ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 130-131 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 130-131

เดิมทีเขาคือคนโปรดแห่งสวรรค์และเป็นจุดสนใจของฝูงชน ต่อมากลับต้องปกปิดตัวตนและลบร่องรอยการมีอยู่ของตนเอง เขาคือผู้ที่ได้รับความสูญเสียมากที่สุด ว่าไปแล้วการที่มู่หรงเหยียนปิดบังตัวตนของเขา ความผิดไม่ได้อยู่ที่เขา แต่อยู่ที่ฮ่องเต้

อวี๋ชิงจยาสบตากับเขาอยู่นาน สุดท้ายก็แค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่ง หันหน้าไปอีกด้านหนึ่งแล้วกล่าว “เจ้าจะสนใจว่าข้า ‘จะไม่อะไร’ ไปเพื่ออันใด”

อวี๋ชิงจยาดันหน้าอกของมู่หรงเหยียน ทว่าออกแรงดันอยู่หลายครั้งก็ผลักเขาไม่สำเร็จสักหน จึงถลึงตาใส่เขาอย่างขุ่นเคือง “ยังไม่ถอยออกไปอีก!”

มู่หรงเหยียนมองดูดวงตาที่เปียกชื้นของอวี๋ชิงจยา ขนตาเรียวยาว และสังเกตสีหน้าของนางขณะถลึงตาใส่เขาอย่างละเอียด ในที่สุดก็อดยิ้มไม่ได้ เขาช้อนหลังของอวี๋ชิงจยาแล้วอุ้มนางขึ้นมา แต่ไม่ยอมปล่อยนางออกจากอ้อมกอด ยังคงโอบนางไว้ในอ้อมแขนและกระชับแขนไว้แน่น “ขออภัยด้วยสำหรับเรื่องที่ผ่านมา ข้ารับปากว่าจะไม่หลอกเจ้าอีก เจ้าอยากรู้เรื่องของข้ามานานแล้ว แต่เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของข้าเองถึงไม่ยอมบอกเจ้าเสียที”

ร่างกายของอวี๋ชิงจยาค่อยๆ คลายจากท่าทีขืนตัว นางหยุดนิ่งชั่วขณะ ก่อนจะถามเสียงแผ่วเบา “แล้วตอนนี้เล่า ข้ารอถึงวันที่เจ้าจะเต็มใจบอกความจริงกับข้าแล้วหรือยัง”

ตอนยังอยู่ที่เหยี่ยนโจว เมื่ออวี๋ชิงจยาเพิ่งพบว่ามู่หรงเหยียนเป็นบุรุษ นางนั่งถักปมอยู่หน้าโต๊ะ เคยกล่าวพึมพำก่อนนอนโดยไม่ได้ตั้งใจว่า ‘ข้ารอวันที่เจ้าเต็มใจบอกข้าอยู่’

พวกเขาสองคนทะเลาะกันมาโดยตลอด มู่หรงเหยียนเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ ไม่ยอมพูดดีๆ เสียที อวี๋ชิงจยาก็อายเกินกว่าจะสารภาพความรู้สึกของตนเองออกไปตรงๆ มู่หรงเหยียนพลันนึกถึงเรื่องราวในความฝันขึ้นมา ในความฝันนั้นเขาจากไปโดยไม่กล่าวลา มักจะคิดเสมอว่ารอให้เขาล้างแค้นศัตรูคู่อาฆาตและได้ทุกสิ่งกลับคืนมาแล้วค่อยบอกความจริงกับอวี๋ชิงจยา แต่จนกระทั่งเขากลับมา นางก็ไม่อยู่รอเขาแล้ว

การพลาดโอกาสเพียงชั่วครู่คือพลาดไปตลอดชีวิต หากเขาซื่อสัตย์กับความรู้สึกตนเองได้มากกว่านี้ พวกเขาจะพลัดพรากจากกันได้หรือ ตอนที่อวี๋ชิงจยาตายยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใคร ทุกครั้งที่ตกอยู่ในความฝันนี้ มู่หรงเหยียนจะบังคับให้ตนเองตื่นขึ้นมาแล้วบอกกับตนเองว่านี่เป็นเพียงความฝัน แต่เขากลัวว่าจะสูญเสียอวี๋ชิงจยามากจริงๆ จึงทำให้ฝันถึงเหตุการณ์นั้นบ่อยครั้ง ทว่าความเจ็บปวดในอกที่แทบจะชาหนึบไปถึงหัวใจบอกกับเขาว่าไม่ใช่…นี่ไม่ใช่ความฝัน

เขาเคยสูญเสียอวี๋ชิงจยามาก่อนจริงๆ

มู่หรงเหยียนกระชับอ้อมแขน มารดาของเขาคือพระชายารัชทายาท เช่นเดียวกับฮูหยินตระกูลสูงศักดิ์ทุกคน พระชายารัชทายาทนั้นงดงามและมีเกียรติ แต่ไม่เคยเอื้อมมือไปกอดบุตรชายของตนเองแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนรัชทายาทก็ต้องไปมาหาสู่กับขุนนาง ต้องคอยเป็นห่วงชีวิตราษฎร ต้องถ่วงดุลอำนาจในราชสำนัก คนผู้นั้นเป็นรัชทายาทที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สำหรับมู่หรงเหยียนแล้ว อีกฝ่ายไม่นับว่าเป็นบิดาที่ดีอย่างแน่นอน

มู่หรงเหยียนไร้ความห่วงใยมาตั้งแต่เกิด ซ้ำยังรู้สึกว่าพวกคนที่เจตนาสร้างความวุ่นวายเพื่อเรียกร้องความสนใจจากบิดามารดาล้วนเป็นคนโง่เขลา เขาไม่ต้องการความรักจากบิดามารดา เวลาต่อมาเมื่อทั้งตำหนักบูรพามีเขาเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต ก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงความรู้สึกระหว่างเครือญาติ บิดามารดาของเขาปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ เป็นรัชทายาทและพระชายารัชทายาทที่ทุกคนคาดหวัง แต่ไม่ใช่สามีภรรยา มู่หรงเหยียนไม่เคยเรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างใกล้ชิดจากบิดามารดา การทรยศจากคนใกล้ชิดในเวลาต่อมายิ่งกลายเป็นมีดคมที่ทิ่มแทงชีวิตเขา ดังนั้นเมื่อมู่หรงเหยียนได้พบกับสิ่งที่งดงาม อาการตอบสนองแรกคือการสงสัย การหยั่งเชิง และลงเอยด้วยการทำลายอยู่เสมอ

มู่หรงเหยียนคิดอยู่เสมอว่าความจริงพวกนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตราบใดที่อวี๋ชิงจยายังอยู่เคียงข้างเขา เขาก็มีเวลามากพอให้พิสูจน์ตนเอง แต่การสูญเสียอันเจ็บปวดรวดร้าวในความฝันได้บอกเขาทุกอย่าง ความปากไม่ตรงกับใจของเขาทำให้ต้องสูญเสียอวี๋ชิงจยาไปตลอดกาล

มู่หรงเหยียนกระชับวงแขนโดยไม่รู้ตัว เขารู้ว่าเป็นเช่นนี้อาจจะทำให้อวี๋ชิงจยาเจ็บ แต่เขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เขากอดนางแน่น พยายามควบคุมแรงตนเองอย่างสุดกำลัง “จยาจยา ตราบใดที่เป็นเจ้า ข้าก็ยินดีทำทุกอย่าง ข้าเต็มใจที่จะบอกเจ้าเสมอ เพียงแต่ครั้งที่แล้วเจ้าหลับไป ตอนนี้ข้าจะบอกให้เจ้าฟังใหม่อีกครั้ง รุ่นของพวกข้าคือตัวอักษรธาตุไม้ ข้าบรรดาศักดิ์หลางหยา นามคำเดียวว่า ‘เหยียน’ ”

อวี๋ชิงจยาดวงตาชุ่มชื้นโดยไม่รู้ตัว นางรีบกะพริบตาเพื่อให้น้ำตาไหลกลับเข้าไป “ได้สิ มู่หรงเหยียน ข้าจำไว้แล้ว ข้าเคยบอกว่าหลางหยาอ๋องรูปโฉมงดงาม ตอนนั้นเจ้ายังหัวเราะเยาะข้าอยู่เลย”

มู่หรงเหยียนยิ้มตาม อุ้มนางขึ้นมาทั้งตัวแล้วพาหมุนวนบนพื้นอย่างช้าๆ “หากเจ้าอยากจะมองข้า ไม่จำเป็นต้องแอบมองในงานเลี้ยงหรอก”

ร่างของอวี๋ชิงจยาลอยอยู่กลางอากาศ นางโอบกอดมู่หรงเหยียนไว้แน่น ชายกระโปรงของนางบานออกเป็นชั้นๆ กลางอากาศราวกับกลีบดอกไม้ อวี๋ชิงจยาทั้งโกรธทั้งขบขัน จึงอดทุบแผ่นอกของมู่หรงเหยียนไม่ได้ “ปล่อยข้าลงก่อน ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com