นางอายุยังน้อย เพิ่งเคยรู้สึกว่าความตายใกล้มาเยือนอย่างสมจริงเป็นครั้งแรก ในสมองทั้งหมดเหลือแต่ความปรารถนาต่ออาหารเลิศรส แทบอยากจะไล่เรียงรายการอาหารออกมา นับว่าเป็นความปรารถนาสุดท้ายในชีวิต
เซวียนหมิงฟังคำพูดอ่อนแรงไร้กำลังของนางแล้วนัยน์ตาหงส์หรี่ลง ใต้ขนตางอนยาวมีแต่ความเข้มงวดไม่พอใจอย่างห้ามไม่ได้ “มีข้าอยู่ เจ้าไม่มีทางตาย วันหน้าห้ามมีความคิดเช่นนี้อีก!”
เด็กโง่ที่รู้จักแต่กิน เพราะไร้สมองถึงได้มีสภาพมาถึงขั้นนี้!
วันนั้นเขาลอบโจมตีเซียวอ๋อง ทว่ากลับถูกเซียวอ๋องยิงธนูพิษสวนกลับมา พิษไผ่ทมิฬนี้ร้ายกาจมาก ตอนนั้นเซวียนหมิงโซเซลงจากหน้าผา โชคดีที่ชิวเทียนพาเซวียนเฉ่ามาถึงทันเวลา ป้อนยาแก้พิษให้เขาดื่ม แต่เด็กโง่เซวียนเฉ่าผู้นี้ ตอนที่ชิวเทียนออกไปหาอาหารข้างนอกเห็นเขาไม่ฟื้นขึ้นมาเสียที จึงเลียนแบบหมอในกระโจมหมอที่ใช้ปากดูดพิษให้ทหารที่บาดเจ็บ ใช้ปากเล็กๆ ช่วยดูดเลือดพิษจากบาดแผลให้เซวียนหมิงเช่นเดียวกัน
ตอนที่เซวียนหมิงฟื้น ลืมตาขึ้นก็มองเห็นเด็กหญิงที่หน้าม่วงคล้ำแล้วยังพยายามดูดเลือดพิษที่บาดแผลของเขาอยู่…
โชคดีตอนนั้นเซวียนหมิงกินยาแก้พิษลงไป พิษถูกถอนออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ความร้ายกาจของพิษยังคงไม่ใช่สิ่งที่เด็กหญิงร่างกายอ่อนแอผู้หนึ่งอย่างเซวียนเฉ่าจะรับไหว ยาแก้พิษถูกเซวียนหมิงกินไปหมดแล้ว เวลานั้นจึงรีบเรียกชิวเทียนมาโคจรกำลังภายในขับพิษออกมาให้นางทันที ขณะเดียวกันก็ลงจากภูเขาไปซื้อยาสมุนไพรมากดพิษเอาไว้ชั่วคราวด้วย
คนที่สมควรตายกลับยังไม่ตาย เซียวอ๋องผู้นั้นอาศัยสภาพร่างกายพิเศษรวมกับฝีมือรักษาของหมอเทวดาถอนพิษไปได้นานแล้ว แต่ถ้าหากเซวียนเฉ่าอยากรีบถอนพิษต้องอาศัยบุปผาริมผาขาดประเภทหนึ่งที่งอกอยู่ในพื้นที่กันดารของซีอวี้ แต่ระยะเวลาเติบโตของบุปผาชนิดนี้นานมาก ห้าปีถึงจะบานสักครั้ง ช่วงที่รอบุปผาบาน หากไม่กดพิษเอาไว้ก็จะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
เจตนาของชิวเทียนคือถึงแม้จะเห็นความภักดีของเซวียนเฉ่า แต่ไม่อาจให้จิ้นอ๋องเสียเวลาทำการใหญ่ ได้แต่รีบตัดปัญหา ช่วยให้เซวียนเฉ่าไม่ต้องทรมานจากความเจ็บปวดเวลาพิษกำเริบ
แต่เซวียนหมิงก้มหน้ามองมือน้อยข้างนั้นของเซวียนเฉ่าที่จับสาบเสื้อตนเองแน่นอยู่ตลอดเวลา ตรงหน้าพลันปรากฏภาพที่วันนั้นนางคอยดูแลเอาใจใส่เขาในถ้ำบนภูเขา…แต่ตอนนี้ในเมืองหลวงอยู่ในช่วงเวลาก่อนพายุฝนมาเยือน การต่อสู้ระหว่างรัชทายาทกับเซียวอ๋องแทบจะเปิดเผยชัดแจ้ง นี่เป็นช่วงเวลาจับปลาน้ำขุ่น มอบแรงโจมตีครั้งใหญ่ให้กับสกุลฮั่ว…
“จิ้นอ๋อง เซวียนเฉ่าใกล้ไม่รอดแล้วใช่หรือไม่” ขณะที่ในใจลังเลนั้นเอง คำถามแฝงเสียงสะอื้นของเด็กหญิงกลับทำลายความลังเลของเซวียนหมิงลง ภาพของเด็กหญิงคนนี้ซ้อนทับกับภาพสตรีผู้นั้นที่ยื่นมือมาขอร้องอ้อนวอนเขาซึ่งซ่อนอยู่ในใจมาตลอด…สุดท้ายเขาตัดสินใจมุ่งหน้าไปทางซีอวี้ รอช่วงเวลาที่บุปผาริมผาขาดเบ่งบาน
ชิวเทียนแอบตกตะลึงกับการตัดสินใจของจิ้นอ๋อง ในความทรงจำของเขาถึงแม้จิ้นอ๋องจะดูสง่างามอบอุ่น แต่ต่อให้เป็นสมัยที่ราชวงศ์ก่อนยังอยู่ เขาเองก็ไม่เคยแสดงความรู้สึกต่อใครมากมาย จิ้นอ๋องเป็นคนที่เมื่อแน่ใจกับเป้าหมายแล้วจะปฏิบัติตามอย่างแน่วแน่ ต่อให้ในใจเกิดคลื่นอารมณ์ ทว่าไม่มีทางสั่นสะเทือนเส้นทางที่เขากำหนดสักนิดเดียว
แต่เด็กหญิงที่มองดูโง่เขลาผู้นี้กลับทำให้จิ้นอ๋องแหกกฎซ้ำๆ ทำให้เขาตกใจจริงๆ
ในเมื่อจิ้นอ๋องตัดสินใจแล้ว ชิวเทียนก็ไม่สะดวกพูดอะไรมากอีก ทำได้เพียงเชื่อฟังคำสั่ง ดังนั้นเขาจึงเดินทางมาล่วงหน้า สั่งให้สายสืบของตนเองคอยจับตามองความเคลื่อนไหวที่เมืองหลวงต่อ ขณะเดียวกันก็เตรียมรถม้าและจัดเตรียมสิ่งของสำหรับเดินทางไกล ซีอวี้อันตราย สภาพภูมิประเทศซับซ้อน การเดินทางไปครั้งนี้จะเกิดเหตุพลิกผันอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าใครก็ไม่รู้
โชคดีที่จิ้นอ๋องเอาสมบัติลับของชายแดนเหนือไปส่วนหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นการเดินทางหนีตายทว่าไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเงิน เพียงแต่ตลอดทางนี้คนของเซียวอ๋องสะกดรอยตามมาใกล้ชิดมาก หากไม่คิดหาวิธีแก้ปัญหาทหารที่ไล่ตามมา สุดท้ายจะกลายเป็นภัยอยู่ดี
ชิวเทียนคิดถึงตรงนี้ก็เห็นจิ้นอ๋องป้อนเนื้อเป็ดคำสุดท้ายให้เซวียนเฉ่า เขาอุ้มร่างกายเล็กๆ ของนางขึ้นมา เตรียมพานางไปแช่ยาสมุนไพร
เนื่องจากถูกพิษประหลาด เซวียนเฉ่าจึงกลายเป็นขี้หนาว ปกติต่อให้นอนอยู่บนตั่งอุ่นก็ยังตัวสั่น ในห้องนี้มีตั่งดินอยู่แค่ตัวเดียว ทุกคืนเด็กหญิงจะขยับมาซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเซวียนหมิงด้วยตนเอง
เซวียนหมิงเองก็เปลี่ยนจากความไม่คุ้นชินในตอนแรกเป็นค่อยๆ ชินชา ทั้งช่วยถอดเสื้อนอกให้นาง เหลือแค่เอี๊ยมกับกางเกงติดกาย
เซวียนหมิงค่อยๆ วางตัวนางลงในถังไม้ใบเล็กที่ใส่ยาสมุนไพรอุ่นร้อนเอาไว้ นี่เป็นสมุนไพรที่เขาจ่ายเงินหนัก ติดสินบนทหารทำงานจิปาถะที่รั้งอยู่เฝ้าค่ายทหารต้าฉีของชายแดนเหนือหามา ซึ่งยาสมุนไพรที่เซียวอ๋องแช่อาบในค่ายทหารก็เป็นตำรับยาชุดนี้ หลังจากเซวียนเฉ่าแช่ไปสามสี่ครั้งก็เห็นผลลัพธ์อยู่บ้างจริงๆ ระยะเวลาที่พิษกำเริบค่อยๆ ทิ้งช่วงนานขึ้น
เพียงไม่นานไอร้อนของยาสมุนไพรก็ช่วยให้ดวงหน้าเล็กอ้วนกลมของเด็กหญิงเพิ่มเติมสีเลือดขึ้นมาบ้างในที่สุด ดวงตากลมโตสองข้างเองก็เป็นประกายขึ้นไม่น้อย
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 พ.ค. 68