ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 3-บทที่ 4 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา บทที่ 3-บทที่ 4

บทที่สี่

เมื่อครู่เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในค่ำคืนนี้ นางได้เห็นเขายิ้มให้ตนอีกครั้ง

ยากจะจินตนาการได้ว่าต้าซือหม่าหลี่มู่ผู้มีอำนาจทั้งในราชสำนักและในหมู่ราษฎร ยามอยู่ในเรือนกับภรรยาจะเป็นคนอ่อนโยนละมุนละไมถึงเพียงนี้

นางถูกทำให้ตกใจจนตะลึงงันแล้ว และยิ่งตื่นตระหนกไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่ก่อนรอยยิ้มของเขากับแววตาที่มองมายังทำให้นางรู้สึกร้อนลวกที่หูอยู่แท้ๆ เพิ่งผ่านไปชั่วพริบตาเดียว เพราะเหตุใดจึงเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นเพียงนี้ กระทั่งทำให้นางรู้สึกหวาดกลัว

เกาลั่วเสินมองใบหน้าซีดขาวที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของหลี่มู่อย่างงุนงง ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ควรตอบอย่างไรดี

‘หลางจวิน…ท่านเป็นอะไรไป…ไม่สบายที่ตรงใดหรือ’

นางลังเลอยู่ชั่วขณะ ลองยื่นมือไปหาเขา แต่กลับถูกเขาปัดออก

นางยังไม่ทันตั้งสติได้ก็เห็นเขากระโดดลงจากเตียง คลุมเสื้อเปิดหน้าอก เดินเท้าเปล่าก้าวยาวๆ ไปยังชั้นวางอาวุธที่หน้าประตู ฝีเท้ากลับดูลอยๆ คล้ายคนเมาสุรา

ทว่าเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวหลี่มู่ก็พลันนึกขึ้นมาได้

คืนนี้เป็นคืนมงคลสมรส อาวุธถือเป็นสิ่งอัปมงคล ชั้นวางนั่นถูกยกออกไปแล้ว

‘ใครอยู่ข้างนอก เข้ามา!’

เขาร้องเสียงเฉียบขาดออกไปทางด้านนอก ร่างพลันโงนเงนหัวไหล่เอียงวูบแล้วล้มทับไปบนโต๊ะเตี้ยที่อยู่ด้านข้าง

จอกสุราและป้านสุราบนโต๊ะเตี้ยพากันร่วงหล่นลงกับพื้น เสียงแตกกระจายดังลั่น

ในที่สุดเกาลั่วเสินก็ตระหนักถึงสถานการณ์ที่ผิดปกติ นางรีบคลุมเสื้อลงจากเตียง ไล่ตามมาคว้าแขนเขาพร้อมประคองไว้

‘หลางจวิน ท่านเป็นอะไรไป’

เขาไม่ได้ตอบ แต่แผดเสียงคำรามออกไปทางด้านนอก ‘เข้ามา!’ จากนั้นก็ผลักนางออกอีกครั้ง ล้มลุกคลุกคลานไปทางด้านนอกประตู

ทว่ายังไปไม่ถึงหน้าประตูคนก็หัวทิ่มล้มลงกับพื้น

มีเสียงฝีเท้าสับสนดังขึ้นที่ด้านนอกประตู

ประตูถูกคนผลักเข้ามาอย่างรีบร้อน หญิงรับใช้ค่อนข้างมีอายุคนหนึ่งของจวนสกุลหลี่ที่ก่อนหน้าถูกส่งตัวมาปรนนิบัติเกาลั่วเสินวิ่งเข้ามา สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว

‘ต้าซือหม่า แย่แล้ว!’

นางยังไม่ทันได้พูดจบก็กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนาคำหนึ่ง กระบี่คมกริบเล่มหนึ่งแทงทะลุแผ่นหลังออกมาที่หน้าอกของนาง คนล้มลงอยู่บนธรณีประตู

ตั้งแต่เล็กจนโตเกาลั่วเสินไหนเลยจะเคยเห็นภาพเช่นนี้ นางกรีดร้องออกมาคำหนึ่ง

ใบหน้าของหลี่มู่แนบพื้น สองตาปิดแน่น สีหน้าเจ็บปวดทรมาน เหงื่อเม็ดโตเท่าเมล็ดถั่วไหลลงมาจากหน้าผากของเขา โลหิตสดสีแดงอมดำสายหนึ่งไหลซึมออกมาจากมุมปากของเขาช้าๆ

เกาลั่วเสินตะลึงงันไปแล้ว

ในเวลานี้เองทหารในชุดเกราะกลุ่มหนึ่งก็กรูเข้ามาจากด้านนอกประตู ในมือของแต่ละนายถือกระบี่ถือดาบที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต พริบตาเดียวก็โอบล้อมหลี่มู่ไว้ตรงกลาง

เทียนมงคลวูบไหว แสงเทียนส่องสว่างดาบกระบี่และเสื้อเกราะบนร่างของทหาร แสงสีแดงฉานอันเย็นเยือกสาดประกายระยิบระยับ

ในที่สุดเกาลั่วเสินก็ได้สติกลับคืนมา

‘พวกเจ้าเป็นคนของผู้ใด คิดจะทำอะไร!’ นางที่ตื่นตระหนกและเดือดดาลยิ่งตวาดเสียงเฉียบขาด ขณะกำลังจะวิ่งไปหาหลี่มู่ก็เห็นบุรุษสองคนเดินเข้าประตูมา

‘อาเส่า! ท่านไม่ต้องกลัว!’

บุรุษหนุ่มใบหน้างามดุจหยกในมือถือกระบี่ยาวผู้นั้นวิ่งมาที่ข้างกายเกาลั่วเสินอย่างรวดเร็ว จับแขนนางไว้ ก่อนออกแรงดึงนางไปจากข้างกายหลี่มู่ที่ฟุบอยู่กับพื้น

คนผู้นี้ก็คืออดีตน้องสามีของนาง ลู่ฮ่วนจือน้องชายของลู่เจี่ยนจือ

ตอนลู่เจี่ยนจือยังมีชีวิตอยู่ ลู่ฮ่วนจือเลื่อมใสศรัทธาพี่ชายคนโตผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง รักเขาก็รักคนของเขาด้วย กับเกาลั่วเสินเขาก็ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก หลังจากลู่เจี่ยนจือโชคร้ายตายจากการยกทัพไปปราบปรามซีสู่เมื่อเจ็ดปีก่อน เกาลั่วเสินก็ใช้ชีวิตในฐานะแม่ม่ายมาโดยตลอด ลู่ฮ่วนจือก็เรียกนาง ‘อาเส่า’ ไม่ได้เปลี่ยนคำเรียกหามาโดยตลอด

บุรุษวัยฉกรรจ์อีกคนก็คือซินอันหวังเซียวเต้าเฉิงผู้เป็นเชื้อพระวงศ์

ก่อนไท่คังฮ่องเต้จะสวรรคตในระหว่างทางหลบหนีภัย เขากับหลี่มู่ต่างถูกกำหนดให้ช่วยดูแลงานราชกิจของแผ่นดินร่วมกัน หลังจากหลี่มู่กุมอำนาจการบริหาร เซียวเต้าเฉิงถูกบีบให้ต้องคล้อยตาม คืนนี้หลี่มู่แต่งงานกับเกาลั่วเสิน เซียวเต้าเฉิงย่อมนั่งในตำแหน่งแขกผู้มีเกียรติ

ทันทีที่เห็นลู่ฮ่วนจือกับเซียวเต้าเฉิง เพียงเวลาชั่วประกายไฟแลบเกาลั่วเสินก็เข้าใจเรื่องราวทุกอย่างในทันที

ยี่สิบกว่าปีมานี้นางมีบิดา พี่ชาย และคนในครอบครัวคอยปกป้องคุ้มครองอย่างดียิ่ง

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางไม่รู้อะไรเลย

ที่แท้เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการที่อาเจี่ย เชื้อพระวงศ์ และสกุลลู่วางไว้ทั้งสิ้น

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com