วันต่อมาตอนที่จ้าวสุ่นกลับมาพร้อมผลลัพธ์ของการเก็บกวาดสนามรบ เฉิงตั๋วกำลังอ่านรายงานฉบับหนึ่งอยู่ เมื่อเห็นเขาชะโงกหน้าเข้ามาในกระโจมใหญ่ เฉิงตั๋วก็ชูรายงานในมือขึ้น เอ่ยว่า “กู่หลีอ๋อง ผู้ใต้บังคับบัญชาของประมุขชาวหูที่อยู่ทางอวิ๋นโจวเริ่มลงมือเคลื่อนไหวแล้ว ข้าคาดว่าเขาเองก็รู้สถานการณ์ไม่ชัด แค่แกล้งเคลื่อนไหวเพื่อหลอกศัตรูเท่านั้น”
“ให้พวกเขาเดากันไป พวกเขายังเดาไม่ทันเสร็จ ซิวถูอ๋องก็ถูกพวกเราจัดการไปแล้ว” เห็นได้ชัดว่าจ้าวสุ่นเองก็อารมณ์ดีมากเช่นกัน เขาชักดาบเล่มงามออกจากฝักแล้วตวัดไปข้างๆ ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม
เฉิงตั๋วมองออกไปนอกกระโจมอย่างครุ่นคิด “หิมะยังตกอยู่หรือไม่”
“ตกเบาลงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เฉิงตั๋วคิดๆ แล้วเอ่ย “เจ้าไปพักก่อน ประเดี๋ยวข้าจะออกไปตรวจตราค่าย หลังเสร็จเรื่องก็จะฝากที่นี่ไว้กับเจ้า หยางโหย่วหลินยังไม่กลับมา เจ้ารอรับด้วย” สั่งเสร็จก็ลุกขึ้นยืน
จ้าวสุ่นถามอย่างตกใจ “ท่านอ๋องจะเสด็จไปที่อื่นหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ไปไม่นานก็กลับ อย่างมากสามวัน อย่างน้อยสองวัน” ขณะที่พูดเฉิงตั๋วก็ก้าวออกนอกประตูกระโจมไปแล้ว
บนถนนหลักทางฝั่งตะวันตกเมืองผิงเหยาของเยี่ยนโจว ม้าสามตัวเดินเอื่อยเฉื่อยอยู่บนหิมะ คนทั้งสามแต่งกายแบบพลทหาร บนม้าแต่ละตัวมีรองเท้าหนังมัดอยู่ เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่ามาจากในค่ายใหญ่เยี่ยนโจว หนึ่งในนั้นมีท่าทีเหมือนเป็นหัวหน้า แต่หน้าตากลับดูไม่ได้ เป็นหลุมเป็นบ่อทั้งหน้า ในตอนที่เดินผ่านทางแยกแห่งหนึ่ง เขาพลันเห็นจุดสีแดงสะท้อนกับพื้นหิมะแต่ไกลๆ
บุรุษหน้าหลุมบ่อหวดม้าเบาๆ ม้าควบทะยานไปบนพื้น กีบเท้าจมลงไปในหิมะ เพียงไม่นานก็เห็นชัดว่าจุดสีแดงนั่นเป็นเด็กสาวผู้หนึ่ง รูปร่างเล็ก มือถือร่มน้ำมันสีขาว เด็กสาวหันหน้ามองมาตามเสียง ดวงตานางใสกระจ่าง ชุดสีแดงสะท้อนหิมะ เป็นความงามที่ไม่อาจพรรณนา
ทั้งสามคนทยอยหยุดม้าพร้อมๆ กัน หันมองหน้ากันเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มแสดงท่าทีเกี้ยวสาวออกมา เด็กสาวเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว หนึ่งในสามคนเปิดปากเอ่ย “น้องสาว วันที่หิมะตกหนักเช่นนี้เจ้าจะไปที่ใดกันหรือ”
อีกคนหนึ่งยิ้ม พูดว่า “ให้พี่ชายไปส่งเจ้าดีหรือไม่” พูดจบก็พากันหัวเราะครื้นเครง
เด็กสาวแค่นเสียงดูแคลน “เกี่ยวอันใดกับพวกเจ้ากัน!”
บุรุษหน้าหลุมบ่อยิ้มกระอักกระอ่วน “เพราะพวกเราชอบเจ้าถึงได้อยากช่วยเจ้าอย่างไรเล่า”
เด็กสาวได้ยินดังนั้นก็เอ่ยด้วยความหงุดหงิด “อันธพาล!”
บุรุษหน้าหลุมบ่อหันไปพูดกับลูกน้อง “โอ๊ะ! ไม่เบาเสียด้วย แต่พวกพี่ชายเกรงว่าน้องสาวจะยังไม่เคยเห็นมาก่อนน่ะสิ ว่าอะไรเรียกว่าอันธพาล”
ทั้งสามคนหัวเราะสัปดนมากกว่าเดิม เด็กสาวกลับตัวเดินจากไปทันที บุรุษหน้าหลุมบ่อสะบัดแส้ใส่ด้ามร่มของนาง ร่มคันนั้นหักเป็นสองท่อนดัง ‘กร๊อบ’ ขณะที่ตัวคนทำเอ่ยปากกลั้วหัวเราะ “อย่าเพิ่งรีบไปสิ…”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ตัวร่มก็พลันหุบเข้าหากัน เด็กสาวผู้นั้นบิดเอว ใช้ร่มแทนกระบี่แทงเข้าใส่ บุรุษหน้าหลุมบ่อเบี่ยงตัวหลบ ครั้นเห็นท่วงท่าการแทงของนางฉับไว จึงกระโดดลงจากม้าตั้งใจจะจับตัวนางด้วยมือเปล่า อีกสองคนก็ลงจากหลังม้ามาร่วมชมความสนุก แม้เห็นว่าเด็กสาวผู้นี้พอจะเป็นวรยุทธ์อยู่บ้าง ทว่าพวกเขาไม่เห็นนางอยู่ในสายตา แต่ผู้ใดจะคาดว่าหลังประมือกันไปสักพัก บุรุษหน้าหลุมบ่อกลับตกเป็นรอง ถูกเด็กสาวผู้นั้นใช้ปลายร่มสกัดจุดข้อพับจนขาชา ทรุดลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น เด็กสาวยิ้ม กำลังเตรียมจะเปิดปากถากถาง สองคนที่อยู่ด้านข้างก็พลันกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยแล้ว เด็กสาวหันกลับไปรับมือ ปะทะกับสองคนนี้ต่อ บุรุษหน้าหลุมบ่อสบถคำหยาบ ลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปร่วมวง ทั้งสามคนร่วมมือกันต่อสู้