หกปีต่อมา
การงีบหลับครั้งหนึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เซียวฉางหนิงสะดุ้งตื่นจากฝัน ลุกนั่งตัวตรงอย่างสะลึมสะลือ
นอกม่านเตียงมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ ทั้งยังมีเสียงสะอื้นไห้ดังลอยมาเบาๆ เซียวฉางหนิงมือข้างหนึ่งกุมขมับ อีกข้างหนึ่งพลิกเปิดม่านโปร่งสีเหลืองอมส้ม นางเห็นเซียวหวนฮ่องเต้น้อยอายุสิบสี่ปียืนอย่างน่าสงสารอยู่ข้างเตียง บนใบหน้าที่แฝงไปด้วยความไร้เดียงสานั้นยังมีน้ำตาไหลอยู่สองสาย
เห็นพี่สาวแท้ๆ ของตนแล้วเซียวหวนก็เบะปาก น้ำตาทำท่าจะเอ่อล้นออกมาอีก เอ่ยเรียกอย่างเศร้าโศก “พี่หญิง…”
เซียวหวนจัดอยู่ในลำดับที่หกของเหล่าพี่น้อง เป็นน้องชายร่วมมารดาของเซียวฉางหนิง หลังจากอวี๋กุ้ยเฟยป่วยตายไป เซียวหวนที่อายุยังน้อยก็ถูกนำไปฝากเลี้ยงไว้กับเหลียงฮองเฮาที่บุตรชายตายตั้งแต่อายุยังน้อย ฤดูหนาวปีที่แล้วอดีตฮ่องเต้จากไปอย่างกะทันหัน เซียวหวนจึงขึ้นครองราชย์ภายใต้การสนับสนุนของเหลียงฮองเฮา
เหลียงไทเฮาใช้ข้ออ้างว่าฮ่องเต้พระองค์ใหม่อายุน้อยไม่รู้ความแล้วว่าราชการหลังม่าน ลอบคานอำนาจกับสำนักบูรพา ฮ่องเต้น้อยถูกบีบอยู่ตรงกลางใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก มีชีวิตไม่ดีไปกว่าเซียวฉางหนิง
ยามนี้พยัคฆ์สารทฤดู อาละวาดรุนแรง อากาศยังคงร้อนอ้าวดังเดิม เซียวฉางหนิงสวมเสื้อคลุมเพียงชั้นเดียวก็ลงจากเตียง ยื่นมือไปรับผ้าไหมที่นางกำนัลยื่นมาให้ เช็ดน้ำตาให้เซียวหวนลวกๆ แล้วถามว่า “ฝ่าบาททรงเป็นอะไรไปเพคะ ทรงถูกไทเฮาตำหนิอีกแล้วหรือ”
ฮ่องเต้น้อยส่ายหน้า สะอื้นไห้พลางกล่าวว่า “ไม่ใช่”
เซียวฉางหนิงสงสัย “แล้วทรงพระกันแสงด้วยเหตุใด”
ฮ่องเต้น้อยยากจะสะกดความเศร้าโศกไว้ได้ มองเซียวฉางหนิงด้วยแววตาราวกับจะจากลากันชั่วชีวิตพลางคร่ำครวญ “พี่หญิง เราทำผิดต่อท่าน!”
“นี่! อย่านะ!”
ฮ่องเต้น้อยโตเร็วยิ่ง เวลานี้สูงเท่ากับเซียวฉางหนิงแล้ว ยามนี้เขากระโจนเข้ามาราวกับสุนัขตัวใหญ่ เซียวฉางหนิงทำได้เพียงมือเท้าวุ่นวายกอดเขาเอาไว้ แต่ก็ยังถูกชนจนถอยหลังหนึ่งก้าว เสื้อผ้าเปียกปอนไปด้วยน้ำมูกน้ำตาของฮ่องเต้ เซียวฉางหนิงถอนใจเฮือกหนึ่ง งอนิ้วดีดหน้าผากเรียบเนียนของเขา “พูดมาเถอะ ฝ่าบาททรงทำเรื่องอันใดที่ผิดต่อหม่อมฉันหรือ”
“พี่หญิง…” เซียวหวนเงยหน้าที่ยังคงแฝงความเยาว์วัยขึ้นมา สองตาแดงก่ำดึงแขนเสื้อของเซียวฉางหนิงไว้ พูดอย่างน่าสงสาร “ผู้บัญชาการเสิ่นบอกว่าถ้าไม่ให้ท่านแต่งงานกับเขา เขาก็จะล้มเราแต่งตั้งโอรสสวรรค์คนใหม่ ฮือๆๆ…”
เซียวฉางหนิงที่ยังง่วงงุนไม่หาย สมองหมุนตามไม่ทันไปชั่วขณะ นางแคะหูเล็กน้อยพลางถามว่า “ผู้บัญชาการเสิ่น? ผู้ใดกัน”
ฮ่องเต้น้อยสูดจมูกแล้วจึงเอ่ยเสียงเบา “ก็คนที่ถูกพี่หญิงด่าว่าเป็นคนกระตุ้งกระติ้งเมื่อหกปีก่อน เสิ่นเสวียนผู้นั้น…”
วาจานั้นราวกับอสนีบาตผ่าลงกลางศีรษะดังครืน เซียวฉางหนิงพลันได้สติ ใบหน้าขาวซีดในพริบตา
ชื่อเสียงของเสิ่นเสวียนโด่งดังสะท้านไปทั่ว อายุยังน้อยก็ขึ้นนั่งประจำตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักบูรพาด้วยสองมือที่เปื้อนเลือดแล้ว สองปีมานี้เพียงแค่ได้ยินชื่อของเขาก็ทำให้คนตกใจจนนั่งไม่ติดได้! ขันทีเรืองอำนาจปีศาจร้ายที่ชื่อเสียงชั่วร้ายขจรไปไกลเช่นนี้ เซียวฉางหนิงได้แต่หลบหลีกให้ห่าง นางไปหาเรื่องเขาตั้งแต่เมื่อใดกัน
ช้าก่อน…หกปีก่อน? กระตุ้งกระติ้ง?
“ขันทีรุ่นเยาว์ที่ถูกหม่อมฉันด่าว่ากระตุ้งกระติ้งในตอนนั้นชื่อเสิ่นชีไม่ใช่หรือ!”