เฟิงจงกลับหลังหันออกวิ่งไปไกลนานแล้ว ครู่ก่อนตอนที่เดินมานางสังเกตเห็นว่าบริเวณไกลออกไปมีซากหอซึ่งพังถล่มลงมา ตรงนั้นมีหินกองเกลื่อนกลาดอยู่เป็นจำนวนมาก บางทีอาจพอให้ใช้ประโยชน์อะไรได้
เถาอู้จดจำบัญชีแค้นนี้ในใจ แล้วไล่กวดไปทางนางโดยไม่รอช้า
สาวน้อยรีบทำมุทราท่องคาถา เซวียนชิงจึงต้องรุดตามหลังเถาอู้มาติดๆ ก่อนจะเหาะร่อน ลงบนแผ่นหลังของมันแล้วแทงหนึ่งกระบี่เข้าที่กลางหลัง
ในใจเฟิงจงพลันยินดีปรีดา เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เซวียนชิง นางจึงวิ่งหลอกล่อเถาอู้อยู่ด้านหน้าต่อไป
เถาอู้เดือดดาลอย่างมาก เสียงคำรามเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหอบกระชั้นดังโฮกฮาก ฟังแล้วชวนสะพรึงยิ่งกว่าเดิม เพียงแค่มันสะบัดศีรษะแรงๆ ก็สลัดเซวียนชิงที่อยู่บนแผ่นหลังให้กระเด็นออกไปได้แล้ว ทั้งยังส่งเขาให้ร่วงมาตกอยู่ด้านหน้าของเฟิงจงอีกด้วย
เซวียนชิงครางแผ่วในลำคอ เขาเพิ่งจะใช้กระบี่หยัดกายยืนขึ้น อาการบาดเจ็บเดิมก็กำเริบซ้ำเติม บีบให้เขาต้องกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง รอจนเขาเงยหน้าขึ้นมาก็รีบมองไปทางเฟิงจงทันที
เฟิงจงตระหนักได้แล้วว่าครู่ก่อนเขาหมายจะฆ่าตัวตาย ในใจนางจึงเปี่ยมด้วยโทสะ มองเมินเขาแล้ววิ่งต่อไปข้างหน้าเสียเลย
กลางหลังของเถาอู้ได้รับบาดเจ็บจึงส่งผลให้การเคลื่อนไหวเชื่องช้าลงไม่น้อย ร่างก็ส่ายโคลงเคลงราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ กระนั้นมันก็ยังไล่ล่าเฟิงจงไม่เลิกรา ดวงตาสีแดงฉานทั้งคู่ดูคล้ายหมายมั่นจะถลกหนังกลืนกินนางทั้งเป็นให้จงได้
ในที่สุดเฟิงจงก็วิ่งเข้ามาถึงใจกลางกองหินที่หมายตาไว้ ประตูทรงโค้งที่ตั้งตระหง่านอยู่หนึ่งเดียวในบริเวณนั้นยังคงอยู่ นางจงใจผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย รอจนตอนที่เถาอู้จวนจะไล่ตามนางมาทันก็รีบท่องคาถา เซวียนชิงที่ถูกเรียกตัวก็มาถึงตรงหน้านางในทันที แล้วโอบพานางลอดผ่านประตูทรงโค้งนั้นไปอย่างรวดเร็ว
เถาอู้ย่อมพุ่งตามหลังมาติดๆ ทว่ารูปร่างของมันไม่อาจนำมาเปรียบกับสองคนของฝ่ายนางได้ ทันทีที่มันฝ่าเข้าประตูทรงโค้ง ร่างก็ติดอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะรุกขึ้นหน้าหรือถอยหลังล้วนไม่เป็นผล มีแต่ทำให้ปากแผลบนกลางหลังถูกกดจนเลือดสดๆ ไหลพราก มันดิ้นเร่าคำรามลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว หวิดจะทำให้ประตูทรงโค้งนี้แตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่รอมร่อ
เฟิงจงเอ่ยเร่ง “เร็วเข้า! หากปล่อยให้มันคำรามต่อไปจนเรียกเถาอู้ตัวอื่นมาที่นี่ด้วยก็แย่กันพอดี!”
เซวียนชิงผละออกมาจากร่างเฟิงจง แล้วเหินร่างตรงไปแทงหนึ่งกระบี่เข้ากลางกะโหลกศีรษะของเถาอู้
เสียงแผดสูงอันสะเทือนเลื่อนลั่นส่งผลให้ก้อนหินรอบด้านกระเด็นร่วงหล่นลงมา เฟิงจงป้องจมูกและปากพลางรีบหลบหลีกก้อนหิน ยามนั้นศีรษะใหญ่ของเถาอู้ก็ตกลงมา ลมหายใจของมันค่อยๆ หยุดชะงักไป จนในที่สุดมันก็ไม่ขยับเขยื้อนอีก
เฟิงจงโล่งอก นางหันไปมองเซวียนชิงปราดหนึ่ง “เฉือนเนื้อมันมาหนึ่งก้อน พกให้ดีแล้วตามข้ามา”
เซวียนชิงเอนร่างพิงกับร่างของเถาอู้ เขาหอบฮักโดยไม่ยอมเคลื่อนไหว จวบจนหน้าผากพลันเจ็บแปลบ ถึงค่อยเงื้อกระบี่ขึ้นมาเฉือนเนื้อขาหลังของเถาอู้มาหนึ่งก้อนแต่โดยดี
เมื่อครู่ตอนที่วิ่งหลอกล่อเถาอู้เท้าของเฟิงจงถูกข่วนเป็นแผล ยามที่นางเดิน โลหิตสดๆ ที่หยดลงบนพื้นดินก็กระตุ้นให้ต้นกล้าและหญ้าสดผุดงอกไปตลอดทาง ทว่าทันทีที่หยดเลือดบนดินเหือดแห้ง พืชพรรณเหล่านั้นก็จะเหี่ยวเฉาไป
เซวียนชิงเดินตามอยู่ด้านหลัง เขานึกตื่นเต้นอยู่ในใจ
จู่ๆ เฟิงจงที่อยู่ด้านหน้าก็หันขวับมา “เจ้าหนู เป็นเพราะเจ้าไม่ไยดีในชีวิตของตนเอง หรือเป็นเพราะถูกมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งบงการแล้วรู้สึกยอมรับไม่ได้กันแน่”
เซวียนชิงรู้สึกว่าเขาสามารถพูดจาได้แล้ว แต่ตอนกำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินนางเอ่ยขัดขึ้นมาอย่างฉุนเฉียวว่า “กลั้นเอาไว้ในใจนั่นล่ะ!”