เซียวฉางหนิงดวงตาเปล่งประกาย มองไปตามเสียง “หู่พั่ว!”
“เหมียว” แมวกระดองเต่าที่หายตัวไปหนึ่งวันบิดขี้เกียจอยู่บนสันหลังคาอย่างเกียจคร้าน ขนสีดำน้ำตาลสะท้อนเป็นมันวาวใต้แสงแดด
เซียวฉางหนิงคิดอยากจะช่วยแมวของตนเอง นางวิ่งไปใต้ชายคาโดยไม่คิดอะไร และไม่ได้สังเกตเลยว่าใต้ชายคานั้นมีป้ายชื่อป้ายหนึ่งเขียนอักษรสีทองตัวใหญ่ว่า ‘โถงประชุม’
“ช้าก่อนขอรับ ที่นั่นคือ…”
หลินฮวนอยากจะยับยั้ง แต่เซียวฉางหนิงเดินตามทางใหญ่เข้าไปในเขตโถงประชุมแล้ว ประตูห้องโถงปิดสนิท เซียวฉางหนิงยืนอยู่ในชายคาเงยหน้ามองเจ้าแมวที่เดินเล่นอยู่บนกระเบื้องปูหลังคา ขณะที่นางกำลังจะส่งเสียงเรียกก็ได้ยินเสียงแสดงความเห็นของเหล่าขันทีดังลอยมา
“หน่วยหงส์แดงปรับปรุงคันธนูนี้แล้ว สามารถยิงต่อกันได้สิบดอก แต่ละดอกมีพิษ”
“หน่วยพยัคฆ์ขาวประดิษฐ์พิษใหม่ได้หนึ่งชนิดเช่นกัน ไร้สีไร้กลิ่น ตอนพิษกำเริบอวัยวะภายในจะเจ็บปวด แขนขาเกร็งกระตุก แต่ยังทำให้คนมีสติอยู่ เหมาะอย่างมากในการใช้สอบสวนนักโทษ”
“ใต้เท้าผู้บัญชาการ หน่วยมังกรครามคิดค้นเครื่องลงทัณฑ์ใหม่ได้ชนิดหนึ่ง สามารถทุบเส้นเอ็นหักกระดูกได้…”
“ตามรายงานของสายสืบ ระยะนี้ไช่เฟิงแห่งกรมทหารไม่อยู่นิ่ง ลอบรับนักสู้พเนจรในยุทธภพกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์ร้าย จะดำเนินการอะไรหรือไม่ขอรับ”
“อืม” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยนั้นเป็นของเสิ่นเสวียน “ไช่เฟิงมีใจคิดคดไม่ใช่วันสองวัน ควรจะจัดการบ้างแล้ว”
ดวงตะวันฤดูใบไม้ร่วงสดใส เซียวฉางหนิงกลับมีเหงื่อออกท่วมตัวด้วยความตกใจ
น่า…น่ากลัวเหลือเกิน! ขันทีสำนักบูรพากลุ่มนี้ปรึกษาหัวข้อน่ากลัวเช่นนี้กลางวันแสกๆ
“…เป็นโถงประชุมของใต้เท้าผู้บัญชาการขอรับ” หลินฮวนกัดนิ้วมือพุ่งเข้ามา พูดเสริมครึ่งประโยคสุดท้ายจนสมบูรณ์
เซียวฉางหนิงถอยหลังหนึ่งก้าว อาจเพราะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว เสียงภายในห้องจึงหยุดลงทันที จากนั้นเสียงทุ้มต่ำของเสิ่นเสวียนก็ดังลอยมา “ใคร!”
เสิ่นเสวียนเปิดประตู บังเอิญเห็นแผ่นหลังหนึ่งวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
บนบันไดมีผ้าที่งานปักประณีตผืนหนึ่งตกอยู่ เห็นชัดว่าเป็นของนายหญิงหนึ่งเดียวในสำนักบูรพา
เขามองไปทางหลินฮวน “นางได้ยินหรือ”
“ได้ยินเพียงไม่กี่ประโยคก็ตกใจหนีไปแล้วขอรับ” หลินฮวนหันมองทางที่ฮูหยินของตนเองวิ่งจากไป พูดอย่างสงสัยว่า “ฮูหยินยังบอกว่าตนเองไม่มีแรงแล้ว นี่วิ่งได้เร็วมากมิใช่หรือ”
เสิ่นเสวียนดูเหมือนไม่กังวลที่เซียวฉางหนิงได้ยินความลับ เพียงแค่ก้มลงหยิบผ้าสีไข่มุกที่ตกอยู่บนบันไดนั้นขึ้นมา ผ่านไปเนิ่นนานจึงพูดเสียงเรียบว่า “ระยะนี้สถานการณ์ไม่ค่อยสงบนัก คอยติดตามนางไว้”