สายตาของซีกวงหันไปมองเฟิงจงอีกครา นางถึงกับมีสีหน้าเป็นปกติ ทั้งยังหลับตาพริ้มคล้ายกำลังพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจ ไม่รู้ว่านางมีแผนการอะไรแล้วหรือไม่
ตอนนี้เองเสียงแผดคำรามก็ดังขึ้นที่เบื้องหลัง ฉยงฉีพลันกระโจนเข้ามากระแทกฟางจวินเยี่ยออกไป พร้อมกันนั้นกระบี่ในมือเขาก็ถากถูกข้างลำคอของเฟิงจงจนเป็นรอยเลือดยาวหลายชุ่นหนึ่งสาย ซีกวงแข็งทื่อไปทั้งร่าง ลืมกระทั่งต้องรวบแส้กลับมาจากแขนของฟางจวินเยี่ย ร่างเขาจึงถูกแรงกระแทกนี้ลากเซไปสองก้าว
รอจนเขาได้สติมองไปอีกครั้ง ค่อยเห็นว่าเลือดที่ข้างลำคอของเฟิงจงสมานอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวรอยแผลนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว เช่นนี้เองเขาถึงโล่งใจได้เสียที
ฉยงฉีที่โตเต็มวัยแล้วมีพละกำลังมหาศาล เพียงอุ้งเท้าเดียวก็ตะปบฟางจวินเยี่ยกระเด็นไปไกลหลายจั้ง ฟางจวินเยี่ยที่ถูกจิตมารครอบงำสติอีกคราตวัดปราณกระบี่ซึ่งฉาบด้วยเพลิงมารให้พุ่งตรงไปหาฉยงฉีหลายสิบสาย
เฟิงจงพลันลืมสองตาขึ้น แล้ววิ่งก้าวยาวไปตั้งคทาหม่อนมังกรขวางไว้เบื้องหน้า ชั่วพริบตากระแสลมที่ซัดม้วนออกไปก็คลี่คลายปราณกระบี่เหล่านั้นได้ ขณะเดียวกันพื้นดินที่ปริแยกก็มีเถาวัลย์เลื้อยขึ้นมา แลคล้ายเงาอสรพิษที่เคลื่อนไหวท่ามกลางสีแห่งรัตติกาล เถาวัลย์พุ่งตรงไปเบื้องหน้าแล้วกระหวัดรัดสองเท้าของฟางจวินเยี่ย ทว่าไม่ได้ยุติแค่เพียงเท่านั้น หากยังเคลื่อนต่อไปด้านบนจนแทบจะรัดพันเขาไว้ทั้งร่าง
ซีกวงไล่ตามมาด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง “นี่เจ้าเตรียมจะทำอะไร”
“ปิดผนึกเขา!” เฟิงจงเอ่ยปนหอบ “พลังปราณที่เจ้ามอบให้ ข้าเก็บไว้ไม่ใช้ก็เพื่อจะร่ายวิชานี้ ในเมื่อเขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว มิสู้ผนึกเขาไว้เพื่อชะลอเวลาไปก่อน บางทีอาจยังรักษาชีวิตเขาไว้ได้”
ซีกวงเห็นนางมีเรี่ยวแรงไม่เพียงพอจึงรีบทาบฝ่ามือไปบนแผ่นหลังของนาง พลังเทพถูกส่งเข้าไปในกายนางไม่ขาดสาย อย่างไรเสียดวงจิตของเขากับกระแสโลหิตของนางก็เข้ากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ย่อมจะเกื้อหนุนกันและกันได้
เฟิงจงหยิบยืมพลังของเขามาเร่งพลังของคทาหม่อนมังกร แต่นางในยามนี้ยังอ่อนแอเหลือเกิน ผิดกับฟางจวินเยี่ยที่จิตมารมีพลังอันท่วมท้น เมื่อทุ่มจนสุดกำลังเฉกเช่นคนดิ้นรนเฮือกสุดท้ายยามใกล้ตาย ฟางจวินเยี่ยก็สลัดเถาวัลย์จนขาดสะบั้น แล้วจู่โจมตรงมาหานางทันที
เฟิงจงข่มใจไว้ไม่ขยับตัว ปากก็ท่องคาถาอย่างรวดเร็วเพื่อปิดผนึกเขาอีกครั้ง ทว่าจนใจที่ฟางจวินเยี่ยยังคงพุ่งมาถึงตรงหน้าโดยไม่อาจยับยั้งเขาได้เลย
ยามที่ซีกวงจะขึ้นหน้าไปสกัดขวางเอาไว้นั้น เงาดำมหึมาสายหนึ่งก็พุ่งวาบมาบังหน้าเฟิงจงประหนึ่งภูเขาลูกย่อม เพียงแค่มันโบกมือหนหนึ่ง ลมพายุก็พัดกระโชก หอบเอาฟางจวินเยี่ยปลิวไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่อย่างหนักหน่วง