จื่ออินก้าวยาวๆ เข้ามาใกล้ ก่อนใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนหน้าของเซวียนชิง แผ่นหลังของเขาโก่งขึ้นหมายจะตะกายลุกขึ้นมา แต่ก็ต้องทรุดลงไปเช่นเดิม สองมือทำได้เพียงจิกนิ้วลงในดินอย่างดุดันเท่านั้น
“จุ๊ๆ เห็นทีคงต้องปล่อยให้เดรัจฉานพวกนั้นได้อิ่มหนำเสียแล้ว วันนี้พวกมันจะได้กินเทพผู้หนึ่งเชียวนะ” หลังจากใช้หนึ่งเท้าเตะเซวียนชิง จื่ออินก็ทะยานร่างขึ้นไปในอากาศ เหยียบขึ้นก้อนเมฆด้วยฝีเท้าที่ซวนเซ “สมใจนัก! สาสมใจเป็นที่สุด! ข้าได้ล้างแค้นเอาคืนจนได้! ฮ่าๆๆๆ” จื่ออินหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง เขาถูกจิตมารครอบงำโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่เหลือท่าทางของผู้เป็นเทพอีกแม้แต่น้อย
จวบจนเขาอันตรธานไปท่ามกลางหมู่เมฆ ถึงไม่ได้ยินเสียงหัวเราะอีก
กาลเวลาเคลื่อนคล้อยไปช้าๆ ขณะที่สายลมยิ่งพัดยิ่งกระโชกแรง สีของอาทิตย์อัสดงก็โอบล้อมรอบด้าน ฟ้าดินมีเพียงความสงบเงียบ ประหนึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
ท่ามกลางความเงียบงันนี้ เซวียนชิงที่นอนจมกองเลือดอยู่พลันขยับเปลือกตา ก่อนจะหลับตาลงรวบรวมสมาธิ ค่อยๆ ถอดดวงจิตของตนออกไปเบื้องนอกทีละนิด
กายเนื้อนี้กำลังจะตายแล้ว เขาต้องรีบถอดดวงจิตกลับคืนสู่ร่างต้นกำเนิดให้ได้ ก่อนที่ดวงจิตนี้จะดับสูญไปพร้อมกับกายเนื้อ
เซวียนชิงรวดร้าวไปทั้งตัว…โดยเฉพาะช่วงล่าง เจ้าเฒ่าสารเลวจื่ออินนั่นถึงกับลงมือหนักเพียงนี้! ยังดีที่กายเนื้อนี้เป็นแค่ร่างแบ่งภาคร่างหนึ่งของข้า มิเช่นนั้นข้าไม่ต้องสิ้นลูกสิ้นหลานไปจริงๆ หรือไร
แม้สภาพการณ์ของสามพิภพในตอนนี้จะไม่ต่างอะไรกับสิ้นลูกสิ้นหลานแล้วก็ตามที…
พูดตามตรงเขาชอบฐานะเซวียนชิงนี้มากทีเดียว เรื่องบางเรื่องหากใช้ร่างแบ่งภาคนี้มาจัดการ ยังง่ายดายกว่าตัวเขาออกหน้าเองมากนัก
เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจะไปพบเจอจื่ออินตัวเคราะห์ภัยนี่เสียได้ พ่อลูกคู่นี้เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน เนื้อหนังเป็นเทพทว่าหัวใจเป็นสัตว์ คนพ่อนี่ยิ่งรับมือยากยิ่งกว่าคนลูกเสียอีก ตลอดมาเขากลัวความยุ่งยากเป็นที่สุด บัดนี้ถูกไล่ล่าจนรำคาญเหลือทนแล้วจึงจำใจละทิ้งฐานะนี้ไป
ดวงจิตซึ่งเบาไร้รูปค่อยๆ ผละหลุดจากกายเนื้อ แปรสภาพเป็นอากาศธาตุอันเลือนรางพุ่งตรงสู่ชั้นฟ้า ขณะเดียวกันสองตาของเซวียนชิงก็ค่อยๆ ขาดประกายชีวิต ทว่าก่อนที่สติรับรู้สุดท้ายจะสูญสิ้นไปนั้น ในสายตาพลันปรากฏภาพบางอย่างขึ้นมาเสียนี่
นั่นคือเท้าคู่หนึ่ง…ซึ่งกำลังวิ่งตรงมาหาเขา
เซวียนชิงพยายามยกเปลือกตาขึ้น จนกระทั่งเห็นว่าเจ้าของเท้าที่วิ่งมา ถึงกับเป็นสาวน้อยคนหนึ่ง นางแต่งกายพิลึกคนยิ่ง เรือนผมยาวแผ่สยาย มีเพียงบริเวณหน้าอก ท้อง และร่างกายท่อนล่างที่พันด้วยหนังสัตว์ แผ่นหลังกับสองเท้าเปิดเปลือยเผยผิวพรรณนุ่มเนียนสีขาวหิมะออกมา ดูคล้ายกับเป็นคนป่าอย่างไรอย่างนั้น
สาวน้อยผู้นั้นวิ่งมาถึงเบื้องหน้าแล้วเดินวนรอบๆ ตัวเขา “ถึงกับเป็นคนจริงๆ ด้วย! นานเพียงนี้แล้ว ในที่สุดก็ได้พบเจอคนเป็นๆ เสียที!” นางพลันโน้มกายลงมาสูดดม จากนั้นดวงตากลมโตซึ่งมีนัยน์ตาสีขาวสีดำตัดกันชัดเจนคู่นั้นก็เบิกโตยิ่งกว่าเดิม “โอ๊ะ! ที่แท้ยังเป็นเทพเสียด้วย!”
เซวียนชิงรู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งกว่านางเสียอีก เขายุติการถอดดวงจิตลงชั่วคราว พลางรีบเพ่งฌานสำรวจนางอย่างละเอียด สาวน้อยผู้นี้แม้บนร่างจะมีปราณวิเศษอยู่บ้าง ทว่าในแก่นกระดูกกลับไม่มีอะไรผิดแผก…เป็นมนุษย์ธรรมดาโดยแท้
มนุษย์?!