ตั้งแต่ฤดูคิมหันต์เมื่อปีก่อน ร่างกายของหมิงอู่ฮ่องเต้ก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว หลายปีมานี้หมิงอู่ฮ่องเต้หมกมุ่นในตัณหา สังสรรค์รื่นเริงจนถึงเช้า จึงไม่น่าแปลกที่ร่างกายจะทนไม่ไหว ฉางซานอ๋องถึงได้ฉวยโอกาสนี้ควบคุมราชสำนัก จัดตั้งพรรคพวกอย่างเหิมเกริม แม้หมิงอู่ฮ่องเต้ผู้รักอำนาจดั่งชีวิตจะรู้เรื่องนี้ ก็ไม่อาจทำอะไรได้
ไม่รู้เป็นเพราะคนเราเมื่อใกล้ตายมักนึกถึงเรื่องในอดีตและโหยหาความรักจากคนในครอบครัวหรือไม่ ยามป่วยหนักหมิงอู่ฮ่องเต้ถึงได้คิดถึงรัชทายาทที่เคารพนับถือและกตัญญูต่อเขายิ่งยวด รวมถึงหลานชายคนเล็กผู้มีพรสวรรค์อันน่าทึ่งผู้นั้น
ฤดูเหมันต์ รัชศกจางอู่ปีที่แปด หมิงอู่ฮ่องเต้ล้มป่วยหนัก จึงออกพระราชโองการหนึ่งฉบับบนเตียง ให้คืนบรรดาศักดิ์หลางหยาอ๋องแก่มู่หรงเหยียน แม้บิดาของหลานชายจะยังคงมีฐานะเป็นสามัญชน แต่บรรดาศักดิ์อ๋องและศักดินาของมู่หรงเหยียนล้วนได้รับคืนดังเดิมแล้ว
เมื่อฉางซานอ๋องเห็นพระราชโองการฉบับนี้ก็ไม่พอใจอย่างมาก ความริษยาของฉางซานอ๋องรุนแรงยิ่งขึ้น เขาสั่งปิดล้อมเมืองเยี่ยเฉิงอย่างแน่นหนาเพื่อรอการกลับมาของมู่หรงเหยียน หมิงอู่ฮ่องเต้รู้ตัวว่าเวลาเหลือไม่มากแล้ว เหตุใดตนต้องสิ้นเปลืองเวลามากมายเพื่อประกาศต่อใต้หล้าถึงการคืนบรรดาศักดิ์หลางหยาอ๋องด้วย ก็เพื่อจะใช้สิ่งนี้ถ่ายทอดข่าวว่าตนต้องการพบหน้ามู่หรงเหยียนอีกครั้งก่อนตายไม่ใช่หรือ
อย่างไรก็ตาม มู่หรงเหยียนยังคงสมกับเป็นลูกหลานสกุลมู่หรง เรื่องที่ทั่วหล้าล้วนมองเห็นได้อย่างชัดแจ้ง มู่หรงเหยียนกลับใจแข็งและเย็นชา เขาไม่กลับมาและไม่มีข่าวคราวใดเล็ดลอดแม้แต่น้อย
หมิงอู่ฮ่องเต้จากโลกไปด้วยความเสียใจ ฉางซานอ๋องก็เข้าควบคุมพระราชวังและราชสำนัก ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ทันที หลังจากที่เขาขึ้นครองราชย์ สิ่งแรกที่ทำคือแก้ไขรัชศกของพระบิดา จากนั้นออกคำสั่งค้นหาจับกุมตัวมู่หรงเหยียนทั่วแคว้น โดยผู้ที่รายงานเบาะแสจะได้รับรางวัลหนึ่งร้อยทองคำ ส่วนผู้ที่จับกุมได้จะได้รับศักดินาหนึ่งพันครัวเรือน
ทั่วทั้งราชวงศ์ฉีเดือดพล่านด้วยเหตุนี้
อวี๋เหวินจวิ้นทอดถอนใจอย่างหวาดหวั่นราวกับรู้สึกกลัวไม่หาย เมื่อสิ้นปีก่อน ตอนที่ได้ยินพระราชโองการในวัง พวกเขาไม่ใช่ว่าไม่เคยโต้เถียงกันมาก่อน บางคนมีความเห็นว่าหลางหยาอ๋องเป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของรัชทายาท ไม่ควรเสี่ยงอันตราย ทว่าส่วนใหญ่รู้สึกสงสารใจบิดามารดาในใต้หล้า* หมิงอู่ฮ่องเต้คิดถึงบุตรชายจนจิตใจหวั่นไหว บางทีมู่หรงเหยียนควรจะปรากฏตัว ฉวยโอกาสที่หมิงอู่ฮ่องเต้กำลังรู้สึกผิดโค่นล้มฉางซานอ๋องและโต้แย้งให้รัชทายาท คนสองกลุ่มถกเถียงกันไม่หยุด ทว่ามู่หรงเหยียนซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องกลับสงบเยือกเย็นตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่กลับ ไม่ยุ่ง ไม่สนใจ…
อวี๋เหวินจวิ้นยิ้มขื่น ตอนนี้ดูเหมือนมู่หรงเหยียนจะทำถูก วางตัวสมกับเป็นเชื้อพระวงศ์ เลือดเย็นโดยกำเนิด ฤดูสารทปีนี้เขาจะอายุครบสิบห้าปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีเหตุมีผลและสงบเยือกเย็นมากกว่าขุนนางอย่างพวกเขาเสียอีก
ด้วยอำนาจเสด็จอาของมู่หรงเหยียน โอรสสวรรค์องค์ปัจจุบันผู้นั้นทำให้ทั่วหล้าในยามนี้เต็มไปด้วยคำสั่งจับกุมหลางหยาอ๋อง ฮ่องเต้องค์ก่อนถ่ายทอดคำสั่งคืนชื่อเสียงของมู่หรงเหยียน ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันไม่อาจล้มล้างอย่างเปิดเผย จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีบีบบังคับให้มู่หรงเหยียนเผยตัวออกมา เพื่อไม่ให้เป็นภัยในภายหลัง
เมื่อเป็นเช่นนี้ความปลอดภัยของสถานที่ซ่อนเดิมจึงลดลงอย่างมาก หากจะหลบซ่อนย่อมทำได้อยู่ เพียงแค่ปิดประตูไม่ออกไปที่ใดก็ได้แล้ว แต่มู่หรงเหยียนมีฐานะพิเศษ ทั้งวิชาประวัติศาสตร์ วรรณกรรม พิชัยสงคราม ยุทธศาสตร์ฮ่องเต้ และอื่นๆ จะหยุดพักไม่ได้ หากมีคนเข้าออกทุกวันเกรงว่าช้าเร็วจะต้องถูกคนสงสัย
ขุนนางบริวารของรัชทายาทที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับอย่างพวกเขาหารือกันลับๆ มานานแล้ว ตัดสินใจว่าจะเสี่ยงให้มู่หรงเหยียนปลอมตัวเป็นหญิง ส่งไปที่เมืองก่วงหลิงในนามอนุภรรยา อวี๋เหวินจวิ้นคบหาคนหลากหลายและกว้างขวาง อีกทั้งที่จวนของเขามักมีคนที่ไม่ใช่คนของทางการเข้าๆ ออกๆ เป็นประจำ จึงไม่ทำให้เกิดความสงสัยใดๆ ยิ่งไปกว่านั้น ที่ตั้งของเมืองก่วงหลิงนั้นเหมาะสม แม้จะทุรกันดารและไม่มีใครเห็นในสายตา แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองสำคัญอย่างเยี่ยเฉิง
ส่วนที่ไม่สมบูรณ์เพียงอย่างเดียวของแผนการนี้น่าจะอยู่ที่มู่หรงเหยียนจำเป็นต้องแต่งกายเป็นหญิง และอวี๋เหวินจวิ้นต้องแบกรับความเสี่ยงอย่างมาก ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าแผนการนี้เปรียบเสมือนร่ายรำบนปลายดาบ หากผิดพลาดขึ้นมาอวี๋เหวินจวิ้นต้องตายทั้งตระกูล เกรงว่าจะมีผู้ที่ติดร่างแหไปด้วยไม่น้อย
ทว่าอวี๋เหวินจวิ้นเป็นคนมีอุดมการณ์สูงส่งยิ่ง ฉางซานอ๋องโหดร้ายทารุณ อุปถัมภ์คนโฉด ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของราชวงศ์ฉีของพวกเขาอยู่ที่บุตรชายของอดีตรัชทายาทผู้นี้ อริยปราชญ์กล่าวว่าเช้ารู้แจ้งสัจธรรม คืนนี้แม้ตายก็ยินดีอวี๋เหวินจวิ้นอาจไม่ถึงขั้นมีคุณธรรมสูงส่ง แต่เขาสละชีพเพื่อใต้หล้าได้ ซึ่งอวี๋เหวินจวิ้นเต็มใจที่จะลองเสี่ยงดูสักครั้ง
อวี๋เหวินจวิ้นออกจากจวนครั้งนี้เพื่อเบี่ยงความสนใจออกจากเรื่องของมู่หรงเหยียน เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ เขาจำต้องใจแข็งทิ้งบุตรสาวไว้ในจวน ตอนที่แยกทางกับคนอื่นๆ พวกเขาได้ตกลงเรื่องสัญญาณลับกันไว้แล้ว รออีกสองสามวันให้คลื่นลมสงบ อวี๋เหวินจวิ้นก็จะรับเหล่าอาจารย์บุ๋นบู๊ของมู่หรงเหยียนทยอยเข้าจวนเจ้าเมืองอย่างต่อเนื่องโดยอ้างว่า ‘หาสามีให้บุตรสาว’