บทที่ 73
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนตัวสั่นสะท้าน ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี
หากไม่เข้าใจเซียวอ๋อง บางทีตอนนี้นางอาจโกรธ หลงคิดว่าเขาแค่คิดหลอกใช้ความสามารถของนางให้ทำงานเพื่อตนเอง แต่ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่ปี บุรุษที่อยู่ตรงหน้าคอยฝึกปรือฝีมือตนเองอยู่ตลอด อุบายแตกต่างจากสมัยปะทะกับนางตอนอยู่ภูเขาไป๋ลู่ไปแล้ว แตกต่างจากฝานจิ่งที่ใจร้อนต้องการเห็นผลในทันที ความก้าวหน้าและการเติบโตของเขานั้นหนักแน่นมั่นคงอย่างยิ่ง
ขณะที่นางในตอนนี้เทียบกับเขาแล้วกลับตกอยู่ในสภาพหยุดนิ่งไม่มีความก้าวหน้าจนน่าอับอาย ต่อให้เซียวอ๋องไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาอันคับแคบดั่งกบก้นบ่อน้ำของตนเอง พื้นที่เล็กๆ อย่างภูเขาไป๋ลู่ไม่อาจเทียบกับประสบการณ์พิชิตใต้หล้าตั้งแต่เหนือจรดใต้ สร้างความสงบให้แว่นแคว้นของเซียวอ๋องได้
เขาถามว่า ‘สนุกเต็มที่หรือไม่’ แต่อวี้ฉือเฟยเยี่ยนรู้ว่าถ้าหากวันนี้บนสนามฝึกเซียวอ๋องเป็นผู้บัญชาการทัพด้วยตนเอง ชัยชนะที่ได้รับไม่มีทางเป็นแค่การคว้าจังหวะชิงธงผู้บัญชาการมาได้เหมือนตอนกลางวันวันนี้อย่างแน่นอน จะต้องเป็นชัยชนะแบบราบคาบ ต่อให้เป็นขุนนางบู๊ที่เรื่องมากกว่านี้ก็ยังหยิบจับเรื่องอะไรมาพูดวิจารณ์ไม่ได้
ดังนั้นหลังจากคิดกระจ่างตรงจุดนี้ นางรู้เรื่องที่เซียวอ๋องเจตนาผลักนางขึ้นแท่นบัญชาการแล้วกลับไม่ได้เกิดความหงุดหงิดที่ตกหลุมพรางเขาเหมือนเมื่อก่อน นางคิดแล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “หม่อมฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการฝึกทหารมานานแล้ว เมื่อกลางวันนี้มิกล้าสนุกเต็มที่แต่อย่างใด…มิหนำซ้ำยังค่อนข้างบกพร่อง ถ้าหากไม่ได้ภาพร่างค่ายกลที่ท่านอ๋องทรงจงใจทิ้งเอาไว้ช่วยชี้แนะก็เกือบจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว หวังว่าท่านอ๋องจะทรงเห็นส่วนรวมเป็นสำคัญ อย่าได้ฝากฝังความสำเร็จหรือความล้มเหลวของกองทัพไว้ที่ตัวหม่อมฉันอีกเด็ดขาด หม่อมฉัน…ไม่ใช่บัณฑิตจูเก๋อผู้ชอบเอาชนะคนนั้นนานแล้ว”
ดวงตาของเซียวอ๋องหรี่ลงน้อยๆ เพราะคำพูดของนาง ก่อนดึงตัวนางเข้ามาในอ้อมกอด มือเชยคางนางไว้แล้วเอ่ย “ทำตัวเหมือนยายแก่เช่นนี้ หรือท่านลุงเจ้าไม่รักษาสัญญา แอบสับเปลี่ยนหญิงชรามาแต่งงานกับข้าแทน จะต้องพิสูจน์ให้ดีเสียแล้ว!”
พูดจบแล้วกลับปลดเปลื้องเสื้อของนางในรถม้า ดูจากเจตนายังตั้งใจจะปลดเอี๊ยมออกตรวจสอบอย่างเปิดเผยอีกด้วย
ความคิดของคนต่ำทรามผู้นี้นางไม่เคยตามทัน ชั่วขณะก่อนยังถกปรัชญาชีวิตกันลึกซึ้ง ชั่วขณะต่อมากลับเลื่อนมือลงด้านล่างอย่างรวดเร็ว เล่นสนุกกับการตรวจของขึ้นมา
ล้อรถม้ากำลังแล่น องครักษ์มากมายเพียงนี้ล้อมหน้าล้อมหลัง เขาคิดจะทำอะไรกัน
นางยื่นมือไปปิดริมฝีปากที่คิดจะล่วงเกินของเซียวอ๋องทันที ก่อนเอ่ยเสียงเบาด้วยดวงหน้าแดงก่ำ “ขอท่านอ๋องโปรดทรงสำรวมด้วยเพคะ แม่ทัพใหญ่สองคนของพระองค์เพราะว่า ‘กิน’ เนื้อสดใหม่ที่หอคณิกามากเกินไป จวบจนตอนนี้ยังจุกจนหมดสติอยู่เลย ตอนนี้ต่างรับรู้กันไปทั่วไหวหนาน ถ้าหากพระองค์ทรงทำเช่นนี้บนถนนในชนบทกลางป่าเขาอีก ถ้าอย่างนั้น ‘ความกล้าหาญ’ ของกองทัพเซียวบนเตียงนารีก็จะยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว”
เซียวอ๋องจะยอมหยุดได้อย่างไร เขาใช้ปลายลิ้นอุ่นร้อนไล้เลียนิ้วมือดุจต้นหอมที่ปิดปากเขาอยู่ พร้อมกับเอ่ยเสียงอู้อี้ “ข้าเดาผิดไปแล้ว นี่ใช่คนแก่ที่ใดกัน อ่อนนุ่มอย่างยิ่งต่างหาก…สองวันมานี้อยู่ในหมู่บ้านไม่ได้อาบน้ำ หลังจากกลับจวนรอชะล้างคราบสกปรกแล้ว ค่อยทะนุถนอมชายาตัวนุ่มนิ่มของข้าดีๆ อีกที…”
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนแทบจะถูกองค์ชายอันธพาลผู้นี้ไล่ต้อนจนสติเตลิด นางเอ่ยเสียงเบา “ใบหน้าของท่านอ๋องทรงแก่นัก ขูดผิวข้าเจ็บไปหมดแล้ว…”
เซียวอ๋องรู้ว่านางหมายถึงตอหนวดเคราของตนเองที่ผุดขึ้นมาใหม่ช่วงนี้ จึงยิ้มชั่วร้ายเอ่ย “ไม่แก่จะคั้นน้ำเต้าหู้สดใหม่ออกมาได้อย่างไร คืนนี้จะให้เจ้าได้รู้ถึงความดีงามที่ซ่อนอยู่…”