เฟิงจงชี้มือไปยังเหล่าจิ้งจอกบนพื้น นึกว่าเขาจะจัดการอะไรให้บ้าง ไหนเลยจะรู้เขากลับทำเป็นมองไม่เห็น เพียงแค่กล่าวอำลาออกไป
ถูซานเฟิ่งเพิ่งจะคล้อยหลังจากไป ถูซานจิ่วหลิงก็มาถึงแล้ว ถูซานซิ่วซิ่วก็ตามหลังมาด้วย ยามเดินเหินกระพรวนบนข้อเท้าของนางจะส่งเสียงกังวานใส สองย่าหลานเป็นเช่นเดียวกับถูซานเฟิ่ง มองข้ามเหล่าจิ้งจอกน้อยที่อยู่เต็มเรือน เขย่งฝีเท้ามาจนถึงเบื้องหน้าของเฟิงจงแล้วนั่งชิดประกบซ้ายขวา จากนั้นก็โปรยยิ้มหวานที่ทำให้ผู้อื่นขนลุกได้ทีเดียว
“เจ้าเมล็ดพันธุ์ พวกเราไม่ได้พบกันตั้งนานแล้ว คืนนี้มานอนคุยกันดีกว่า” ก่อนหน้านี้ถูซานจิ่วหลิงเปลี่ยนสีผมของตนให้เป็นสีดำก็จริง ทว่ายามนี้เรือนผมได้กลับมาเป็นสีเงินตามลักษณะของตระกูลถูซานแล้ว นอกจากนี้เครื่องหน้าอันงามเฉิดฉายก็ยังมีปราณเซียนเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน
เฟิงจงมองแขนซ้ายที่ถูกอีกฝ่ายกอดแน่น ก่อนจะเบนสายตาไปมองแขนขวาที่ถูกถูซานซิ่วซิ่วรัดไว้ “เหตุใดเมื่อก่อนข้าไม่เคยรู้เลยว่าตระกูลถูซานจะมีไมตรีเร่าร้อนถึงเพียงนี้”
“ก็เมื่อก่อนเจ้าไม่ใช่มนุษย์นี่” ถูซานจิ่วหลิงยิ้มเย้า ก่อนจะประชิดเข้ามาสูดดมนางแล้วมุ่นคิ้ว “แปลกจริง เจ้าอยู่ร่วมกับตงจวินแท้ๆ เหตุใดบนร่างถึงได้มีกลิ่นอายของวิญญาณเล่า”
เฟิงจงตะลึงไปทันที สองวันมานี้ร่างกายนางอ่อนแอ พลังวิเศษก็ขาดๆ หายๆ นางถึงกับไม่รู้สึกเลยสักนิด “มีจริงหรือ”
ถูซานจิ่วหลิงสีหน้าจริงจังยิ่ง “ข้าจะหลอกเจ้าทำไม เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่าอวี้ถูทำตัวเป็นอริกับเจ้า จะใช่บริวารที่เขาส่งมาตามรอยเจ้าหรือไม่”
เฟิงจงนึกถึงวิญญาณร่อนเร่ร่างใหญ่มหึมานั้นขึ้นมาในพริบตา จากนั้นก็ส่ายศีรษะกล่าว “น่าจะไม่ใช่ มีซีกวงอยู่ด้วย สิ่งที่มาจากตำหนักยมโลกไม่อาจเข้าใกล้ข้าได้หรอก คงจะเป็นวิญญาณร่อนเร่ที่พักนี้คอยติดตามข้าอย่างมีเงื่อนงำนั่นมากกว่า ข้าเองก็นึกสงสัยถึงสาเหตุที่วิญญาณร่อนเร่นั่นตามติดข้ามาตลอด”
“มีตงจวินอยู่มันก็ยังเข้าใกล้เจ้าได้? เห็นทีวิญญาณตนนี้จะต้องมีกลิ่นอายที่บริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาร้ายแม้แต่น้อย นับว่าเรื่องนี้แปลกจริงเชียว”
เฟิงจงผงกศีรษะอย่างเห็นพ้อง
ถูซานซิ่วซิ่วเอ่ยอย่างร้อนใจ “ถึงไม่มีเจตนาร้ายก็ไม่ได้! ท่านย่ารีบคิดหาหนทางเร็วเข้าเถอะ อยู่ดีๆ คนเป็นๆ ผู้หนึ่งกลับถูกวิญญาณตามพัวพัน มันจะใช้ได้อย่างไร!”
ถูซานจิ่วหลิงรำคาญที่หลานสาวเอะอะโวยวายเช่นนี้ จึงสะบัดมือตีปรามนางไปหนึ่งที ก่อนจะเอ่ยกับเฟิงจงต่อ “ข้าร่ายค่ายกลเวทไว้บนร่างเจ้าดีกว่า มันสามารถอำพรางปราณชีวิตบนร่างของเจ้ากับตงจวินได้ชั่วคราว หากวิญญาณตนนั้นปรากฏกายขึ้นอีก เจ้าก็จะมองเห็นรูปโฉมเมื่อครั้งที่อีกฝ่ายยังมีชีวิตได้ชัดเจน บางทีเจ้าอาจจะพบคำตอบที่ตามหาก็เป็นได้”