ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 2

หน้าที่แล้ว1 of 5

บทที่ 2

ทางนี้อวี๋ไฉ่หลิงนึกถึงอาจู้ ทางนั้นฝูอี่กับอาจู้สองสามีภรรยาก็กำลังถกความเห็นเรื่องของเธออยู่เช่นกัน

“วันนี้ข้าเห็นคุณหนูดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก สภาพของนางตอนที่ข้าเพิ่งมาถึงทำให้ข้าตกใจแทบตายจริงๆ” ฝูอี่อาบน้ำเสร็จก็มาเอนหลังพักผ่อนในห้องพักทิศตะวันตกอันอบอุ่น แล้วให้ภรรยาช่วยสางเรือนผม

อาจู้ชะงักหวี เม้มปากเล็กน้อยค่อยเอ่ยตอบ “ตอนที่ท่านมาถึง อาการคุณหนูดีขึ้นมากแล้ว วันนั้นนางหวิดจะเอาชีวิตไม่รอดด้วยซ้ำ เป็นข้าเองที่ประมาทมาช้าไปหลายวัน เดิมทีนึกว่าอาเยวี่ย…” พอเอ่ยถึงชื่อนี้สีหน้านางก็อึมครึม

ฝูอี่มองสีหน้าภรรยาก่อนกล่าว “ใจคนผันแปรได้ง่าย เวลาตั้งสิบปีเชียวนะ ก่อนที่ใต้เท้ากับนายหญิงจะจากไป คุณหนูเพิ่งอายุครบสามขวบ ข้าจำได้ตอนนั้นใต้เท้าอยู่บนหลังม้าก็ยังคงเหลียวมามองไม่เลิกรา ขอบตาถึงกับแดงก่ำแล้ว เจ้าเองก็อย่าตำหนิอาเยวี่ยเลย บุรุษคนเก่าของนางเสียไปตอนอยู่ใต้สังกัดของใต้เท้า บุรุษที่นางหาใหม่ก็มีความเกี่ยวพันกับสกุลเก่ออยู่ก่อน นางยังจะทุ่มเทใจให้นายหญิงได้อย่างไร”

อาจู้ฟาดหวีลงบนโต๊ะเตี้ยก่อนเอ่ยด้วยเสียงที่ดังขึ้น “ดาบกระบี่ไร้ตา กองทัพติดตามใต้เท้าไปแสวงหาอนาคตก็เป็นเรื่องที่เอาแน่ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไรมานายหญิงปลอบขวัญหญิงม่ายกับบุตรกำพร้าอย่างไม่เคยตระหนี่ มีตกหล่นปากท้องกับเสื้อผ้าของอาเยวี่ยหรือไร นางจะแต่งงานใหม่นายหญิงก็ไม่ได้ขัดขวาง! คราวนั้นลือกันผิดๆ ว่าท่านตายที่เมืองหนานติ้ง ข้าให้ลูกๆ ไว้ทุกข์แล้ว แม้จะต้องหาบุรุษสักคนแต่งงานใหม่ แต่ข้าเคยทำให้งานที่นายหญิงมอบหมายเสียการหรือ! กลัวตาย เฮอะ กลัวตายก็ควรเอาอย่างอาเซียว ให้บุรุษของนางรั้งอยู่ในหมู่บ้านสิ ต่อให้ไม่มีอนาคต ชั่วดีอย่างไรก็ปลอดภัยทั้งครอบครัว แต่นี่จะเอาทั้งอนาคตทั้งความปลอดภัย มีเรื่องดีเพียงนั้นที่ใดกัน!”

ฝูอี่มุมปากกระตุกตุบๆ ความจริงหลังศึกที่เมืองหนานติ้งหนนั้นเขาเร่งฝากคนส่งข่าวกลับบ้านแล้ว จากเริ่มจนจบแค่ไม่กี่เดือนเองนะ เขาจึงอยากท้วงติงภรรยาที่มีความคิดจะแต่งงานใหม่ยิ่งนัก…ผ่านไปสักปีเจ้าค่อยพิจารณาเรื่องแต่งงานใหม่จะเหมาะควรกว่าใช่หรือไม่เล่า

ทว่าสุดท้ายฝูอี่ก็ยังคงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เจ้าอย่าโมโหไปเลย จริงสิ ข้ากลับมาหลายหนก่อนล้วนได้ยินว่าคุณหนูยิ่งโตยิ่งดื้อ ซ้ำยังอารมณ์ร้าย เอะอะก็ทุบตีด่าทอบ่าวรับใช้ ความประพฤติย่ำแย่ แต่ตอนนี้มาเห็นเองข้าว่าคุณหนูอุปนิสัยดียิ่ง ลูกๆ ต่างก็ชอบนางมาก”

อาจู้แค่นเสียงฮึ ก่อนหยิบหวีขึ้นมาสางเรือนผมให้สามีต่อ “ตลอดมาข้าไม่ได้อยู่ในจวน ยังไม่เคยพบปะคุณหนู ทีแรกนึกเพียงว่าสตรีต่ำช้าเหล่านั้นสอนนางจนเสียคน ถึงอย่างไรนางก็ยังเด็ก รอจนนายหญิงกลับมาค่อยสอนใหม่แล้วกัน ใครจะรู้ หึๆ เห็นชัดว่าคุณหนูอัธยาศัยดียิ่ง ฟื้นแล้วพูดจาสุภาพเสมอมา ข้ากลัวว่านางจะอัดอั้นอยู่ในใจ จึงให้อาเหมยพานางไปเที่ยวเล่นทั่วๆ วันนั้นแม่นางใหญ่สกุลชิวออกเรือน ข้าก็ให้ผู้คุ้มกันสองคนที่ท่านมอบแก่ข้าเป็นเพื่อนพวกนางไปชมความครึกครื้น กลับมาแล้วเห็นผลดีดังคาด นางพูดคุยยิ้มเก่งขึ้นมากทีเดียว”

ฝูอี่ผงกศีรษะด้วยความพึงพอใจ เงียบไปครู่เดียวก็โพล่งขึ้น “ผู้เฒ่าชิวแต่งบุตรสาวอีกแล้ว?” ดูเหมือนเขากลับมาทีไรก็จะได้ยินว่าผู้ใหญ่บ้านสูงวัยท่านนี้แต่งบุตรสาว “นี่เขามีบุตรสาวกี่คนกันแน่”

อาจู้ตอบกลั้วหัวเราะ “ข้าก็บอกแล้วว่าเป็นแม่นางใหญ่ ท่านฟังอย่างไรของท่าน สกุลชิวมีบุตรชายสองคน บุตรสาวมีเพียงคนเดียว ทั้งเป็นบุตรสาวที่ได้มายามแก่ตัวแล้ว คราวก่อนท่านกลับมา พอดีแม่นางใหญ่แต่งงานใหม่ ส่วนหนนี้เป็นการแต่งงานหนที่สาม”

ฝูอี่ส่ายหัว “ผู้เฒ่าชิวปล่อยปละบุตรสาวคนนี้เกินไป หญิงม่ายแต่งงานใหม่ไม่เป็นปัญหา แต่นี่สามีของนางยังดีอยู่แท้ๆ นางกลับอาละวาดหย่าร้างไปแต่งงานใหม่เพราะหมายตาบุรุษอื่น เพื่อนบ้านต้องเอาไปพูดกันสนุกปากเป็นแน่”

อาจู้ยิ้มกล่าว “เป็นความจริงว่าสามีที่นางแต่งใหม่ผู้นั้นรูปโฉมชวนมอง อุปนิสัยก็อ่อนโยนด้วย”

ฝูอี่ชำเลืองภรรยา อาจู้ก็มองกลับมาหน้าตาเฉย ฝูอี่หงอลงทันควัน แล้วปลอบใจตนเองว่าบ่าวย่อมจะคล้อยตามนาย เปรียบกับใต้เท้าแล้วยังนับว่าตนมีบารมีของผู้เป็นสามีใช้ได้ วันนั้นนายหญิงชมดูกายกรรมที่จวนแม่ทัพวั่น เอ่ยชมนักกายกรรมร่างกำยำผู้หนึ่งว่าหล่อเหลายิ่ง ใต้เท้ามิเพียงไม่กล้าโต้แย้ง ยังยกสุราเอ่ยผสมโรงด้วย ‘ยังคงเป็นฮูหยินข้าที่ตาถึง แม้เจ้าหนุ่มนั่นด้อยกว่าข้าไปบ้าง แต่ในกลุ่มนักกายกรรมด้วยกันก็นับว่าดูดีที่สุดแล้ว’ แม่ทัพวั่นถึงกับพ่นสุราออกทางรูจมูกโดยตรง ไม่รู้เพราะตกใจหรือโมโหกันแน่

ฝูอี่ถามภรรยาพลางมองไปยังซีกไม้ไผ่เรียวเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ย นี่คือสิ่งที่เขาควบม้าเร็วนำกลับมา “บนสารของนายหญิงเขียนว่าอย่างไรหรือ” เขาไม่รู้หนังสือ

อาจู้ปรายตามองซีกไม้ไผ่นั้นก่อนตอบเนิบๆ “ทุกสิ่งเตรียมพร้อมแล้ว เพียงรอนายหญิงกลับมา”

ฝูอี่ผงกศีรษะ “เมื่อใดเล่า”

“ในสามถึงห้าวันนี่ล่ะ”

หน้าที่แล้ว1 of 5

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com