บทที่ 95 ชาติที่แล้ว
อวี๋ชิงจยานั่งอยู่ในรถม้า ได้ยินเสียงล้อรถม้าบดกับพื้นอิฐดังกึกกัก นางได้ยินเสียงของหลี่ซื่อดังมา ดูเหมือนจะมีอวี๋เหล่าจวินด้วย หลายคนกำลังไล่ตามหลังรถม้า สุดท้ายรถม้าค่อยๆ เริ่มวิ่งและทิ้งเสียงทั้งหมดไว้ด้านหลัง
ไป๋จื่อตกใจเมื่อได้ยินเสียงบ่าวรับใช้สกุลอวี๋ไล่ตามรถม้า นางกำมือของอวี๋ชิงจยาไว้แน่นตามจิตใต้สำนึก ม่านรถทางด้านหลังสะบัดขึ้นเบาๆ กีบเท้าม้าที่ย่ำบนถนนอิฐสีนิลส่งเสียงดังกุบกับ อาศัยเพียงกำลังมนุษย์ไม่สามารถไล่ทันได้ ไป๋จื่อจึงโล่งใจในที่สุด มือทั้งสองของนางสั่นเทา ไม่รู้ว่ามีความสุขหรือเศร้า ดวงตาเปล่งประกายจากหยาดน้ำที่ซึมออกมา “คุณหนู พวกเราออกมาแล้วเจ้าค่ะ”
“ใช่” อวี๋ชิงจยาตอบรับเบาๆ นางปฏิเสธการขัดขวางของไป๋จื่อและยื่นมือไปเลิกม่านรถม้า มองไปทางข้างหลัง ตรอกเจี้ยนอันที่มีบ้านเรือนเรียงรายไกลออกไป ชายคาสีน้ำตาลเข้มของสกุลอวี๋ผสานกลมกลืนไปกับทิวทัศน์เบื้องหลังอันเลือนราง สองข้างทางของถนนเริ่มมีผู้คนและพ่อค้าหาบเร่ตะโกนมากขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นอายของตลาดที่แตกต่างจากตรอกเจี้ยนอันอย่างสิ้นเชิงเข้ามาแทนที่
อวี๋ชิงจยาถอนหายใจแล้วกล่าวเสียงเบา “พวกเราออกมาแล้ว ท่านแม่ ท่านเห็นหรือยังเจ้าคะ ในที่สุดพวกเราก็ได้จากมาอย่างสง่าผ่าเผยแล้ว”
อวี๋ชิงจยานั่งอยู่ในรถม้า ไม่รู้ว่าเดินทางโคลงเคลงนานเท่าไร ในที่สุดก็ได้ยินอวี๋เหวินจวิ้นเอ่ยว่า “หยุด!”
อวี๋ชิงจยาเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ได้ยินเสียงอวี๋เหวินจวิ้นลงจากรถ ทักทายกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเป็นมิตร ท่าทางตื่นเต้นมาก ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเป็นสหายเก่ากัน อวี๋ชิงจยาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเอ่ยกับไป๋จื่อ “คิดไม่ถึงว่าเจ้าบ้านจะมาต้อนรับถึงที่ประตูด้วยตนเอง ช่างให้ความสำคัญเกินไปแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าอวี๋เหวินจวิ้นในตอนนี้พาอวี๋ชิงจยามาขออาศัยที่บ้านสหาย โดยทั่วไปเจ้าบ้านจะรอต้อนรับแขกที่เดินทางไกลอยู่ด้านหน้าห้องโถงหลักของลานเรือน ถึงอวี๋เหวินจวิ้นกับเจ้าบ้านจะมีความสัมพันธ์เป็นสหายกัน เจ้าบ้านก็ไม่จำเป็นต้องมาต้อนรับถึงที่ประตูด้วยตนเอง แต่การต้อนรับของเจ้าบ้านในเวลานี้ไม่ใช่แค่มีมารยาทเท่านั้น แต่เรียกว่า ‘เคารพมากเกินไป’ เสียด้วยซ้ำ
ไป๋จื่อรู้สึกแปลกใจเช่นกัน นางกล่าว “คงเป็นเพราะเจ้าบ้านกับนายท่านเป็นสหายเก่ากัน อีกทั้งยังไม่ได้พบสหายเก่ามานาน ก็เลยอดใจรออยู่ข้างในไม่ได้เจ้าค่ะ”
อวี๋ชิงจยารู้สึกไม่ค่อยถูกต้อง เพราะต่อให้เป็นสหายเก่าแก่ แต่อวี๋เหวินจวิ้นพาพวกตนมาหยุดที่หน้าประตูเรือนของอีกฝ่ายโดยตรง เห็นได้ว่าในยามปกติยังมีการติดต่อหากันอยู่ ระยะทางที่เดินทางนั้นไม่มากไม่น้อย อวี๋ชิงจยาคาดเดาคร่าวๆ ว่าแม้ออกจากเมืองมาแล้ว แต่ก็ยังเป็นเมืองในเขตปกครองเดียวกัน ไม่ได้อยู่ห่างไกลถึงขนาดข้ามน้ำข้ามภูเขาไม่พบหน้ากันหลายปี เจ้าบ้านจะแสดงท่าทางตื่นเต้นต่ออวี๋เหวินจวิ้นถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
ไป๋จื่อก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ถึงอย่างนั้นนางก็ปลอบใจอวี๋ชิงจยาว่า “คุณหนูไม่ต้องคิดมากนะเจ้าคะ ถึงอย่างไรนายท่านก็ไม่ทำร้ายพวกเรา เจ้าบ้านอาจจะเป็นคนอัธยาศัยดีก็ได้เจ้าค่ะ”
อวี๋ชิงจยาพยักหน้าอย่างช้าๆ และยอมรับคำอธิบายนี้ชั่วคราว
ไป๋หรงได้ยินการคาดเดาของไป๋จื่อก็หลุบตาลงอย่างเงียบๆ และไม่พูดจา
อวี๋เหวินจวิ้นสนทนากับเจ้าบ้านอีกครู่หนึ่ง รถม้าก็เคลื่อนไปอีกครั้ง โดยวิ่งไปตามทางอันคดเคี้ยว สุดท้ายก็จอดลงอย่างช้าๆ มีสาวใช้เคาะผนังรถม้าจากด้านนอกแล้วกล่าวอย่างพร้อมเพรียง “คุณหนูหก ถึงเรือนของท่านแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูหกลงจากรถได้เลยเจ้าค่ะ”
เวลานี้รถม้าเข้ามาในเรือนแล้ว ไม่จำเป็นต้องสวมหมวกม่านแพรอีก อวี๋ชิงจยาจับมือของไป๋จีลงจากรถม้าโดยตรง เมื่อนางลงจากรถม้าก็มองไปรอบๆ โดยไม่รู้ตัว ไป๋จื่อเห็นแล้วเอ่ยถามขึ้น “คุณหนู ท่านหาอะไรอยู่หรือเจ้าคะ”
อวี๋ชิงจยาเพิ่งพบว่าตนตามหาจิ่งหวนตามจิตใต้สำนึก วันนี้ตอนออกมามู่หรงเหยียนไม่ได้ร่วมรถม้าคันเดียวกับอวี๋ชิงจยา แต่นั่งตามลำพังอยู่ในรถม้าอีกคันหนึ่ง นางอยากถามว่าเขาไปที่ใด แต่พอคำพูดจะออกจากปากก็รู้สึกว่าคำถามนี้ฟังดูแปลกประหลาด สถานะในนามของจิ่งหวนกับนางแตกต่างกัน เดิมทีควรแยกกันพักอาศัย ซึ่งตอนนี้อยู่ต่อหน้าคนนอก นางยิ่งไม่ควรถาม
อวี๋เหวินจวิ้นคบหาสหายมากมาย ครั้งนี้พวกเขามาขอพักอาศัยอยู่ในเรือนที่อยู่ชานเมืองของสหายผู้หนึ่ง เรือนแห่งนี้สร้างขึ้นบริเวณชานเมือง ทิวทัศน์งดงาม มีสะพานเล็กและสายน้ำไหล ปกติเจ้าบ้านไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่ เรือนจึงว่างมานาน แต่เครื่องเรือนภายในเรือนยังใหม่ทั้งหมด อวี๋ชิงจยาพักอยู่ในเรือนเล็กๆ ตามลำพัง ตัวเรือนมีชายคามุมแหลมงอน ขนาดเรือนเล็กกะทัดรัดและทำขึ้นอย่างงามประณีต ล้อมรอบด้วยแปลงดอกไม้และต้นไม้ สงบเงียบและสง่างาม พวกไป๋จื่อติดตามอวี๋ชิงจยาเดินเข้าไปแล้วก็ตกตะลึงอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพแวดล้อมนี้
จนกระทั่งสาวใช้ที่นำทางจากไปแล้ว ไป๋จีก็มองซ้ายมองขวา กล่าวกับอวี๋ชิงจยาว่า “คุณหนู ทีแรกบ่าวคิดว่าที่พักชั่วคราวนี้คงจะมีหลายสิ่งที่ไม่ถูกใจ ไม่คิดว่าจะงดงามเช่นนี้เจ้าค่ะ”