LOVE
ทดลองอ่าน ณัฐรัมภา บทนำ-บทที่ 1
ณัฐรัมภาเป็นเหมือนเจ๊ใหญ่ในออฟฟิศ โดยเฉพาะในฝั่งงานออกแบบตกแต่งภายในซึ่งมีเธอเป็นพนักงานคนแรกของสายนี้ ภาพลักษณ์ภายนอกของเธอคือสาวสวยเปรี้ยว แต่งตัวเก่ง แสบ ร้าย ซึ่งตัวจริงของณัฐรัมภาก็เหมือนภาพที่คนอื่นมองมานั่นแหละ ทว่าในอีกมุมที่คนนอกไม่ค่อยได้เห็นคือเธอมีความเป็นพี่สาวใจดี ดูแลเพื่อนร่วมงานดีมาก โดยเฉพาะรุ่นน้อง เวลาน้องๆ มีปัญหาเรื่องงานเธอก็มักจะแนะนำให้คำปรึกษา ถ้าน้องๆ ต้องทำงานดึกและเธอว่างก็มักจะอยู่เป็นเพื่อน โดยเฉพาะหากมีน้องผู้หญิงที่ไม่มีรถเธอก็จะตระเวนไปส่งกลับบ้านเลยทีเดียว
กับสุรทินแม้ปกติจะตีกันและลับฝีปากกันมากกว่าคุยแบบธรรมดา แต่เอาเข้าจริงณัฐรัมภาก็คอยช่วยเหลือดูแลเขามาตลอด ดังนั้นในเวลาแบบนี้เขาจึงไม่อาจปล่อยให้หญิงสาวมาเมาตามลำพังจนเสี่ยงอันตราย ยิ่งสวยเอ็กซ์แบบนี้มีสิทธิ์จะโดนฉวยโอกาสเยอะมาก
“แต่จีขอพูดอะไรหน่อยนะ จีรู้ว่าพี่รัมภากำลังเซ็ง แต่การเมาแบบนี้มันไม่ดีต่อตัวพี่รัมภาเองนะ”
“พี่รู้” ณัฐรัมภาไม่มีวี่แววว่าจะโกรธเคืองที่โดนรุ่นน้องเตือนตรงๆ เธอก้มลงจิ้มเอ็นข้อไก่ทอดส่งเข้าปาก
“จะว่าไปตอนเลิกกับแฟนสองคนก่อนหน้านี้เจ๊ก็ไม่ได้มาเมานี่ คนนี้เพิ่งอยู่ในระยะจีบด้วยซ้ำ หรือเจ๊ชอบคนนี้มาก” สุรทินอดถามไม่ได้
“เปล่า แล้วสองคนก่อนหน้านี้ก็มีที่เป็นแฟนแค่คนเดียว อีกคนแค่คุยๆ กิ๊กๆ” ณัฐรัมภาแถลง “คนนี้ฉันก็ชอบเขาแหละ คุยกันก็คลิกดี แต่แบบ…คิดดูสิหมู มีคนเข้ามาจีบฉันเยอะแยะ แต่ก็มีแค่พวกห่วยแตกแบบนี้ นี่ขนาดฉันคัดพวกที่เห็นว่าไม่โอเคทิ้งไปแล้ว ไอ้พวกเจ้าชู้ทัศนคติพังยังเล็ดลอดมาอีก มันน่าเซ็งไหม…แล้วไอ้บ้านี่มันกิ๊กผู้หญิงเป็นคอลเล็กชั่นนะ ฉันดันเพิ่งมาสงสัยเพราะผู้หญิงอีกคนพยายามแสดงตัว มันน่าโมโหไหมล่ะที่ฉันตาถั่วเปิดโอกาสให้มันจีบ คุยกับมันทั้งที่มันชาติชั่วขนาดนี้ ดีนะที่ยังไม่หลงผิดถึงขั้นไปคบกับมัน!”
“ผมว่าบางทีเจ๊อาจจะดูผู้ชายไม่เก่งอ่ะ เจ๊น่าจะให้คนอื่นช่วยดูนะ ในออฟฟิศก็คนเยอะแยะ อย่างพี่วินพี่วีก็น่าจะช่วยได้” ชายหนุ่มออกความเห็น
ที่ผ่านมาจะว่าสาวรุ่นพี่รีบร้อนมีแฟนก็ไม่ได้ เพราะเท่าที่เห็นณัฐรัมภาก็ใช้เวลาพอสมควร และด้วยความที่เป็นคนสวยแถมดูเปรี้ยวๆ ทำให้มีคนมาจีบเยอะ ตัวเลือกเยอะ แต่เจ้าตัวก็ไม่ชอบใครง่ายๆ ด้วย สุดท้ายส่วนใหญ่จะถอยไปเองหลังจากตามจีบเธอได้พักหนึ่ง
ปัญหาก็คือทั้งที่ใช้เวลาพยายามดูอย่างดี ณัฐรัมภาก็ยังมักเลือกได้คนที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีทั้งพวกเจ้าชู้เงียบ แอบบ้าอำนาจ และอารมณ์ร้อน ซึ่งพวกนี้ล้วนมาแสดงให้เห็นตอนคบกันเป็นแฟนแล้ว ส่วนที่ดีๆ ก็มีอยู่บ้าง แต่ก็ติดปัญหาอื่น เท่าที่รู้ก็เป็นต้นว่าไลฟ์สไตล์ไปกันไม่ได้ หรือไม่น่าจะเข้ากับครอบครัวฝ่ายชายได้อะไรทำนองนั้น ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่ช่วยไม่ได้ ที่แน่ๆ กลุ่มหลังนี้มีน้อยกว่า มองรวมๆ แล้วสุรทินจึงลงความเห็นว่าณัฐรัมภาน่าจะมีปัญหาเรื่องการดูผู้ชาย
“พี่วินเขาจ้างฉันมาเป็นดีไซเนอร์ ไม่ใช่จ้างมาเป็นลูกสาว” หญิงสาวกลอกตา “นานๆ ให้ช่วยทีก็คงพอได้แหละ แต่จะให้มานั่งสแกนทั้งหมดนี่ก็เกินไปหน่อยป่ะ”
“ก็เอาแค่คนที่คิดว่าจะคบจริงจังมาให้ช่วยกันดูก็ได้ เจ๊จะได้ไม่ต้องเฟลซ้ำซ้อนแบบนี้ไง”
“ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าบางทีฉันอาจจะต้องคำสาป เกิดมาสวยเซ็กซี่เบอร์นี้เลยต้องแลกกับการเจอผู้ชายห่วยๆ ไม่รู้จบ ฉันเริ่มปลงแล้วว่าอาจจะต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต มานึกดูมันก็อาจจะไม่แย่นะ พวกเพื่อนๆ พี่ๆ ที่รู้จักแล้วแต่งงานมีลูกยังบอกเลยว่าถ้าย้อนเวลาได้ก็คงเลือกอยู่เป็นโสด”
ณัฐรัมภาถอนหายใจ ขณะที่สุรทินทำหน้าเมื่อยอีกรอบ ครั้นจะขัดก็พูดไม่ออกเพราะอีกฝ่ายดันสวยเซ็กซี่จริงๆ เสียด้วย เพียงแต่มันก็เป็นคำพูดที่ฟังแล้วน่าหมั่นไส้มากเช่นกัน
“จีว่ามันอาจแค่ยังไม่ถึงเวลาที่พี่รัมภาจะได้เจอเนื้อคู่ก็ได้ อย่างที่เขาพูดกันไงว่าถ้าคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน อีกอย่างพี่รัมภาก็เพิ่งยี่สิบแปดนี่นา ยังมีเวลาอีกนะ” จิระประไพออกความเห็น
“ถึงพี่จะเพิ่งยี่สิบแปด แต่ก่อนจะแต่งงานเราก็ต้องคบกับอีกฝ่ายนานจนพอจะแน่ใจด้วยไม่ใช่เหรอ เป็นผู้หญิงนี่ลำบากนะ ถ้าแต่งงานตอนอายุเยอะแล้วอยากมีลูกก็ยิ่งต้องคิดหนัก ถ้าจะไม่มีลูกก็ต้องหาผู้ชายที่ไม่อยากมีลูกเหมือนกันอีก” ณัฐรัมภาพูดเหมือนบ่นกับตัวเองมากกว่า “แต่เอาเหอะ จริงๆ พี่ก็อยู่คนเดียวได้แหละ พี่แค่สงสัยเฉยๆ ว่าตัวเองอาจจะต้องคำสาปให้เจอแต่ผู้ชายห่วยๆ ไม่ก็คนที่ไม่พอดีกัน”
“นี่เจ๊ถอดใจเรื่องหาแฟนแล้วจริงดิ” สุรทินมองรุ่นพี่ด้วยสายตาเคลือบแคลง
“มีประโยคไหนยะที่ฉันบอกว่าถอดใจ แกไม่ได้ดื่มนี่ เมาอากาศหรือไง” สาวสวยขมวดคิ้ว “ฉันแค่บอกว่าเซ็งและสงสัย…นี่แกยังไม่เคยไปคุยกับลูกค้าแบบเดี่ยวๆ ใช่ป่ะ เวลาไปคุยกับลูกค้าคนเดียวจะเมาดิบแล้วมโนเอาเองแบบนี้ไม่ได้นะ”
“โอ๊ย เจ๊…จะมาเลกเชอร์ด้วยอินเนอร์ดีไซเนอร์อะไรตอนนี้เนี่ย!” เขาร้อง
“เออ แกนี่ยังไง ฉันเมาอยู่ยังจะต้องให้สอน อาการหนักนะ” ณัฐรัมภาส่ายหน้าไปมาคล้ายเอือมระอา
“เจ๊ นี่ถ้าผมไม่เป็นคนดี ผมทิ้งเจ๊แล้วเนี่ยรู้ป่ะ”
“ส่วนใหญ่คนเขาก็พูดกันแต่ว่าให้รอ เดี๋ยวจะได้เจอคนที่ใช่เอง ความรักจะมาเองอะไรประมาณนั้นใช่ไหม” สาวสวยทำหูทวนลมแล้วหันไปหาจิระประไพ “ที่ผ่านมามีแต่คนเข้ามาหาพี่เองตลอดเลยนะ จนนี่พี่ชักจะคิดแล้วว่าหรือพี่ควรลองเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกมั่งเผื่อจะเวิร์ก”
“จีว่าพี่รัมภาควรรอให้หายเมาแล้วค่อยคิดเรื่องนี้” มัณฑนากรรุ่นน้องตอบหลังจากอึ้งไปนิดหนึ่ง
“บางทีไอเดียดีๆ ก็ได้มาตอนเมานะขอบอก” ณัฐรัมภาหัวเราะคิกคัก จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วไล้วนรอบขอบแก้วเหล้าเล่นไปมา “มานึกๆ ดู การจีบกันนี่เสียเวลาเหมือนกันนะ เวลาเบื่อๆ นี่วันไนต์สแตนด์ก็ดูน่าสนใจดี”
“เจ๊เมาแล้วล่ะ” สุรทินถอนหายใจปลงๆ “เอ้า จีรีบๆ ชงเหล้าให้เจ๊รัมภา เอาให้เมาหลับไปเลย ปล่อยให้เมาแค่นี้เดี๋ยวเจ๊ได้ไปชวนใครวันไนต์สแตนด์แน่ๆ เป็นภัยต่อผู้ชายไปอีก”
“ไอ้หมู ฉันนั่งหัวโด่อยู่นี่ด้วยนะ!” รุ่นพี่สาวคนสวยแหว
“ก็ต้องอยู่ดิ ถ้าเจ๊ไม่นั่งหัวโด่อยู่นี่ผมกับจีจะมานั่งที่นี่ทำไม เอ้า ดื่มๆ รีบเมารีบกลับ…เออ แต่นึกอีกที ไม่ต้องรีบมากนะเจ๊ เมื่อกี้ผมสั่งเอ็นข้อไก่ทอดไปอีกจานยังไม่ได้เลยอ่ะ ให้มันมาเสิร์ฟแล้วผมกินเสร็จก่อนละกัน”