ร่างบางเข้าไปนั่งข้างๆ ผู้เป็นมารดาอย่าง ‘ทิพรดา’ แถมยังกอดท่านอย่างออดอ้อนและประจบประแจงตามประสาลูกคนเล็กเพื่อผ่อนโทษหนักให้เป็นเบา
ครอบครัวศุจินทราอาจมีเครือญาติไม่มาก แต่ก็สืบสกุลมาจากผู้ดีเก่า มีฐานะร่ำรวย มีหน้าตาในวงสังคม และเป็นที่จับตามองของใครต่อใคร ไม่เพียงเท่านั้นยังมีทรัพย์สินและที่ดินในย่านธุรกิจอีกมาก เรียกได้ว่าแค่เงินจากค่าเช่าที่ในแต่ละปีก็มีมากมายจนแทบเหลือกินเหลือใช้
ทายาทตระกูลศุจินทราประกอบไปด้วย ‘ทิพากร’* พี่ชายคนโตวัยสามสิบหกปีผู้ทำหน้าที่บริหารบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัว
‘วาริธร’** พี่ชายคนกลางวัยสามสิบสามปีซึ่งเป็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับแถวหน้าของวงการแถมยังมีรีสอร์ตชื่อดังอยู่ที่เชียงราย
และธรณิน…น้องสาวคนเล็กในวัยยี่สิบเจ็ดปีผู้เป็นทั้งดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Sandra
ใครต่อใครต่างก็พูดกันว่าคนที่ได้เกี่ยวดองกับครอบครัวนี้โชคดียิ่งกว่า ‘หนูตกโกดังข้าวสาร’ และตอนนี้พี่ชายทั้งสองคนของธรณินก็แต่งงานกันไปหมดแล้ว คงเหลือเพียงแค่เธอเท่านั้นที่ยังโสด!
“สายขนาดนี้แล้วทำไมพี่ซันกับพี่ซียังไม่ออกไปทำงานอีกคะ”
น้องเล็กปรายตาไปมองพี่ชายสุดหล่อทั้งสองคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้จะรู้ว่าที่พวกเขายังไม่ออกไปทำงานเพราะกำลังนั่งรอ ‘สวด’ เธอพร้อมกับบุพการี
“ไม่ต้องมาทำหน้าซื่อตาใส เราก็รู้ว่าทำไมพี่สองคนยังไม่ออกไปทำงาน” วาริธรตัดริบบิ้นเปิดงาน “คิดยังไงถึงบุกไปทำลายงานแต่งของนายภาคินกับยายตาแบบนั้น รู้มั้ยว่ามันจะเดือดร้อนมาถึงพี่ สองคนนั้นอยู่ช่องเดียวกับพี่ ใครๆ ก็รู้ว่าแซนด์เป็นน้องพี่ พวกนักข่าวคงไม่วายมาวุ่นวายกับพี่อีก”
“โห! มาเป็นชุดเลย”
“ก็เรามันวอนโดนด่า พี่ไม่บุกไปด่าเราถึงห้องนอนก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“แหม! พูดอย่างกับพี่ซีกลัวนักข่าว ระดับพี่ซีน่ะแคร์ด้วยเหรอคะกับข่าวพรรค์นี้”
ไม่ใช่ว่าธรณินจะไม่รู้ว่าข่าวนี้ส่งผลกระทบถึงพี่ชายคนรอง แต่พระเอกอย่างวาริธรไม่สนใจกระแสข่าวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่กล้าทำเรื่องที่มันจะเดือดร้อนไปถึงเขาหรอก
“อย่าทำหน้าเครียดสิคะพี่ซี เดี๋ยวไม่หล่อนะ”
คนเป็นน้องยิ้มอ้อน แต่วาริธรยังไม่ยอมคลายสีหน้าหงุดหงิดลง
วาริธรเป็นพระเอกหนุ่มหล่อที่โดดเด่นและสะกดสายตา เขาเป็นพระเอกยอดนิยมของประเทศ รับเล่นละครแค่ปีละสองเรื่อง รับงานโฆษณาปีละไม่กี่ตัว งานถ่ายแบบและงานอีเวนต์ก็รับน้อยมากแม้ว่าจะมีคนติดต่อเข้ามาแทบทุกวัน เพราะเขาเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง เป็นพระเอกติสต์แตก ไม่แคร์กระแสหรือแม้กระทั่งนักข่าว เลือกรับงานจนเกือบจะเรียกได้ว่า ‘เรื่องมาก’ และพอถ่ายละครจบก็จะหนีไปขลุกอยู่ในรีสอร์ตที่เชียงราย ความร้ายกาจกับนักข่าวนี่เองที่ทำให้ได้ฉายา ‘พายุใต้ทะเล’ มาครอบครอง