เซียวฉางหนิงไม่ชอบท่าทางบีบคั้นคนของเสิ่นเสวียนเช่นนี้ที่สุด นางขมวดคิ้วแล้วตอกกลับด้วยเสียงเบาอ่อนโยน “คำโบราณว่าไว้ แต่งกับไก่อยู่กับไก่ แต่งกับสุนัขอยู่กับสุนัข ข้าไม่ควรเอาแต่ใจแยกที่อยู่กับผู้บัญชาการเสิ่น ไม่ทำหน้าที่ภรรยา”
ได้ยินดังนั้นเสิ่นเสวียนก็หัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง
จากนั้นเขาก็พูดว่า “องค์หญิงใหญ่ไม่จำเป็นต้องหลบกระหม่อมราวกับหลบงูแมงป่อง หากกล่าวตามจริง กระหม่อมก็ไม่ได้หวังว่าองค์หญิงใหญ่จะทรงร่วมหลับนอนห้องเดียวกับกระหม่อม”
เซียวฉางหนิงดวงตาเปล่งประกาย ขนตายาวสั่นไหวเพราะไม่กล้าเชื่อสิ่งที่ได้ยิน “จริงหรือ ท่านเห็นด้วยกับการแยกเตียงนอนหรือ เช่นนั้นเหตุใดเมื่อคืนท่านจึงโกรธ แม้แต่อาหารเย็นก็ยังไม่ยอมให้พวกเรากินกันเล่า”
ฟังนางยิงคำถามรัวไม่หยุดแล้วเสิ่นเสวียนก็พูดอย่างสงบนิ่งว่า “กระหม่อมไม่ชอบบีบบังคับฝืนใจสตรี แยกห้องนอนกันก็ได้ แต่ยามกินอาหารหรือไปไหนมาไหนองค์หญิงใหญ่ยังคงต้องทรงทำด้วยกันกับกระหม่อม นอกจากนี้ยังห้ามหลบหลีก จำไว้ ในสายตาของคนนอก อย่างไรองค์หญิงใหญ่ก็ทรงเป็นภรรยาของกระหม่อม แต่งงานกันวันที่สองก็ปฏิเสธไม่กินอาหารร่วมโต๊ะ สร้างเรื่องใหญ่โตเกินไปจะกลายเป็นขี้ปากคนอื่นได้”
เสิ่นเสวียนเป็นถึงผู้บัญชาการสำนักบูรพา มีชื่อเสียงร้ายกาจลือไปไกล เขายังกลัวเรื่องสามีภรรยามีความสัมพันธ์ไม่ลงรอยกันจนกลายเป็นขี้ปากคนอื่นอีกหรือ
ถึงแม้ในใจจะมีความสงสัยอย่างมาก แต่เซียวฉางหนิงยังคงแอบโล่งอก พยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอเพียงผู้บัญชาการมีมารยาทต่อข้า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ย่อมพูดได้ง่าย ท่านวางใจได้ หนึ่งวันสามมื้อ หรือยามออกไปไหนมาไหนข้าจะให้ความร่วมมือท่านทุกอย่าง”
เห็นเสิ่นเสวียนจ้องหน้านาง เซียวฉางหนิงก็มีเหงื่อผุดเล็กน้อย “เหตุใดท่านจึงเอาแต่มองข้า ไม่กินข้าว…”
นางยังไม่ทันกล่าวจบก็ตกตะลึงไป จานตรงหน้าเสิ่นเสวียนเกลี้ยงสะอาดนานแล้ว ไม่เหลือข้าวแม้แต่เม็ดเดียว จานสะอาดเงาจนส่องหน้าคนได้
ทว่าตั้งแต่ตอนยกอาหารขึ้นโต๊ะมาถึงตอนนี้เป็นเวลาเพียงครึ่งเค่อเท่านั้น!
เขาทำอย่างไรจึงเป็นพายุหมุนกวาดอาหารเกลี้ยงอย่างไร้สุ้มเสียงในเวลาครึ่งเค่อได้
เสิ่นเสวียนหยิบผ้าเปียกที่วางไว้บนโต๊ะด้านข้างขึ้นมาเช็ดมืออย่างช้าๆ แล้วพูดว่า “คนของสำนักบูรพาผ่านการฝึกฝนมานาน ทำอะไรย่อมว่องไว การกินอาหารก็เช่นกัน”
เซียวฉางหนิงส่งเสียง “อ้อ” แล้วรวบรวมความกล้าลองผูกสัมพันธ์กับเสิ่นเสวียน หาหัวข้อสนทนามาเรื่องหนึ่ง “พ่อครัวสำนักบูรพาของพวกท่านเป็นใครหรือ อาหารแม้จะเรียบง่าย แต่รสชาติกลับล้ำเลิศ ติดปากไม่ลืมเลือน”
เสิ่นเสวียนพับผ้าเปียกวางไว้ด้านข้างอย่างเรียบร้อยแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “อาหารขององค์หญิงใหญ่ อู๋โหย่วฝูหัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ขาวเป็นคนทำเองทั้งหมด”
เซียวฉางหนิงถามอย่างสงสัยว่า “สำนักบูรพาของพวกท่าน พ่อครัวก็เป็นหนึ่งในสี่หัวหน้าหน่วยได้ด้วยหรือ”
เสิ่นเสวียนหัวเราะทีหนึ่ง เอ่ยอย่างหยิ่งผยองยิ่งนัก “หัวหน้าหน่วยอู๋ของพวกเราผู้นี้แม้จะถนัดเรื่องการทำครัว แต่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยทั้งสี่อย่างแท้จริงกลับเป็นความสามารถชั้นยอดอีกอย่างหนึ่ง”
เซียวฉางหนิงไม่รู้เรื่องราว “ความสามารถชั้นยอดอะไรหรือ”
เสิ่นเสวียนตอบกลับ พูดออกมาอย่างช้าๆ ว่า “ปรุงยาพิษ”
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือนมกราคม 2567)