ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 133 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 133

5 of 5หน้าถัดไป

ราตรีนั้นเฉิงเซ่าซางสะดุ้งตื่นพร้อมกับเม็ดเหงื่อโซมศีรษะ นางมองเห็นนิ้วมือของตนเองสั่นเทิ้ม ชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลายสีทองระยับบนราวแขวนที่อยู่ด้านข้างให้ความรู้สึกกดทับจนนางหายใจไม่ออก อาภรณ์หรูหราชั้นเลิศซึ่งช่างปักที่ดีที่สุดสิบสองคนของวังหลวงใช้เวลาหนึ่งเดือนเต็มรังสรรค์ขึ้นนี้ กลับทำให้นางพรั่นใจสุดพรรณนา

หลังจากเหม่อลอยพักใหญ่ นางก็คลุมเสื้อลุกขึ้น อ้อมผ่านเหลียนฝางที่หลับสนิทอยู่อย่างระมัดระวัง เดินไปจนถึงกลางลานตามลำพัง

รัตติกาลลึกล้ำดั่งบึงลึก เย็นเยียบเฉกน้ำเย็น นางเดินไร้จุดหมายไปหนึ่งรอบ โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวถึงกับมายังหอที่มีห้องใต้หลังคาซึ่งตนมาเยือนเมื่อกลางวัน

นางเดินเข้าไปในห้องดนตรีของนายท่านผู้เฒ่าเฉิง อุ้มผีกู่ใบนั้นแล้วนั่งหันไปทางหน้าต่างหาดวงจันทร์

ฝ่ามือแรกตีลงไป…คล้ายแดนไกลมีหมื่นอาชาห้อตะบึง กีบเท้าย่ำปานเหินทะยาน ผืนดินสะท้านภูผาสะเทือน ฝ่ามือที่สองตีลงไป…ดุจดาบกระบี่เผยคมวาววับ แม่ทัพทหารหาญเข้าตะลุมบอน เลือดเนื้อเกลื่อนกระเซ็น กลิ่นอายแห่งสงครามพาให้ลมหายใจติดขัด ฝ่ามือที่สามตีลงไป…เฉกเหยี่ยวบินผงาดกลางเวิ้งฟ้าอันสูงลิ่ว นภาใสดั่งถูกชะล้าง ไร้พยับเมฆแม้ปุยเดียว ฝ่ามือที่สี่ตีลงไป…

เฉิงเซ่าซางยกฝ่ามือที่เจ็บปวดสั่นเทาขึ้นป้องดวงตา หยาดน้ำใสวาดผ่านวงหน้าโดยไร้เสียง

ในที่สุดนางก็รู้ว่าเหตุใดตนมักหวั่นวิตกโดยไม่รู้สาเหตุ มักแสดงท่าทีระวังป้องกันอย่างไม่อาจอธิบายได้ อันที่จริงเรื่องราววางแผ่อยู่ตรงหน้านางแต่แรกแล้ว นางตระหนักได้ถึงสิ่งที่ชวนกระวนกระวายใจ แต่กลับไม่อาจระบายออกจากปาก

ชีวิตคนเราประหนึ่งเม็ดทรายที่คืบคลานอยู่ริมทะเล เกลียวคลื่นลูกแล้วลูกเล่าซัดสาดมา ไม่ว่าจะเป็นคลื่นเล็กสาดฟองสีขาวหรือเป็นคลื่นยักษ์ท่วมมิดศีรษะ นอกจากฝืนเชิดคอแบกรับ ก็ดูเหมือนจะไม่มีหนทางอื่นใด

เฉิงเซ่าซางลดมือที่ชุ่มไปด้วยน้ำตา แล้วยืดแผ่นหลังตรง…นางไม่อาจมัวนั่งร่ำไห้ แต่เล็กมานางก็ไม่ใช่คนที่จะนั่งงอมืออยู่เฉย นางยังมีเรื่องอีกมากที่จะต้องทำ

 

* อวิ๋นเมิ่ง (หรืออวิ๋นเมิ่งเจ๋อ) เป็นคำเรียกรวมกลุ่มทะเลสาบขนาดใหญ่ในสมัยโบราณ ยุคก่อนราชวงศ์ฉินกินพื้นที่ยาวรวม 450 กิโลเมตร ต่อมาถูกตะกอนทับถมจนมีพื้นที่หดเล็กลงเรื่อยๆ ปัจจุบันเหลือเพียงทะเลสาบไม่กี่แห่งที่กระจายตัวแยกกัน

** จิงเว่ยถมทะเล เป็นตำนานเทพปกรณัมจีนที่สื่อถึงจิตใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ความว่าธิดาคนเล็กของเหยียนตี้ (หรือเสินหนงเทพแห่งการเกษตร) ไปเที่ยวทะเลบูรพาแล้วจมน้ำตาย วิญญาณของนางกลายร่างเป็นนกน้อยนาม ‘จิงเว่ย’ เฝ้าคาบหินคาบไม้ไปถมทะเลบูรพาทุกวัน หมายล้างแค้นที่ถูกทะเลบูรพาพรากชีวิตไป

* มีที่มาจากสำนวน ‘ฝ่ายหญิงโตกว่าสามปีอุ้มทองแท่ง’ หมายถึงคู่แต่งงานที่ฝ่ายหญิงโตกว่าฝ่ายชายสามปี ถือเป็นสิริมงคล ทว่า ‘อุ้มทองแท่งสองแท่งครึ่ง’ เป็นการเล่นสำนวนของผู้เขียน โดยหากสามปีเท่ากับทองแท่งหนึ่งแท่ง เช่นนั้นท่านหญิงอวี้ชังโตกว่าคุณชายรองหลิงราวหกเจ็ดปีก็ต้องอุ้มทองแท่งสองแท่งเศษ

* หวงเหลียน เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งของจีน รากมีรสขมมาก

* เซิง เป็นเครื่องดนตรีจีนโบราณประเภทเครื่องเป่า โดยทั่วไปประกอบด้วยเลาไม้ไผ่ยาวสั้นต่างกันสิบสามเลา

** เยากู่ เป็นกลองพื้นบ้านที่มีมาแต่โบราณของจีน ขนาดกะทัดรัดยาวราว 34 เซนติเมตร มีแถบผ้าแพรสำหรับผูกติดกับเอว สมัยฉินใช้ไม้ตีบรรเลง ประกอบท่าทางร่ายรำ

*** ผีกู่ คือกลองสำหรับตีให้สัญญาณในกองทัพจีนโบราณ มีทั้งกลองเล็กและกลองใหญ่ วงดนตรีจีนโบราณก็มีใช้เช่นกัน

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 19 .. 66 เวลา 12.00 .

5 of 5หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com