บทที่ 8
หวังอวี้หล่างผู้นี้นับได้ว่าเป็นบัณฑิตที่มีความสามารถของยุค บทกวีฝีมือเขาได้รับการส่งต่อแพร่หลาย เขาสนิทกับอาจารย์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของสำนักศึกษาบางคน สาเหตุที่มาที่นี่ก็เพื่อมาหาสหาย ไม่ได้คิดว่าจะมาบังเอิญเจอกับอวี้ฉือเฟยเยี่ยนโดยไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้
ถ้าหากเจอกับนางเร็วกว่านี้เล็กน้อย เกรงว่าเขาจะดีใจอย่างออกนอกหน้า แต่เวลานี้เจอหน้านางกลับทำให้ความอึดอัดใจของเขาขมวดปมแน่นขึ้นมากกว่าเดิม
บิดาสนใจแต่ปรับหางเสือตามลมบนคลื่นทะเลราชสำนัก บังคับให้เขาถอนหมั้นกับอวี้ฉือเฟยเยี่ยน เขาเป็นคนมีนิสัยสบายๆ ยึดถือธรรมเนียมจารีตความกตัญญู ย่อมไม่มีทางคัดค้านคำสั่งของบิดา นึกถึงตอนที่พบหน้ากับคุณหนูอวี้ฉือครั้งสุดท้าย ภายในศาลบรรพชนอันว่างเปล่า นอกจากบ่าวรับใช้สูงวัยไม่กี่คนก็คือเงาร่างผ่ายผอมของนาง ดวงหน้าสะอาดที่มักประดับรอยยิ้มหวานหลงเหลือเพียงความเย็นเยือกดุจหิมะเหมันต์ ภาพเหตุการณ์นั้นมักโผล่มาในความฝันซ้ำๆ ตลอดหลายปีนี้
บัดนี้บังเอิญพบเจอโดยไม่ทันตั้งตัวสักนิด หวังอวี้หล่างริมฝีปากสั่นระริกด้วยความตกตะลึง ดวงหน้าขาวสะอาดยิ่งดูซีดเผือดลงกว่าเดิม
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนตระหนักว่าตอนนี้คุณชายสกุลหวังผู้นี้ไม่มีความข้องเกี่ยวใดๆ กับตนเองอีกแล้ว นับประสาอะไรกับที่ดูจากสถานการณ์ในจวนเซียวอ๋องวันนั้น คุณชายหวังสูงศักดิ์เป็นถึงว่าที่ราชบุตรเขยขององค์หญิงเล่อผิงแล้ว ยิ่งไม่อาจพูดอะไรมากอีก นางจึงผงกศีรษะยิ้มน้อยๆ ตามมารยาท นับว่าทักทายแล้วเรียบร้อย ก่อนจูงมือน้องชายตั้งใจจะเดินเข้าสำนักศึกษา หวังอวี้หล่างผู้นั้นกลับคล้ายมีบางอย่างอยากพูดกับนาง ยังคงยืนขวางอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีอึกอัก ทว่าสุดท้ายคำพูดนับร้อยนับพันเหลือรวมเป็นประโยคเดียวว่า “คุณหนูอวี้ฉือ…ไม่ได้พบหน้ากันเสียนาน สบายดีหรือไม่”
อวี้ฉือจิ้งเสียนรู้จักเขาเช่นเดียวกัน เอ่ยเสียงเย็นชาขึ้นที่ด้านข้าง “ญาติผู้พี่ข้าออกห่างจากคนเห็นแก่ตัวชอบประจบประแจงผู้มีอำนาจ ย่อมต้องมีชีวิตสุขสบายใจกว่าเดิม ไม่รบกวนให้คุณชายหวังอวี้หล่างต้องเป็นห่วง”
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนเห็นหวังอวี้หล่างมีท่าทีอับอาย ร้อนรนทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเพราะคำพูดของน้องชาย ก็กระตุกแขนเสื้อของเสียนเกอเอ๋อร์พร้อมเอ่ยเสียงเบา “ห้ามเสียมารยาทเช่นนี้” จากนั้นดึงตัวเขาแล้วรีบร้อนเดินจากไป
นางย่อมไม่เห็นว่าคุณชายบัณฑิตสง่างามผู้นั้นยังคงมองตามแผ่นหลังบอบบางของนางอย่างเบื้อใบ้
หลังจากพาน้องชายเข้าพบอาจารย์และกำชับให้น้องชายตั้งใจศึกษาเล่าเรียนแล้ว อวี้ฉือเฟยเยี่ยนก็เดินออกมาจากสำนักศึกษา ไม่คาดคิดว่าเมื่อเดินถึงหน้าประตูจะได้เจอกับหวังอวี้หล่างที่ยืนนิ่งๆ อยู่ข้างประตู นางจึงก้มหน้าลงเตรียมเดินผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว
นึกไม่ถึงว่าหวังอวี้หล่างจะรวบรวมความกล้าฉวยโอกาสที่รอบข้างไร้ผู้คน จับมือนางดึงตัวเข้าไปในตรอกด้านข้าง จากนั้นรีบร้อนปล่อยมือนางออกเอ่ย “ข้าล่วงเกินแล้ว ขอคุณหนูได้โปรดอภัยให้ด้วย…”
ถ้าเปลี่ยนเป็นบุรุษอื่นเสียมารยาทเพียงนี้อวี้ฉือเฟยเยี่ยนคงเงื้อมือตบใส่ หันตัวกลับหนีไปอยู่บนถนนใหญ่ที่มีผู้คนพลุกพล่านนานแล้ว แต่นางเข้าใจนิสัยของคุณชายหวังผู้นี้ดี เขาเป็นเด็กหนุ่มไร้พิษภัยผู้หนึ่ง ภายในใจจึงไม่ได้หวาดกลัวมากมายนัก เวลานี้เห็นเขาขอบตาแดงระเรื่อทำตัวไม่ถูก แลคล้ายกระต่ายขาวตัวโตที่ถูกหมาป่าหิวกระหายรังแก นางเองก็ตัดใจตำหนิเขาไม่ลง ทำได้เพียงพยายามลดน้ำเสียงแข็งกระด้างลงถาม “คุณชายหวังมีธุระสำคัญอะไรอยากจะพูดหรือ เหตุใดต้องพามาที่นี่ด้วย”
หวังอวี้หล่างเห็นอวี้ฉือเฟยเยี่ยนไม่ได้อับอายหรือโกรธ ถึงได้สงบจิตใจลงเอ่ยเสียงเบา “ปีนั้นหลังจากบอกลากัน ท่านพ่อก็ขังข้าเอาไว้ในจวน ไม่ยอมให้ข้าไปหาเจ้าอีก…ภายหลังหนีออกมาผ่านประตูหลังอย่างยากลำบาก เมื่อไปที่จวนอวี้ฉือกลับได้ยินบ่าวรับใช้บอกว่าเจ้าจากไปแล้ว…ข้าแค่อยากบอกว่าที่ถอนหมั้นในปีนั้นเป็นเจตนาของบิดา ในใจข้า…คุณหนูอวี้ฉือถึงจะเป็นสตรีหนึ่งเดียวในชีวิตที่ข้าอยากแต่งงานด้วย…”
เดิมทีอวี้ฉือเฟยเยี่ยนหลงนึกว่าคุณชายหวังแค่อยากขอโทษด้วยประโยคตามมารยาทเช่นชาตินี้ไร้วาสนา จึงเตรียมตัวเอ่ยตอบรับให้คุณชายนิสัยอ่อนโยนผู้นี้รู้สึกดีขึ้นบ้าง กลับนึกไม่ถึงว่าคุณชายผู้นี้จะเอ่ยถ้อยคำรักลึกซึ้งจำพวก ‘ไม่สมหวังในรัก’ ออกมา ชวนให้คนรับมือไม่ถูกเสียยิ่งกว่าคำตัดรอนน้ำใจเสียอีก
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนรีบเอ่ยขัดคำพูดที่เหลือของเขา เอ่ยเสียงเบาว่า “เวลานั้นทั้งท่านและข้าต่างอายุน้อย ทุกอย่างมีบิดามารดาเป็นผู้จัดเตรียม เรื่องราวบนโลกเปลี่ยนผันมากมาย ท่านอัครเสนาบดีหวังทำเช่นนั้นก็นับว่ารู้จักอ่านสถานการณ์ ต่อให้ท่านพ่อข้ายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่อาจขัดเคือง ในฐานะลูกย่อมต้องเชื่อฟังบิดามารดา ข้าไม่เคยเกลียดหรือแค้นคุณชาย ทุกวันนี้เองก็มีชีวิตสุขสงบดี ขอให้คุณชายไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ คิดแล้วท่านอัครเสนาบดีหวังน่าจะเตรียมคู่ครองที่เหมาะสมให้กับคุณชายแล้ว หวังว่าคุณชายจะทะนุถนอม อย่าได้ทำผิดต่อคนตรงหน้า…”
ไม่พูดถึงคู่ครองที่บิดาจัดเตรียมให้ยังดี ทันทีที่พูดถึงกลับทำให้หวังอวี้หล่างตาแดงขึ้นมาอีกครั้ง