ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 6 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 6

อวี๋ไฉ่หลิงชมดูอย่างออกรส ครั้นสัมผัสได้ว่ายาในชามจวนจะเย็นชืดแล้วก็รีบแหงนคอดื่มจนหมดในรวดเดียว มีละครให้ดู ถึงกับไม่รู้สึกว่ายาขมปร่ายากกลืนอีก ใครจะรู้กลับถูกสายตาอันเรียบเย็นของเซียวฮูหยินเห็นเข้าอย่างถนัดถนี่ ชิงชงคอยสังเกตเซียวฮูหยินอยู่ตลอด พอมองตามสายตาของอีกฝ่ายไปจึงเห็นพฤติกรรมของอวี๋ไฉ่หลิงพอดีเช่นกัน ชั่วขณะนั้นในใจนางพลันไม่รู้ว่าควรอุทานเช่นไร

เซียวฮูหยินกล่าวเสียงหนัก “อาจู้ คลุมเสื้อให้เหนียวเหนี่ยวมิดชิดหน่อย แล้วพาไปพักผ่อนในห้องข้า” ถึงอย่างไรฉากวิวาทระหว่างผู้เป็นย่ากับผู้เป็นบิดาก็ไม่ควรให้ผู้เยาว์ชมดูเรื่อยไป

อวี๋ไฉ่หลิงผิดหวังอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่กล้าคัดค้าน ขณะที่มือไม้อันคล่องแคล่วของอาจู้สวมเสื้อนอกทับด้วยเสื้อคลุมให้คุณหนู เหลียนฝางกับเฉี่ยวกั่วที่อยู่อีกด้านต่างเร่งฉวยหมอนอิง เบาะรอง กับของว่างอีกหลายกล่องเป็นพัลวัน จากนั้นทั้งสามก็ล้อมพาคุณหนูออกจากห้องนี้ไปโดยไว อ้อมผ่านทางระเบียงที่ยาวเพียงสิบกว่าก้าว ผลุบเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง

เห็นชัดว่าห้องนี้เก็บกวาดขึ้นเฉพาะกิจ เครื่องตกแต่งภายในห้องเรียบสมถะยิ่งกว่าห้องของตนเสียอีก อวี๋ไฉ่หลิงกัดผลไม้แช่อิ่ม พลางเงี่ยหูฟังเสียงก่นด่าปนร้องไห้ที่แว่วมาจากทางนั้นแล้วคิดภาพว่าการศึกเป็นเช่นไร น่าเสียดายที่ตนไม่ได้เห็นการถ่ายทอดสดเหตุการณ์แบบวันนี้อีกเลย

 

หลายวันต่อมาอวี๋ไฉ่หลิงล้วนกินข้าว ดื่มยา นอนพัก แล้วก็เดินวนในห้องสามรอบเช่นเคย ดูเหมือนเฉิงสื่อกับเซียวฮูหยินจะงานรัดตัวอย่างยิ่ง ในแต่ละวันมีเวลาเกินครึ่งวันที่ไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ว่าวุ่นทำอันใดกันอยู่ ทุกวันมีแต่ชิงชงฮูหยินที่แวะมานั่งสนทนาในห้องของอวี๋ไฉ่หลิงช่วงสั้นๆ รวมถึงสอบถามว่าร่างกายฟื้นตัวเป็นอย่างไรแล้ว

ชิงชงฮูหยินเพียงมีรูปโฉมธรรมดา ทว่าโดดเด่นที่คิ้วตาหมดจดนุ่มนวล มุมปากสองข้างประกอบด้วยลายเส้นราวแต้มยิ้มอยู่เสมอ ยามที่ไม่ยิ้มก็ดูคล้ายกำลังยิ้มอยู่ ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกใกล้ชิดเป็นกันเอง เดิมอวี๋ไฉ่หลิงนึกว่าอีกฝ่ายมาเพื่อสอนกฎระเบียบตน ผู้ใดจะรู้ว่าชิงชงฮูหยินเพียงชวนคุยสัพเพเหระปนยิ้มละไม บางครั้งนำของว่างเลิศรสที่อวี๋ไฉ่หลิงไม่เคยเห็นมาด้วย บางครั้งก็เป็นปิ่นหยกปิ่นทองหรือต่างหูที่เล็กประณีต ไม่กี่วันต่อมาอวี๋ไฉ่หลิงจึงค่อยๆ เก็บความระแวดระวังไป

“นายหญิงกับใต้เท้านำสิ่งของหลายอย่างกลับมาให้คุณหนูเล็กด้วย ล้วนใส่หีบมัดอยู่ในรถคันใหญ่ที่ด้านหลัง เพียงแต่หลายวันนี้มีงานปลีกย่อยมากมายจึงยังไม่ทันกระทั่งจะแกะเชือก ไว้สะสางงานเสร็จจึงจะค่อยมาเปิดหีบ” ชิงชงฮูหยินเอ่ยปนยิ้มน้อยๆ สองมือวางซ้อนกันบนตัก นั่งตัวตรงอย่างให้เกียรติ

อวี๋ไฉ่หลิงผงกศีรษะขานตอบ “เจ้าค่ะ ใกล้จะฉลองวันปีใหม่แล้ว ท่านพ่อกับท่านแม่ย่อมจะงานยุ่ง”

ในดวงตาของชิงชงฮูหยินสั่นไหวเล็กน้อย ไม่กล้าเล่าออกไป

 

เนื่องจากได้พูดคุยกันทุกวัน อวี๋ไฉ่หลิงจึงเพิ่งรู้ว่าชื่อจริงของตนคือ ‘เฉิงเซ่าซาง’ มีพี่ชายฝาแฝดอีกคนชื่อ ‘เฉิงเซ่ากง’ เล่ากันว่าเดิมทีนายท่านผู้เฒ่าเฉิงปู่ของตนป่วยเรื้อรัง นอนซมมาหลายเดือนจนลมหายใจแผ่วเบาราวกับใยแมงมุมแล้ว แต่พอได้ยินว่าเซียวฮูหยินคลอดบุตรแฝดชายหญิง ด้วยอารามยินดีเป็นล้นพ้น เขาพลันไอเอาเสมหะที่เหนียวข้นออกมาคำหนึ่ง ถึงกับทำให้อยู่ต่อได้อีกครึ่งปีกว่า แม้ต่อมาจะยังคงตายจากไป ทว่าเวลาครึ่งปีกว่านี้กลับเป็นความโชคดีใหญ่หลวงสำหรับเฉิงสื่อซึ่งตอนนั้นกำลังทำศึกขับเคี่ยวอยู่ในห้วงสำคัญ

ผู้คนต่างพูดกันว่านี่เป็นครรภ์มงคล นักดนตรีอย่างนายท่านผู้เฒ่าเฉิงดีอกดีใจยิ่ง จึงอวดความรู้ยกคำอ้างอิงจากตำราโบราณมาเอ่ยว่า ‘ข้าไม่นึกเลยว่ายังสามารถเห็นหน้าเด็กสองคนนี้ พิณของเสินหนง* นั้นมีห้าสาย เหวินหวังเพิ่มเติมอีกสองสาย** เรียกว่าเซ่ากงกับเซ่าซาง ใช้นามนี้เป็นชื่อของเด็กก็แล้วกัน’

ไม่ผิดคาดโดยสิ้นเชิง เว้นแต่ท่านสามเฉิงจื่อที่ตอนนั้นเล่าเรียนอยู่ข้างนอก คนทั้งครอบครัวก็มีแต่เซียวฮูหยินที่รู้ว่านายท่านผู้เฒ่าเฉิงกำลังพูดอันใด ด้วยเหตุนี้นาม ‘เฉิงเหนี่ยว’ ซึ่งเดิมเตรียมไว้ให้ทารกหญิงแรกเกิดนั้น จึงกลายมาเป็นชื่อเล่นแทน

 

* เสินหนง (เทพแห่งการเกษตร) หรือเหยียนตี้ (จักรพรรดิแดง) คือผู้นำชนเผ่าหนึ่งในยุคบรรพกาล เล่ากันว่าเป็นผู้สอนให้มนุษย์รู้จักเพาะปลูก ใช้สมุนไพรรักษาโรค รวมถึงเป็นผู้ประดิษฐ์พิณห้าสายที่เรียกกันว่า ‘พิณเสินหนง’

** เหวินหวัง คือโจวเหวินหวังพระบิดาของโจวอู่หวังผู้สถาปนาราชวงศ์โจว บางตำราว่าโจวเหวินหวังเพิ่มสายพิณหนึ่งสาย โจวอู่หวังเพิ่มสายพิณอีกหนึ่งสาย โดยเซ่ากงคือชื่อสายพิณสายที่หก เซ่าซางคือชื่อสายพิณสายที่เจ็ด

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com