ธรณินถึงกับเถียงไม่ออกเมื่อภาคินตอกกลับมาอย่างไม่แยแสความรู้สึกของรศิตาเลยสักนิด เธออยากจะด่าเขาแต่ก็กลัวว่าคำพูดที่เขางัดมาตอกกลับเธอจะยิ่งทำให้เพื่อนเสียใจ
“พอเถอะแซนด์…”
รศิตากล้ำกลืนน้ำตาบอกกับเพื่อน
“เขาพูดถึงขนาดนี้แล้วแกจะทนต่อไปทำไม!”
ธรณินถามอย่างเหลืออดเหลือทน เธอคิดว่าการที่ภาคินหนีไปแต่งงานกับมุกตาภาจะทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของรศิตาขาดลง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น
ผู้ชายคนนี้เลวไม่มีที่ติ เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมรศิตาถึงยังรักเขาอยู่ได้!
“ฉันแค่พยายามรักษาครอบครัวเอาไว้ น้องภูต้องมีพ่อนะแซนด์”
“มีพ่อแบบนี้สู้ไม่มีซะยังจะดีกว่า” ธรณินอยากให้เพื่อนตาสว่างสักที “แกคิดว่าที่แกทนเจ็บปวดอยู่คนเดียวมันจะมีประโยชน์งั้นเหรอ ถึงน้องภูจะไม่รู้ว่าแกมีปัญหากับเขา แต่น้องภูก็ต้องสัมผัสอารมณ์ของแกได้ แล้วแกคิดว่าสภาพจิตใจลูกจะเป็นยังไง ถ้าลูกรู้สึกได้ว่าแม่ต้องอมทุกข์อยู่ทุกวันแบบนี้”
รศิตาเถียงไม่ออก เธอได้แต่แอบปาดน้ำตาที่กำลังรินไหลลงมาเงียบๆ เพราะธรณินพูดถูกทุกอย่าง มันไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ เพียงแต่ว่าเธอแค่ไม่ได้พูดมันออกมา และยังทำใจยอมรับมันไม่ได้
“ความจริงแกไม่ได้พยายามรักษาครอบครัวเอาไว้หรอกศิ แกแค่ยังทำใจเลิกกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ทั้งๆ ที่เขาทำร้ายจิตใจแก และไม่ได้เห็นแกกับลูกมีตัวตนในชีวิตเขาเลย”
“หยุดพล่ามได้แล้ว! ทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกนี่มีความสุขมากหรือไง” ภาคินทนฟังไม่ได้ เขาตรงเข้าไปกระชากแขนธรณินเพื่อให้เธอหยุดเป่าหูรศิตา แต่เธอก็สะบัดมือเขาทิ้ง
“ผู้ชายคนนี้ไม่เคยรักแกเลย”
ธรณินยังพูดกับรศิตาเหมือนไม่เห็นหัวภาคิน
“เมื่อก่อนที่เขาดีกับแกก็เพราะแค่มีคนให้เกาะ พอเขาโด่งดังแล้วสันดานชั่วก็ออกมาอย่างที่เห็น เขาทิ้งแกทิ้งลูกไปแต่งงานใหม่เพราะผู้หญิงคนใหม่ทั้งสวยกว่าแก ดังกว่าแก และทำให้เขามีงานมีเงินมากกว่าแก สักวันถ้าเขามีลูกกับผู้หญิงคนนั้น เขาจะยิ่งไม่เห็นค่าของแกกับลูก ตาสว่างสักทีเถอะศิ!”
“คุณนั่นแหละหุบปากสักที! เรื่องของตัวเองก็ไม่ใช่ เสนอหน้าอยู่ได้ ตัวเองไม่มีผัว ขึ้นคานคนเดียวไม่พอ ยังมีหน้ามายุให้เพื่อนเลิกกับผัวด้วย คนที่เลวมันคือคุณมากกว่ามั้ง!”
ภาคินด่าอย่างทนไม่ไหว เขาหันไปกระชากแขนรศิตาบ้าง เขาอาจจะทำอะไรธรณินไม่ได้ แต่เขาทำกับรศิตาได้ และคำพูดของรศิตานี่แหละที่จะมีผลกับความรู้สึกของธรณิน
“ศิ! บอกเพื่อนคุณเดี๋ยวนี้ว่าให้เลิกยุ่งเรื่องของเรา ไม่อย่างนั้นผมจะไม่สนใจคุณกับลูกอีกต่อไป” ภาคินยื่นคำขาด ประโยคนั้นทำให้รศิตาถึงกับมองเขาด้วยสายตาเจ็บปวดร้าวลึก
เธอรู้ว่าเขากำลังท้าให้เธอเลือกระหว่างเขากับเพื่อนรักอย่างธรณิน
“รู้บ้างมั้ยว่าที่เพื่อนคุณไปอาละวาดในงานแต่งผมมันทำให้ผมเสียหายแค่ไหน ผมถูกแคนเซิลงานอีเวนต์ ถูกพักงานละคร และถูกถอดจากพรีเซ็นเตอร์โฆษณา จนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะแก้ข่าวยังไง”