ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 128-129 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 128-129

ทว่าเหมือนสวรรค์ไม่เป็นใจ ตอนที่รถม้าเตรียมข้ามถนนอีกสายหนึ่งซึ่งจวนจะถึงที่หมายแล้วนั้น จู่ๆ ก็มีทหารกลุ่มใหญ่ถือดาบวิ่งผ่านถนนทางแยกตรงหน้าไปยังกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว ฝีเท้าของพวกเขาที่เหยียบย่ำบนถนนดังทึบหนักๆ และเคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบ บนตัวสวมชุดเกราะเต็มตัว มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นทหารชั้นยอด

ไป๋จื่อตกใจจนมือเย็นเฉียบ นางหลบอยู่ในตัวรถแล้วกระซิบถามอวี๋ชิงจยา “คุณหนู คนพวกนี้มาจากที่ใดเจ้าคะ”

“กองทหารที่ประจำการอยู่ตำหนักถงเชวี่ย หรือก็คือทหารส่วนพระองค์ที่ขึ้นตรงกับฝ่าบาท” อวี๋ชิงจยามองผ่านผ้าม่านรถที่สั่นไหวพลางกล่าวเสียงเบา “ดูเหมือนฮ่องเต้กับอิ่นอี้คุนจะเตรียมการไว้แล้ว ใช้เวลาไม่นานก็สามารถย้ายกองกำลังของตำหนักถงเชวี่ยออกมาได้ ที่แท้ข้าก็สบประมาทพวกเขาเกินไป”

สารถีถามจากข้างนอก “คุณหนูหก ด้านหน้ามีทหารผ่านเช่นนี้ พวกเราควรทำอย่างไรดีขอรับ”

“หันหัวม้าหลบไป อย่าได้บุ่มบ่าม แล้วก็ไม่ต้องไปยั่วยุ แค่รออยู่เงียบๆ ให้พวกเขาผ่านไป”

สารถีดึงบังเหียนให้ม้าเลี้ยวรถตามคำแนะนำของอวี๋ชิงจยา แล้วหันรถเข้าหากำแพงอย่างเงียบๆ โดยไม่ฟัง ไม่พูด และไม่มอง ต้องขอบคุณอวี๋ชิงจยาที่หาทางเลี่ยงได้เร็ว ทหารส่วนพระองค์ของฮ่องเต้กวาดตามองผ่านนอกกำแพงสองสามครั้ง เห็นว่าพวกเขาเก็บตัวอย่างสงบเงียบจึงจากไปโดยไม่สนใจ

จนกระทั่งทหารรักษาพระองค์จากไปแล้ว สารถีก็รีบบังคับรถม้าผ่านทางนั้น พวกเขาเพิ่งไปได้ครึ่งทาง จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังสะเทือนเลื่อนลั่นมาจากบริเวณไม่ไกล ฟังจากเสียงนั้นกองทัพกบฏน่าจะบุกเข้ามาแล้ว สามารถเข้ามาในเมืองได้รวดเร็วเช่นนี้ คาดว่าคงมีการติดต่อกับคนภายในเมืองเยี่ยเฉิงเพื่อเปิดประตูเมืองให้พวกเขาแน่

กองทัพกบฏจัดตั้งทัพขนาดใหญ่ที่ประตูหลัก และกองรักษาการณ์ของเมืองเยี่ยเฉิงก็ถูกดึงดูดไปที่นั่นทั้งหมด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายจะเป็นประตูข้างที่ดูไม่สะดุดตาแทน กองทัพกบฏใช้กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม กองรักษาการณ์เมืองเยี่ยเฉิงก็หลงกลไปด้วยความประมาท ส่วนคนภายในเมืองก็ฉวยโอกาสตอนที่กองรักษาการณ์ไม่ทันระวังเปิดฉากสังหารทหารเฝ้าประตูอย่างรวดเร็วและเปิดประตูเมือง รอให้กองทหารชั้นยอดที่รออยู่ข้างนอกนานแล้วเคลื่อนทัพเข้าเมือง

เมื่อช่องโหว่ถูกเปิดขึ้นในเมืองเยี่ยเฉิงก็เป็นดั่งน้ำหลากที่ทะลุผ่านแนวเขื่อน เพียงไม่นานสถานที่อื่นๆ ก็มีรายงานด่วนเข้ามาไม่หยุด กองกำลังใหญ่ดาหน้าเข้าสู่เมืองหลวงด้วยพละกำลังในการทำลายล้าง ทหารรักษาพระองค์ของฮ่องเต้ที่ผ่านรถม้าของอวี๋ชิงจยาไปเมื่อครู่นี้ได้เผชิญหน้ากับทัพหน้าของกองทัพกบฏที่โจมตีเมืองเป็นกลุ่มแรก กองทัพทั้งสองคุมเชิงกันบนถนนแคบ สองฝ่ายพลันชักดาบดังชิ้ง คมดาบปะทะเข้าหากัน

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ชักดาบชี้หน้าอีกฝ่ายแล้วตะโกนเสียงดัง “เจ้าพวกเหิมเกริม! พวกเจ้าจะก่อกบฏอย่างนั้นหรือ!”

การก่อกบฏถือเป็นโทษประหารในทุกยุคทุกสมัย และโทษยังลามไปถึงสตรี เด็กเล็ก และทายาทในตระกูลด้วย ถือเป็นโทษร้ายแรงมหันต์ อวี๋ชิงจยาย่อมคิดไม่ถึงว่าการกลับบ้านของนางกลายเป็นต้องมาพบเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี นางลดเสียงลง แล้วเอ่ยเร่งสารถีอย่างสั้นกระชับ “ไม่ต้องหันหัวม้ากลับไป ไม่ต้องเพิ่มความเร็วกะทันหัน เพียงเลี่ยงออกมาไม่ให้คนพวกนี้รู้ตัว แค่ไปเร็วๆ เช่นนี้ก็พอ”

สารถีเข้าใจเหตุผลดี ตอนนี้พวกเขาอยู่ด้านหลังทหารรักษาพระองค์ของฮ่องเต้ หากเกิดอะไรขึ้น ทหารรักษาพระองค์จับอวี๋ชิงจยาเป็นตัวประกันก็จะยุ่งไปกันใหญ่ สารถีพยายามบังคับรถม้าให้เคลื่อนไปเงียบๆ และเร็ว ขณะที่ข้ามถนน ล้อรถทับหินก้อนหนึ่งเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ แรงสะเทือนทำให้ม่านรถเปิดแง้ม อวี๋ชิงจยาหันกลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และบังเอิญเห็นกองทัพกบฏแยกออกเป็นสองฝั่งเพื่อเปิดเส้นทาง มีม้าสีดำตัวหนึ่งเดินออกมาช้าๆ จากด้านหลังโล่

ม้าตัวนี้สีดำปลอด ตลอดทั้งตัวไม่มีขนยุ่งแม้แต่เส้นเดียว มีเพียงขนสีขาวสองสามกระจุกบนกีบม้า ดุจดั่งเมฆดำย่ำหิมะ ฟ้าผ่ากลางนภาค่ำคืน เป็นม้าที่มีสายพันธุ์เลื่องชื่อ บนหลังม้ามีบุรุษสวมชุดเกราะสีเงินตลอดทั้งร่าง ชุดเกราะส่วนใหญ่ในกองทัพทำจากเหล็ก เนื่องจากผ่านการใช้งานเป็นเวลานานและเปื้อนเลือดจึงทำให้ชุดเกราะเปลี่ยนเป็นสีดำแฝงกลิ่นอายอำมหิตอันหนาแน่น อย่างไรก็ตามคนผู้นี้เป็นคนเดียวที่สวมชุดเกราะที่ทำจากเงิน เมื่ออยู่ท่ามกลางทหารดำทะมึนแล้วเป็นที่สะดุดตาอย่างยิ่ง การเป็นที่สะดุดตาในสนามรบไม่ใช่เรื่องดี ถึงกระนั้นพอเกราะเงินถูกสวมอยู่บนร่างคนผู้นี้แล้วกลับเข้ากันได้อย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นเช่นนี้ โดดเด่น เปล่งประกายเจิดจ้า บัญชาทัพคนนับหมื่น แม้ว่าตำแหน่งของเขาจะถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคนก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้

บนใบหน้าเจ้าของร่างชุดเกราะสีเงินสวมหน้ากากหน้าตาดุร้าย หูยาว และแยกเขี้ยวสะท้อนแสงเป็นประกายวาว

ทันทีที่อวี๋ชิงจยาเห็นหน้ากาก ร่างนางก็สั่นเทิ้มอย่างแรง เลือดในกายของนางราวกับหยุดไหลเวียน แขนขาเย็นเฉียบราวกับแช่อยู่ในน้ำแข็ง อวี๋ชิงจยาแง้มม่านรถอย่างเชื่องช้าด้วยนิ้วมือสั่นเทา จ้องมองไปที่คนผู้นั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

เขาพกดาบที่ข้างเอว มือหนึ่งถือแส้ม้า อีกมือหนึ่งจับบังเหียนไว้อย่างหลวมๆ ปรากฏตัวต่อหน้ากองทัพทั้งสองฝ่ายราวกับกำลังขี่ม้าเล่นบนทุ่งหญ้า

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ของฮ่องเต้ดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นคนผู้นี้ปรากฏตัว มือของเขาจับด้ามดาบแน่น มีเส้นเลือดปูดนูนขึ้นที่หลังมือ “เจ้าพวกกบฏ! พวกเจ้ากำลังทำการก่อกบฏอย่างเปิดเผยนะ!”

“ก่อกบฏ?” เสียงของเขาเมื่อดังผ่านหน้ากากจึงต่างจากเสียงจริงเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นน้ำเสียงก็ยังฟังไพเราะเสนาะหู “ฮ่องเต้ประพฤติตนขัดแย้งหลักคุณธรรม หลงเชื่อขุนนางโฉด แล้วจะเรียกว่าก่อกบฏได้อย่างไร”

แม้สิ่งที่กล่าวมาจะเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อพูดต่อหน้ากองทัพทั้งสองฝ่ายแล้วก็ยังดูโอหังเกินไป ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนทหารรักษาพระองค์ได้ยินคำพูดนี้แล้วเหงื่อเย็นชุ่มศีรษะ เขากระทุ้งสีข้างม้าเดินขึ้นหน้า ตัดสินใจย้ายข้าง ชูดาบขึ้นแล้วตะโกน “คนโฉดใช้อำนาจบาตรใหญ่ปกปิดหลอกลวงเบื้องสูง เป็นเหตุให้ขุนนางภักดีได้รับความอัปยศ ปวงประชาตกอยู่ในความลำบาก พวกข้ามาเพื่อกำจัดคนทรยศข้างพระวรกายฝ่าบาท!”

กองทัพเกราะเหล็กที่ติดตามพวกเขาตะโกนเสียงดังราวกับฟ้าร้องมาจากด้านหลัง “สังหารขุนนางโฉด กำจัดคนทรยศข้างพระวรกายฝ่าบาท!”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 3-4

บทที่ 3 คนที่เพิ่งเดินเข้ามาผู้นี้คือซูลั่วอวิ๋น บุตรสาวคนโตที่ถูกขับไล่ไสส่งกลับบ้านเดิมนั่นเอง นิ้วชี้ของซูหงเหมิงยื่น...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 5-7

บทที่ 5 หลังจากเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่เรือนหลังเก่าและบรรยากาศวันปีใหม่เพิ่งผ่านพ้นไป เหล่าเจ้านายสกุลซูก็เตรียมเดินทางกลับ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 1-2

บทที่ 1 แม่น้ำฉินไหว นกขมิ้นและดอกไม้ในเดือนสองทำให้ฤดูใบไม้ผลิแลดูงดงาม แม่น้ำฉินไหวในเมืองจินหลิงเป็นสถานที่ซึ่งมีทิวท...

community.jamsai.com