ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 3-บทที่ 4 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 3-บทที่ 4

หลายปีก่อน เมืองจิงโข่วมีเด็กชายวัยสิบขวบลี้ภัยหนีตายจากทางเหนือคนหนึ่ง ตอนมาถึงใหม่ๆ ไม่คุ้นเคยกับสถานที่และผู้คน เพื่อจะหาค่ารักษาให้มารดาที่ป่วยหนัก ด้วยความอับจนหนทางจึงยอมรับจ้างใช้แรงงานด้วยค่าตอบแทนปีละสามสิบเฉียน เป็นเวลาหนึ่งปี ไปเป็นเด็กรับใช้ในเขตที่ดินศักดินาของสกุลจางตระกูลที่มีอำนาจมากในท้องถิ่นตระกูลหนึ่ง ทุกวันฟ้ายังไม่สว่างก็ต้องตื่นขึ้นมาทำงานหนักงานสกปรกทุกอย่าง

เมื่อครบกำหนดหนึ่งปีตอนที่เขาสามารถจากไปได้แล้ว พ่อบ้านกลับใส่ความว่าเขาขโมยเงินของผู้เป็นนาย จะส่งตัวเขาให้ทางการ ถ้าเขาไม่อยากไปก็ต้องเซ็นสัญญาขายตัวชั่วชีวิต

ต่อมาเขาจึงรู้ว่านี่เป็นวิธีที่ผู้มีอำนาจในท้องถิ่นเหล่านี้หลอกใช้ผู้ลี้ภัยไร้รากเหง้า เพื่อจ่ายค่าตอบแทนต่ำที่สุดกักตัวเด็กรับใช้ไว้ใช้งานในเขตที่ดินศักดินาของตน

ด้วยความโกรธแค้นเขาจึงซัดพ่อบ้านจนล้มคว่ำไปกับพื้น จากนั้นก็ถูกเหล่าคนรับใช้กรูเข้ามาจับตัวไว้ หลังจากซ้อมเขาอย่างหนักไปชุดหนึ่งก็เอาตะปูเหล็กตอกทะลุฝ่ามือเขา

เขาถูกตอกฝ่ามือติดกับเสาต้นหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างทางตรงปากประตูทางเข้าเขตที่ดินศักดินา ตากแดดตากลม ถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

กว่ามารดาของเขาหลูซื่อ จะได้ข่าวและเร่งรุดมา เขาก็ถูกตรึงอยู่ข้างถนนมาสามวันแล้ว ไม่มีน้ำไม่มีข้าวตกถึงท้อง ริมฝีปากแห้งแตกมีโลหิตไหลซึม คนก็ถูกแสงแดดที่ร้อนแรงแผดเผาจนไม่ได้สติสมปฤดี

เขาฝืนร่างฟื้นขึ้นมาท่ามกลางเสียงร้องไห้พร่ำเพรียกหาของมารดา เห็นมารดาที่ร่างกายผ่ายผอมบอบบางคุกเข่าอยู่หน้าประตูเขตที่ดินศักดินาซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล โขกศีรษะให้บรรดาทาสในครัวเรือนเหล่านั้น วิงวอนให้ไว้ชีวิตบุตรชายของนาง

ทาสในครัวเรือนเหล่านั้นกลับเท้าสะเอวหัวเราะเยาะ

มารดาของเขาหลูซื่อ เดิมเป็นบุตรีของตระกูลขุนนางทางเหนือ ตอนราชสกุลเซียวข้ามแม่น้ำลงใต้ สกุลหลูทั้งตระกูลไม่ได้ติดตามมาด้วย ภายหลังมาถึงด้านตะวันออกของแม่น้ำฉางเจียง อีกครั้งก็ช้าไปแล้ว ภายใต้การกดข่มของตระกูลขุนนางที่มีอำนาจราชศักดิ์ซึ่งหน้าที่การงานขึ้นสู่จุดสูงสุด คนสกุลหลูต้องตกอับกลายเป็นครอบครัวสามัญชนที่ยากจน หนทางที่บุตรหลานจะได้เลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง หลายปีมานี้สมาชิกในครอบครัวแยกย้ายกระจัดกระจายต่างไปตามทางของตน ไม่มีใครยังจดจำได้ว่ามีสตรีในตระกูลผู้หนึ่งแต่งให้สกุลหลี่แห่งอำเภอซวีอี๋

มารดาไม่ควรถูกเหยียบย่ำให้เสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้

เขาอยากจะเรียกมารดาของตนให้ลุกขึ้นมา แต่ลำคอกลับแหบแห้งจนเปล่งเสียงไม่ออก

ในเวลานี้เองก็มีเสียงกระดิ่งทองแดงไพเราะชวนฟังดังมาตามสายลม

ไกลออกไปบนถนนฝั่งตรงข้าม มีรถเทียมวัวคันหนึ่งแล่นมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน

วัวตอนตัวใหญ่แข็งแรงล่ำสัน ที่ลำคอมีกระดิ่งทองแดงสีเหลืองทองผูกอยู่อันหนึ่ง หน้าประทุนรถห้อยม่าน ตัวรถตกแต่งด้วยภาพวาดสีทองเคลือบเงา หน้าต่างที่อยู่ด้านข้างของประทุนรถเปิดออกครึ่งหนึ่ง คนบังคับนั่งตัวตรงอยู่หน้ารถ ฝีมือในการบังคับควบคุมยอดเยี่ยม ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย ด้านขวาของตัวรถ มีผู้คุมกันเดินเท้าติดตามมาสองแถว

เพียงเห็นก็รู้ นี่คงจะเป็นเจ้านายในตระกูลที่มีเงินและอำนาจของบ้านใดสักแห่งเดินทางผ่านมาทางนี้

ภาพที่เจ้านายเขตที่ดินศักดินาใช้อำนาจบาตรใหญ่ลงโทษทาสในเรือนเช่นนี้ บางทีสำหรับที่นี่อาจเป็นภาพที่เห็นกันจนเคยชินไม่ใช่เรื่องแปลก

รถเทียมวัวไม่ได้หยุดลง เพียงวิ่งผ่านข้างเสาที่ตอกตรึงฝ่ามือเขาต้นนั้นไป

ในอากาศทิ้งกลิ่นหอมของบุปผาจางๆ ไว้ระยะหนึ่ง

‘อาเจี่ย พวกเขาน่าสงสารเกินไปแล้ว ท่านช่วยพวกเขาสักหน่อยเถิด’

ฉับพลันนั้นก็มีเสียงเด็กหญิงจากในรถเทียมวัวลอยมาตามสายลม ดังเข้ามาในหูเด็กหนุ่ม

เสียงนั่นคล้ายลูกนกขมิ้นที่เพิ่งหัดขับขาน เป็นเสียงไพเราะจับใจที่สุดที่เขาเคยได้ยินมาในชีวิต

‘เราแค่เดินทางผ่านมา ยังคงอย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นให้มากจะดีกว่า…’

เสียงเด็กสาวอีกคนที่ฟังดูอายุมากกว่าดังตามมา

‘แต่อาเจี่ย เขาดูไม่เหมือนคนเลว ช่างน่าสงสารยิ่งนัก’

‘เจ้าก็ใจอ่อนเสียจริง ฟังอาเจี่ยนะ นี่ไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าได้ไปยุ่ง…’

เด็กหญิงคล้ายทอดถอนใจออกมาคำหนึ่ง เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและอับจนปัญญา

เด็กหนุ่มแข็งใจเงยหน้าขึ้น มองรถเทียมวัวที่เพิ่งวิ่งผ่านไปข้างหน้าคันนั้น

มุมหนึ่งของหน้าต่างด้านข้างประตูรถปรากฏดวงหน้าครึ่งหนึ่งของเด็กหญิงที่กำลังมองย้อนกลับมาพอดี

นางดูอายุราวหกเจ็ดขวบ สวมชุดสีเหลืองอ่อน ผิวพรรณขาวดุจหิมะ มีเส้นผมดำขลับ ดวงตากลมโตคู่หนึ่ง หน้าตานางงดงามยิ่ง ประดุจตุ๊กตาหิมะหยกตัวหนึ่ง

สายตาของนางในยามนี้มองจ้องมาที่ตน ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นอกเห็นใจ

เพียงชั่วแวบเดียวผ้าม่านผืนหนึ่งก็ถูกปล่อยลงมา ใบหน้าของเด็กหญิงหายไปจากด้านหลังหน้าต่าง

‘อาหมี ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟัง ข้าก็จะบอกอาหญิง ครั้งหน้าจะไม่พาเจ้าออกมาอีกแล้ว’

รถเทียมวัวค่อยๆ วิ่งไปไกล

‘ขอร้องพวกเจ้าแล้ว ปล่อยบุตรชายข้าก่อนเถิด ขืนยังไม่ปล่อยเขา เขาอาจจะตายได้…เงินที่เขาติดค้างพวกเจ้า ข้าต้องคิดหาวิธีใช้คืนแน่’

มารดายังอยู่ทางด้านนั้น หลั่งน้ำตาโขกศีรษะวิงวอนขอร้องเหล่าทาสเจ้าเล่ห์ ทั้งยังถูกหนึ่งในนั้นยกเท้าถีบไปที่ยอดอก นางล้มลงกับพื้น

‘เจ้าจะเอาอะไรมาชดใช้!’

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com