นางปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขามีสายตาเฉียบคมอย่างแท้จริง นางชอบกระโปรงชุดนี้มากทีเดียว ไม่คิดว่าเขาจะเลือกเสื้อผ้าให้ลูกศิษย์ตัวเองด้วย นางเป็นฝ่ายรับประโยชน์ไปเต็มๆ
ต้วนมู่ไป๋หยิบเครื่องประดับศีรษะออกมาแล้วสวมให้นางกับมือ สิ่งนั้นก็คือสร้อยพร้อมจี้ห้อยเส้นหนึ่ง ส่วนบนของจี้ฝังหยกสีน้ำเงิน พอสวมประดับบริเวณหน้าผากแล้วนึกไม่ถึงว่าจะช่วยส่งเสริมความงามดั่งวาดมังกรเติมตาทำให้นางมีกลิ่นอายราวกับเทพธิดาและงดงามยิ่งกว่าเดิม
ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่าเมื่อนางแต่งกายเช่นนี้แล้วมายืนเคียงคู่กับเขาช่างสอดคล้องกับคำกล่าวว่าบุรุษเก่งกาจควรคู่สตรีงามล้ำ สมเป็นคู่รักเทพเซียนจริงๆ
สายตาของคนทั้งสองสบประสานกันในคันฉ่อง ต้วนมู่ไป๋อมยิ้มพลางจ้องมองนาง แววตาราวกับดวงดาวพราวระยับ พั่วเยวี่ยมองตอบเขาด้วยรอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า นัยน์ตาฉ่ำวาวของนางกับเขาส่องสะท้อนความงามซึ่งกันและกัน
พอยักคิ้วหลิ่วตาเช่นนี้มองดูก็รู้ว่าต้องเลยเถิดจนกลายเป็นเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของอาจารย์กับลูกศิษย์แน่
ต้วนมู่ไป๋ดีดนิ้วนิดเดียวคันฉ่องบานใหญ่ก็หายวับไป เขาจับจูงมือของนางแล้วเอ่ยว่า “ไปกันเถอะ”
นางเพิ่งคิดในใจว่าต้องเลยเถิดจนกลายเป็นเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เจ้าคนหื่นกามก็โผล่หางออกมาแล้ว มองไม่ออกเลยนะ มองไม่ออกเลย ที่แท้บุรุษผู้นี้ก็เสแสร้งได้แนบเนียนนัก
ตอนแรกนางเห็นว่าเขาเป็นอาจารย์ที่รักใคร่เอ็นดูลูกศิษย์คนหนึ่ง เพียงแต่ยิ่งอยู่ร่วมกันยิ่งรู้สึกว่าท่าทีที่เขามีต่อลูกศิษย์ช่างคลุมเครือ
ประเดี๋ยวก็หาเสื้อผ้าอาภรณ์ ประเดี๋ยวก็หาเครื่องประดับให้ ตอนนี้ยังจูงมือนางด้วยซ้ำ
เรื่องจูงมือก็แล้วไปเถิด เขายังเรียกม้าสวรรค์มาตัวหนึ่งแล้วอุ้มนางขึ้นไปโดยให้นั่งอยู่ข้างหน้าตัวเอง ใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวนางไว้ ส่วนมืออีกข้างคว้าสายบังเหียน
ในที่สุดนางก็มั่นใจแล้วว่าบุรุษผู้นี้คิดมิดีมิร้ายกับลูกศิษย์ของตัวเองจริงๆ ด้วย!
ก่อนหน้านี้นางยังไม่มั่นใจ เพราะว่าภาพลักษณ์แสนเย็นชาของเขาสลักลึกอยู่ในใจผู้คน หญิงงามสามดินแดนมีมากมายก่ายกองเขากลับไม่ชายตาแลมอง จะมาสนใจเยวี่ยเป่าที่มีรูปโฉมเช่นเด็กสาวงามพริ้มเพราได้อย่างไร
วันนี้นับว่านางได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ไม่ใช่บุรุษทุกคนจะโปรดปรานอาหารชั้นเลิศเพียบพร้อมด้วยของป่าของทะเล บางคนอาจโปรดปรานโจ๊กรสจืดและกับแกล้ม ต้วนมู่ไป๋หาใช่บุรุษที่ไม่พึงชิดใกล้สตรี แค่ไม่พบคนที่ถูกตาต้องใจ ถ้าหากพบเข้าแล้วต่อให้เป็นเขาที่ไม่กินอาหารอย่างมนุษย์** ก็มีวันที่อยากกินเนื้อบ้างเหมือนกัน
นางก็คือเนื้อลูกแกะรสชาติอร่อยถูกปาก ในเมื่อได้ครอบครองร่างกายนี้แล้วนางจะต้องใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าหน่อย
ระหว่างที่ความคิดของพั่วเยวี่ยหมุนวนไปเป็นร้อยรอบ ม้าสวรรค์ก็สยายปีกโผบินพุ่งทะยานสู่ทะเลเมฆ
“อาจารย์ พวกเราจะไปที่ใดกันหรือเจ้าคะ”
“ในฐานะลูกศิษย์ของข้า เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่ามีสถานที่แห่งใดบ้างเป็นที่ลับสำหรับปลีกตัวฝึกตน”
ท่านเซียนผู้นี้จะพูดอะไรก็พูดมา จำเป็นต้องแนบชิดกันปานนี้ด้วยหรือ ไอร้อนเป่ารดใบหูข้าจนคันยุบยิบไปหมดแล้ว มีเจตนาจะยั่วยวนกันกระมัง
ม้าสวรรค์พาคนทั้งสองเหาะเหินวนรอบแนวภูเขา หุบเขายิ่งใหญ่ตระการตา ป่าเขียวขจีทอดตัวยาว น้ำตกเป็นสายราวแถบผ้าไหม ทิวทัศน์ทั้งหมดพอมองเห็นด้วยสองตาแล้วทำให้หัวใจของนางอยากโบยบินไปในแดนเซียนซึ่งมีธรรมชาติงดงามดั่งภาพวาดและบทกวีนี้เหลือเกิน
ไม่ว่าคนของเผ่ามารหรือแดนเซียนต่างก็มีสถานที่ลับสำหรับปลีกตัวฝึกตนของตัวเอง ตอนนี้นางทำได้แค่เดินเที่ยวเล่นบนเขาด้วยสองเท้า จะไปไหนมาไหนยังมีขอบเขตจำกัด เดิมทีตั้งใจว่าวันข้างหน้าพอเรียนรู้วิธีขี่เมฆเหาะเหินได้แล้วค่อยสำรวจสภาพพื้นที่ให้ละเอียด ตอนนี้เหนือความคาดหมายนัก ท่านเซียนกระบี่ผู้สูงส่งเกินเอื้อมแนะนำให้นางรู้จักด้วยตัวเอง นับว่าลดความยุ่งยากไปได้ไม่น้อยเลย
ขณะกำลังชื่นชมทิวทัศน์ พั่วเยวี่ยไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังมองนางอยู่ ถึงขนาดก้มศีรษะลงขบเม้มลำคอระหงเบาๆ ด้วยซ้ำ
เอ๋?
นางหันกลับไปมองเขา ภาพที่ปรากฏกลับเป็นเสี้ยวหน้าด้านข้างหล่อเหลาเงยขึ้นปะทะสายลม แต่แล้วคล้ายรับรู้ได้ว่านางกำลังมองอยู่ เขาจึงถอนสายตาที่กวาดมองไปไกลกลับมาและหันมองตอบนางเช่นกัน ดวงตาสองข้างประดับรอยยิ้มหล่อเหลาจางๆ อย่างเปิดเผยมีชีวิตชีวา
พั่วเยวี่ยพลอยยิ้มไปกับเขาด้วย ก่อนจะถอนสายตากลับมาแล้วมองตรงไปข้างหน้า ยกมือขึ้นเกาตรงลำคออย่างไม่ใส่ใจนัก
ตลอดเส้นทางนี้ต้วนมู่ไป๋พานางเหาะเหินผ่านยอดเขาสูงตระหง่านยาวเหยียด ทะเลเมฆสะท้อนแสงอาทิตย์เรืองรอง น้ำตกดั่งธารน้ำจากสวรรค์ สะพานสายรุ้งของเทพเซียน จนกระทั่งมองเห็นทุ่งดอกไม้ ช่างงดงามเกินคำบรรยาย
นางไม่เพียงแค่ลอบจดจำสภาพพื้นที่ไว้ในใจ ยังอาศัยความออดอ้อนไร้เดียงสาเลียบๆ เคียงๆ สอบถามว่าตำแหน่งไหนกางข่ายอาคม ตำแหน่งไหนวางค่ายกลเอาไว้ ต้วนมู่ไป๋กลับตอบอย่างตรงไปตรงมา ถามอะไรไปก็ตอบหมด
หึ รอให้ข้าคุ้นเคยกับสภาพพื้นที่เสียก่อนจะนำกองทัพมารทำลายข่ายอาคม พังค่ายกล และกวาดล้างรังของเขาให้สิ้นซาก!