นางยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความสับสนมึนงง มีกลุ่มคนที่ถูกขวางทางเช่นเดียวกันกำลังผลักหินอย่างไม่ยอมแพ้พลางร้องไห้ไปด้วย ผลคือไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้แม้แต่น้อย มีเสียงตะโกนต่างๆ ดังมาจากด้านนอกก้อนหิน มีเสียงร้องไห้ของเด็กเล็ก เสียงเรียกของมารดา และเสียงของไป๋จื่อที่กำลังตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกดังแว่วมา
อวี๋ชิงจยาได้แต่สงบสติอารมณ์ พยายามตะโกนสุดเสียง “ไป๋จื่อ! ข้าไม่เป็นไร ที่นี่ยังมีคนอยู่เยอะ เจ้ารีบลงไปหาท่านพ่อ ให้ท่านพ่อพาคนมาเปิดทางเถิด!”
ไป๋จื่อได้ยินเสียงของอวี๋ชิงจยา เมื่อครู่นี้นางตกใจแทบแย่ ตอนนี้อวี๋ชิงจยาไม่เป็นอะไรถือเป็นความโชคดีในความโชคร้ายมาก แผนในปัจจุบันมีแต่ทำตามที่อวี๋ชิงจยาบอกเท่านั้น ไป๋จื่อเช็ดน้ำตา ตะโกนไปยังฝั่งตรงข้ามสองสามประโยค ก่อนจะวิ่งลงเขาไปอย่างทุลักทุเล
แม้อวี๋เหวินจวิ้นจะให้อวี๋ชิงจยาพาคนไปจำนวนมาก แต่แผ่นดินไหวถือเป็นภัยธรรมชาติ องครักษ์และสาวใช้พลัดหลงกับอวี๋ชิงจยาท่ามกลางความชุลมุนไปตั้งนานแล้ว ตอนแรกจะดีหรือร้ายอย่างไรก็มีไป๋จื่ออยู่ แต่ตอนนี้ไป๋จื่อลงเขาไปขอกำลังเสริม ทั้งนางยังเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่ง เดินทางไปกลับไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร ในช่วงเวลานี้จึงเหลืออวี๋ชิงจยาเพียงคนเดียว
อวี๋ชิงจยากดข่มความกลัวที่ถาโถมเข้าใส่ นางเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง จึงหาที่สะอาดๆ แล้วนั่งลง เวลานี้คนที่ดันหินก็ตระหนักได้ว่าอาศัยเพียงพละกำลังของตนเองไม่สามารถเปิดเส้นทางภูเขาได้ พวกเขามีสีหน้าห่อเหี่ยว และกลับไปนั่งข้างทางด้วยความหดหู่
เส้นทางภูเขาที่เมื่อครู่นี้ยังมีเสียงเอะอะของผู้คนและเต็มไปด้วยควันธูปกลายเป็นที่รกร้างและเต็มไปด้วยเศษหินในชั่วพริบตา อวี๋ชิงจยากอดเข่าและเอาหน้าผากพิงเข่าด้วยความเหนื่อยล้า สิ่งที่นางทำได้ในตอนนี้ดูเหมือนจะมีแค่การรอคอยเท่านั้น
ภายในเมืองเกาผิงก็รู้สึกถึงแผ่นดินไหวเช่นกัน บนถนนเต็มไปด้วยเสียงเอะอะของผู้คน ราษฎรจิตใจตื่นตระหนก แต่โชคดีที่ไม่สะเทือนจนบ้านเรือนถล่มเสียหาย สถานการณ์บาดเจ็บล้มตายไม่นับว่าร้ายแรง คนที่ดูเหมือนที่ปรึกษาเดินมาจากข้างนอกอย่างรวดเร็วและกล่าวกับมู่หรงเหยียน “รายงานเจ้านาย เกิดแผ่นดินไหวที่เขาเซียงจีขอรับ”
มู่หรงเหยียนพยักหน้า ก่อนที่การกระทำของเขาจะหยุดลงอย่างกะทันหันและเงยหน้าขึ้น “เขาเซียงจี?”
หลังจากเกิดแผ่นดินไหว สภาพอากาศที่สุดขั้วก็ตามมา แม้จะเป็นเดือนหก แต่บนภูเขากลับมีลมแรง วันนี้ตอนอวี๋ชิงจยาออกมาข้างนอกสวมเพียงชุดท่อนบนสีขาวและกระโปรงยาวสีแดง ตอนกลางวันอยู่ในวัดยังไม่รู้สึก ยามนี้พอมีลมพัดจึงดูไม่ค่อยงามเท่าไร ตอนเที่ยงวันนอกจากอาหารเจแล้วนางก็ไม่ได้กินอย่างอื่น ไม่รู้ว่าคนที่มาช่วยจะมาถึงเมื่อไร อวี๋ชิงจยากอดอกแน่น พยายามเก็บเรี่ยวแรงของตนเองไว้
เพิ่งจะยามโหย่ว* ฟ้าก็มืดครึ้มแล้ว ลมพัดมุมกระโปรงของอวี๋ชิงจยาส่งเสียงดังพึ่บพั่บ ผมของนางค่อนข้างยุ่ง แม้ว่าตอนนี้สภาพจะดูสะบักสะบอมไปหน่อย ใบหน้าเปื้อนฝุ่นเล็กน้อย แต่นางมีรูปโฉมงดงาม ผิวขาวนวลเปล่งปลั่ง สภาพผมยุ่งๆ ในตอนนี้ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกตัดกัน
คนงามตกทุกข์ได้ยาก สิ่งล่อใจเช่นนี้ดึงดูดผู้คนโดยสัญชาตญาณ อวี๋ชิงจยาเพียงนั่งอยู่ตรงนี้อย่างเรียบง่าย นางไม่ต้องทำอะไรก็ดึงดูดสายตามากพอแล้ว ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็อดมองมาทางนางไม่ได้ อวี๋ชิงจยาปัดผมที่ยุ่งเล็กน้อย สีหน้าเย็นชา ท่าทางไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น ทว่ายิ่งเป็นเช่นนี้ยิ่งมีคนอดใจไม่ไหว ชายไว้หนวดเคราร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งเดินมาข้างหน้าอวี๋ชิงจยาแล้วเอ่ยถาม “แม่นางผู้นี้ เหตุใดเหลือแค่เจ้าคนเดียว สาวใช้ของเจ้าเล่า”
รูปร่างหน้าตาและบุคลิกของอวี๋ชิงจยาล้วนพิสูจน์ให้เห็นว่านางมีพื้นเพที่ไม่ธรรมดา เป็นไปได้มากว่าเป็นบุตรสาวตระกูลขุนนางที่พาสาวใช้มาไหว้พระ แต่มาประสบเหตุแผ่นดินไหวเข้า นี่คือบุตรสาวตระกูลขุนนาง ตระกูลขุนนางที่สูงส่ง ตลอดชีวิตอันยากจนของคนธรรมดาทำได้เพียงมองดูขบวนธงของตระกูลขุนนางที่ออกเดินทางอยู่ไกลๆ แม้แต่ชายเสื้อของอีกฝ่ายก็ไม่ได้สัมผัส ชายผู้นั้นนึกถึงเงื่อนไขที่ผู้ว่าจ้างเสนอให้ตนเมื่อหลายวันก่อน เลือดร้อนในใจก็ยิ่งพลุ่งพล่าน เดิมเขาคิดว่าเป็นงานทั่วไป ใครจะคิดว่าเป้าหมายจะเป็นบุตรสาวตระกูลขุนนางที่หน้าตางดงามน่าตื่นตะลึงและดูเย็นชาสูงส่งราวกับเทพธิดา
อวี๋ชิงจยาสังเกตเห็นความไม่ประสงค์ดีของอีกฝ่าย นางนึกถึงตอนเที่ยงวันนี้ ภายในวัดพุทธจู่ๆ เณรก็รั้งให้พวกนางกินข้าวอย่างกระตือรือร้นมาก ตอนนั้นอวี๋ชิงจยาคิดไม่ออกว่าเพราะเหตุใด นางเตรียมพร้อมสำหรับหลายสถานการณ์ สิ่งเดียวที่ไม่ได้คาดคิดไม่ใช่ภัยมนุษย์ แต่เป็นภัยธรรมชาติ ที่แท้เณรรั้งให้พวกนางอยู่กินอาหารเจ ไม่ได้คิดจะเล่นเล่ห์กับอาหารเจ แต่ใช้อาหารเจมาถ่วงเวลา ถึงอย่างไรก็มีร่างกายเป็นคนธรรม ใครจะคาดคิดได้ว่าอีกเดี๋ยวจะเกิดแผ่นดินไหว เกรงว่าเณรผู้นั้นก็ไม่รู้เช่นกัน
อวี๋ชิงจยาคาดเดาได้รางๆ ในใจ เมื่อครู่นี้ตอนที่ต้องแยกจากคนอื่นนางกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ เวลานี้ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่านางไม่ได้มองอวี๋ชิงหย่าผิดสักนิด อวี๋ชิงหย่าทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะเล่นงานนางจริงๆ