้นี้พอจะมีความก้าวหน้าขึ้นบ้าง!
“นึกไม่ถึงว่าราชบุตรเขยหวังจะตื่นเช้าเพียงนี้ เข้าไปในค่ายทหารก่อนแล้วค่อยกินอาหารเช้า เป็นอย่างไรเล่า มานั่งรับลมกินบะหมี่อยู่ตรงนี้ก็มิแปลกที่จะสำลักเข้า…” เซียวอ๋องไม่มองเขาอีก เพียงเอ่ยเสียงเย็น
หวังอวี้หล่างรับผ้าเช็ดหน้าจากบ่าวรับใช้ข้างกาย รีบร้อนเช็ดปลายคางกับน้ำแกงบนชุดขุนนางให้สะอาดแล้วเอ่ย “เซียวอ๋องทรงสั่งสอนถูกต้อง กระหม่อมเสียมารยาทไปแล้ว เป็นเพราะไม่ได้พบเซียวอ๋องมานาน อีกทั้งเพิ่งมาถึงไหวหนานยังไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น หลายวันมานี้จึงนอนไม่หลับ เมื่อได้ยินว่าพระองค์รีบเสด็จกลับมาแล้ว จึงคิดอยากพบพระองค์ให้เร็วหน่อย ตั้งใจมารับฟังคำแนะนำ จะได้มีความเข้าใจเร็วขึ้นพ่ะย่ะค่ะ…”
ระหว่างที่พูด หวังอวี้หล่างก้าวสั้นๆ เดินตามหลังเซียวอ๋องเข้าไปในค่ายทหารด้วยกัน
เซียวอ๋องสั่งให้เซี่ยวชิงที่อยู่ด้านข้างหยิบแผนที่แนวป้องกันกับคลังเสบียงของไหวหนานมามอบให้หวังอวี้หล่างทั้งหมด “พวกนี้คือรากฐานชีวิตอันสงบสุขของไหวหนาน ตอนนี้ล้วนต้องฝากฝังไว้กับราชบุตรเขยหวังแล้ว อาศัยโอกาสที่ข้ายังอยู่ รบกวนราชบุตรเขยหวังอ่านดู หากมีจุดที่ไม่เหมาะสมจำเป็นต้องจัดวางแนวป้องกันใหม่ รบกวนราชบุตรเขยหวังปรับแก้เอาเอง นอกจากนี้ยังมีรายชื่อขุนนางประจำท้องถิ่นต่างๆ ถ้าหากราชบุตรเขยพาคนที่ใช้งานจนชินมาด้วย ก็สามารถจัดแจงที่ทางของพวกเขาด้วยตนเอง”
ดั่งคำกล่าวที่ว่าผลัดโอรสสวรรค์ เปลี่ยนขุนนางทั้งราชสำนัก เวลาลงมายังท้องถิ่นเองก็เช่นเดียวกัน ในเมื่อราชบุตรเขยหวังรับตำแหน่งใหม่ ถ้าหากไม่พาที่ปรึกษาคนสนิทมาด้วย เกรงว่าจะปรับตัวกับสถานการณ์ได้ยาก
นึกไม่ถึงว่าหวังอวี้หล่างได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วกลับส่ายหน้า “ฝ่าบาททรงส่งบุคคลมีฝีมือด้านบัญชีจากกรมอากรมาให้กระหม่อมบ้าง แต่ว่านอกจากเด็กรับใช้สองคนกระหม่อมไม่ได้พาใครมาด้วยสักคน ช่วยลดงานโยกย้ายที่ยุ่งยากไปได้พ่ะย่ะค่ะ”
เซียวอ๋องได้ยินแล้วเลิกคิ้ว มองหวังอวี้หล่างด้วยสายตาแปลกๆ
หวังอวี้หล่างหยิบผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเส้นมันสำปะหลังขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากต่อ พร้อมกับเอ่ย “หลังจากกระหม่อมได้รับพระราชโองการจากฝ่าบาท บิดาเคยกำชับตักเตือนว่าการดูแลงานปกครองไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับการสร้าง แต่ขึ้นกับการรักษาด้วย ความสามารถของกระหม่อมเทียบกับเซียวอ๋องแล้วเสมือนแสงหิ่งห้อยเทียบกับแสงจันทร์ ดังนั้นจึงเต็มใจเลียนแบบอัครเสนาบดีเฉาชาน…เซียวเหอตั้งกฎเฉาชานทำตาม รูปแบบการปกครองทุกอย่างของไหวหนานจะไม่เปลี่ยนแปลงพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวอ๋องได้ยินแล้วเลิกคิ้ว หรี่ตาเขม้นมองหวังอวี้หล่างอย่างครุ่นคิด ก่อนเอ่ยขึ้นกะทันหัน “ฝีเข็มของผ้าเช็ดหน้าในมือราชบุตรเขยประณีตนัก ตรงมุมผ้าปักอักษรกึ่งภาพตัวเล็กเอาไว้ แค่มองก็รู้ว่าเป็นของขวัญแทนใจจากสตรีในห้องหอ ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใครหรือ คงไม่ใช่ของน้องสาวที่หยาบกระด้างผู้นั้นของข้ากระมัง”
ราชบุตรเขยหวังคล้ายคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เซียวอ๋องจะถามเรื่องนี้ เหงื่อยิ่งไหลพลั่กกว่าเดิม ทั้งยังรู้แก่ใจว่าปิดไม่มิด จึงเอ่ยอย่างลำบากใจเล็กน้อย “ของ…ของสาวใช้ที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ในจวนผู้หนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ถ้าหากเซียวอ๋องทรงชอบ กระหม่อมสั่งให้นางปักออกมาเพิ่มได้พ่ะย่ะค่ะ”
เซียวอ๋องค่อยๆ เหยียดยิ้ม “ราชบุตรเขยช่างมีเสน่ห์กับสตรีเสียจริง ผ้าเช็ดหน้าในมือไม่เคยขาดแคลนมาก่อน…”
ราชบุตรเขยหวังคล้ายหน้าเปลี่ยนสี กดเสียงต่ำลงเอ่ย “ก็แค่พวกสาวใช้ที่คิดเพ้อฝันก้าวหน้าขึ้นมาเท่านั้น แต่ว่าถึงแม้องค์หญิงจะไม่ค่อยถือสาเรื่องพวกนี้…แต่ช่วงนี้นางไม่ค่อยสบาย อารมณ์เสียอยู่ทุกวัน หวังว่า…หวังว่าองค์ชายรองจะไม่ตรัสขึ้นมาต่อหน้าองค์หญิง นางจะได้ไม่กริ้ว…”
Comments
