‘หลางจวิน เรื่องของราชสำนัก เมื่อก่อนข้าไม่ค่อยได้ใส่ใจ ข้ารู้เพียงว่าตอนนั้นที่บิดายังมีชีวิตอยู่ ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือยึดคืนดินแดนทางเหนือให้จงหยวน ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่จะต้องสนับสนุนหลางจวินแน่นอน’
หลี่มู่มองนางนิ่ง ประกายความพึงพอใจค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาในส่วนลึกของดวงตา
‘ฟูเหริน…’
‘เรียกข้าอาหมีเถิด คนในครอบครัวต่างเรียกข้าเช่นนี้’
นางคลี่ยิ้มหวาน
‘อาหมี…’
หลี่มู่ประกายตาสั่นไหว เรียกชื่อนางเสียงต่ำออกมาคำหนึ่ง
เขาจับมือนาง ค่อยๆ รวบมือเข้ามา ในที่สุดก็กุมมือน้อยของนางไว้ในฝ่ามือที่ร้อนผ่าวเต็มไปด้วยรอยด้านหนาของตนแน่น
มือทั้งสองถูกฝ่ามือของเขากุมไว้แน่นเช่นนี้ ทำให้หัวใจของเกาลั่วเสินเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
นางไม่กล้ามองสบสายตาร้อนแรงสองสายที่พุ่งมาที่ตน เพียงหลุบตาลง เมื่อนึกขึ้นได้จึงดึงมือของตนออกมาจากมือเขาเบาๆ แล้วลงจากเตียง
นางเดินไปถึงข้างโต๊ะ ยกป้านสุราขึ้นมา รินสุราลงในจอกสลักลายมงคลหยินหยางที่วางอยู่เงียบๆ บนโต๊ะคู่นั้น พอรินสุราเต็มทั้งสองถ้วยนางก็ยกขึ้นมา ภายใต้สายตาที่จ้องมองมาของเขา นางเดินทีละก้าวๆ กลับมาตรงหน้าเขา แล้วยื่นจอกสุราหยกใบที่สลักลายหยางให้กับเขา
‘นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตที่เหลืออยู่ของข้าภรรยา ขอฝากไว้กับหลางจวิน เชิญดื่มสุรามงคลจอกนี้’
นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากแดงคลี่ออก ลมหายใจหอมกรุ่นดุจดอกกล้วยไม้
ชายแขนเสื้อแผ่ขยายดุจปุยเมฆ ข้อมือขาวผ่องดุจหยก สุรารสเลิศกับมือนวลเนียนดุจหยกแลสว่างพร่างพราวขับดุนซึ่งกันและกัน สุราผูเถา สาดประกายเรืองรองทำให้คนรู้สึกเคลิบเคลิ้มลุ่มหลง
หลี่มู่มองจ้องนางนิ่ง ส่วนลึกในดวงตาเต็มไปด้วยความนุ่มนวลละมุนละไม
เขารับจอกสุรามงคล ฝ่ามือใหญ่จับจูงมือนางให้กลับมานั่งที่ขอบเตียง ทั้งสองคล้องแขนกัน มองสบประสานสายตากัน ต่างดื่มสุราในจอกของตน
ครั้นดื่มหมดเขาก็วางจอกสุราลง ส่งยิ้มสดใสให้นาง หัวคิ้วนัยน์ตาห้าวหาญเด็ดเดี่ยว ใบหน้าอิ่มเอิบมีชีวิตชีวา
มุ้งผ้าดิ้นถูกปล่อยลงมาอีกครั้ง
เกาลั่วเสินรู้สึกได้ว่าริมฝีปากคู่นั้นแตะที่ติ่งหูตนเบาๆ ตอนหลับตา พลันคล้ายมีภาพคืนวันแต่งงานในอดีต ครานั้นลู่เจี่ยนจือยิ้มพลางเรียกนาง ‘อาหมี’ ด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง ดังวนเวียนอยู่ข้างหูนาง
ร่างของนางอดแข็งขึงน้อยๆ ไม่ได้
เขาคล้ายสังเกตเห็นความผิดปกติของนาง หลังลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เงยหน้าขึ้น ปล่อยมือจากนาง
‘นอนเถิด’
เขากล่าวเสียงนุ่ม ช่วยดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้นางเบาๆ คลุมถึงลำคอ ในน้ำเสียงไม่มีความไม่พอใจเจืออยู่แม้แต่น้อย
เกาลั่วเสินหลับตาลงครู่หนึ่ง แล้วลืมตาขึ้นมาเงียบๆ มองมาที่เขา
เขาหลับตาอยู่ เพียงนอนข้างกายนางเงียบๆ ลมหายใจหนักแน่นสม่ำเสมอคล้ายหลับไปแล้ว
แต่นางรู้…เขายังไม่หลับ
‘เพราะเหตุใดจึงดีต่อข้าเช่นนี้’
นางส่งเสียงขึ้นเบาๆ ถามอย่างคลุมเครือ
เขาลืมตา ก่อนหันหน้ามองมาทางนาง
แสงเทียนสีแดงลอดผ่านม่านมุ้งเข้ามา ดวงตาลึกล้ำของเขาทอประกายวิบวับจางๆ