บทที่ 3
สำนักบูรพาเพียงแค่แขวนผ้าแพรแดงหลายแถบเป็นสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่กว่าร้อยคนแต่งตัวเต็มยศ ทั้งยังประดับดาบข้างเอว ยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ เพียงเท่านี้ก็น่าเกรงขามกว่าองครักษ์เสื้อแพรเสียอีก
งานมงคลที่ไร้สาระและประหลาดงานหนึ่งถึงกับทำให้ทุกคนทั่วสำนักบูรพาฉายรังสีอำมหิตออกมาอย่างยากจะอธิบายได้
แมวกระดองเต่าในอ้อมกอดเหมือนจะรับรู้ถึงอันตราย มันโก่งตัวขึ้น หางแมวชี้ตั้งขนพองในพริบตา เซียวฉางหนิงอยากจะปลอบลูกแมวที่ได้รับความตกใจเช่นเดียวกับนาง แต่แมวตัวนั้นกลับร้อง “เหมียว” อย่างตกใจกลัวแล้วกระโดดออกจากอ้อมแขนของนาง วิ่งมุดเข้าพุ่มดอกไม้ด้านข้างหายไปอย่างไร้ร่องรอย…
“หู่พั่ว!” เซียวฉางหนิงเรียกเสียงเบา
จากนั้นมือใหญ่ที่ข้อกระดูกชัดเจนข้างหนึ่งก็ยื่นมาถึงตรงหน้าของนาง
เซียวฉางหนิงมองเลื่อนขึ้นบนไปตามมือใหญ่ข้างนั้น สิ่งที่ได้เห็นเป็นใบหน้าสง่างามสะดุดตาของเสิ่นเสวียน
เพราะสายตาของเสิ่นเสวียนคมกริบเกินไป ทั้งสุนัขดำตัวใหญ่ข้างกายยังแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัว ถึงแม้เขาจะมีหน้าตาหล่อเหลาเพียงใด เซียวฉางหนิงยังคงรับรู้ถึงความกดดันราวกับจะขาดใจนั้นได้
เมื่อรับรู้ถึงสายตาของทุกคนที่มารวมอยู่ที่ตนเอง เซียวฉางหนิงก็สูดลมหายใจลึกหลายที ไม่สนใจจะตามหาแมวแล้ว จากนั้นก็ยื่นมือตนเองวางลงบนฝ่ามือของเสิ่นเสวียนอย่างหวาดหวั่น
ทว่าต่างกับใบหน้าโอหังเย็นกระด้างของเสิ่นเสวียน ฝ่ามือของเขากลับอบอุ่นและมั่นคงอย่างยิ่ง
“องค์หญิงใหญ่กับกระหม่อมไม่มีญาติพี่น้อง งานฉลองแต่งงานจึงจัดอย่างเรียบง่าย ประเดี๋ยวจะส่งท่านไปที่ห้องหอเลย” เสิ่นเสวียนพูดเช่นนี้แล้วจูงมือเซียวฉางหนิงก้าวเดินไปบนพรมแดง
“ไม่ ช้าก่อน…”
เซียวฉางหนิงยังพูดไม่จบ คนในสำนักบูรพาคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวมาจากที่ใดก็คุกเข่ารายงานเสิ่นเสวียนว่า “ใต้เท้าผู้บัญชาการ คนทรยศนั่นไม่ยอมสารภาพ จะจัดการอย่างไรดีขอรับ”
ฝีก้าวของเสิ่นเสวียนไม่มีทีท่าจะหยุดแม้แต่น้อย น้ำเสียงเย็นชาแฝงไอสังหารเอาไว้ “ทำตามกฎระเบียบ จุดโคมลอย”
‘โคมลอย’ ที่ว่านี้คือการลงโทษทารุณอย่างหนึ่งที่สำนักบูรพาใช้เป็นประจำ โดยถอดเสื้อผ้าของนักโทษออกหมด พันแถบผ้าที่ชุบน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ทั่วตัวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หลังจากพันจนกลายเป็น ‘ขนมจ้างมนุษย์’ แล้วแขวนไว้บนคานไม้สูงก็จะจุดไฟที่ปลายเท้าและศีรษะ เปลวไฟลอยขึ้นสูงเพราะผลจากน้ำมันเชื้อเพลิง ตามด้วยเสียงร้องโหยหวนของผู้ที่ถูกเผา สิ่งนี้ถือเป็นการ ‘จุดโคมลอย’…
เซียวฉางหนิงปลายนิ้วสั่นเทา
เนื่องจากนางไม่ได้กินอาหารมาทั้งวัน กอปรกับตกใจหวาดกลัว และบังเอิญอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้บัญชาการสำนักบูรพาที่ร้ายกาจเลื่องชื่อตัดสินจัดการคนทรยศอีก ภาพตรงหน้าของนางมืดดำ เดินโอนเอนไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
เสิ่นเสวียนประคองนางไว้ตามสัญชาตญาณ
“องค์หญิงใหญ่เพคะ! องค์หญิงใหญ่!” ข้างหูมีเสียงสะอื้นไห้เบาๆ ของเหล่านางกำนัลดังลอยมา “ฮือๆ องค์หญิงหมดสติไปแล้ว…”
แท้จริงแล้วเซียวฉางหนิงเพียงแค่หน้ามืดไปชั่วขณะเท่านั้น แต่นางกลับปล่อยเลยตามเลย แสร้งทำเป็นยังไม่ได้สติ
เป็นเพราะสำนักบูรพานี้มีชื่อเสียงเลวร้ายเกินไป ในขณะที่ยังไม่รู้เบื้องลึกและนิสัยของอีกฝ่ายชัดเจน เซียวฉางหนิงไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะเผชิญหน้ากับเสิ่นเสวียนเช่นไร จึงเลือกที่จะแสร้งหมดสติ ต่อให้จุดเหรินจง จะถูกกดจนแทบช้ำแล้วนางยังคงอดกลั้นความเจ็บไม่ร้องสักนิด
เหนือศีรษะมีเสียงหัวเราะอ่อนโยนของฟางอู๋จิ้งดังลอยมา “ใต้เท้าผู้บัญชาการ บอกแล้วว่าภรรยาตัวน้อยของท่านผู้นี้ขี้กลัวยิ่ง”
“ถอยไป” เสิ่นเสวียนออกคำสั่ง
จากนั้นเซียวฉางหนิงพลันรู้สึกว่าร่างกายของตนเองลอยขึ้นกลางอากาศ ยังไม่ทันคิดอะไรละเอียดก็ตกไปอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงอบอุ่นแล้ว
“!!!” เซียวฉางหนิงตื่นตกใจ เสิ่นเสวียน? เขาจะทำอันใด!
เสิ่นเสวียนอุ้มตัวเซียวฉางหนิงเดินไปทางห้องหอด้วยสีหน้าราบเรียบราวผืนน้ำ แต่ฟางอู๋จิ้งและเหล่าเจ้าหน้าที่สำนักบูรพายังคงปรบมือโห่ร้อง ปากก็ตะโกนว่า “ใต้เท้าผู้บัญชาการช่างองอาจ!”
เซียวฉางหนิงกลั้นหายใจ รู้สึกเพียงหัวใจทั้งดวงเต้นเร็วดั่งรัวกลองเพราะความหวาดกลัวตื่นเต้น แทบจะเต้นทะลุอกอยู่แล้ว ภายใต้ม่านพู่ทองของมงกุฎหงส์ ใบหน้าของนางซีดขาวสลับแดงเรื่อ ขนตาสั่นไหวเบาๆ นางแสร้งหมดสติจนอกสั่นขวัญแขวน กลัวเพียงว่าจะถูกผู้บัญชาการเสิ่นที่อุ้มนางอยู่จะมองเห็นพิรุธ
เสิ่นเสวียนอุ้มนางตรงเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยผ้าแพรแดงอักษรมงคล จากนั้นก็มีขันทีผู้หนึ่งเอ่ยถามความเห็นว่า “ใต้เท้าผู้บัญชาการจะเชิญหมอหลวงมาหรือไม่ขอรับ”
“ไม่จำเป็น ข้าดูแลเองได้” เสิ่นเสวียนตอบเด็ดขาดยิ่ง ระหว่างที่พูดก็ใช้เท้าเตะเปิดประตูห้อง วางตัวเซียวฉางหนิงนอนราบบนเตียงที่ปูผ้าห่มมงคลแล้วพูดสั่งการว่า “ตักน้ำเย็นมาหนึ่งอ่าง”
น้ำเย็น?!
เซียวฉางหนิงรู้ว่าหากเป็นคนที่ทนไม่ไหวหมดสติไประหว่างการลงทัณฑ์จะใช้น้ำเย็นราดให้ฟื้น!
ไม่ได้นะ! ชุดเจ้าสาวที่ข้าเตรียมไว้อย่างประณีตเป็นเวลานาน จะให้เสียหายด้วยน้ำเย็นหนึ่งอ่างไม่ได้…