เมื่อคำสั่งชมเชยและปูนบำเหน็จออกมา ทหารสามร้อยนายที่อยู่ในสังกัดหลี่มู่ต่างส่งเสียงโวยวาย ทหารอื่นๆ ที่เหลือก็พากันวิพากษ์วิจารณ์เห็นว่าไม่ยุติธรรม
เสินจ่างหลายคนที่ใจกล้าจะไปหาหยางเซวียนเพื่อต่อว่าต่อขาน กลับถูกหลี่มู่ยับยั้งไว้ ทุกคนเห็นตัวเขาเองไม่ใส่ใจถึงได้ล้มเลิก แต่ความรู้สึกไม่ยุติธรรมในใจยังคงไม่จางหายไป คืนนี้จึงยังคงใช้คำว่า ‘กองนอก’ ซึ่งเป็นตำแหน่งเก่ามาเรียกหาเขาอยู่ เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก
หลี่มู่ใบหน้าเจือรอยยิ้ม ผู้ใดมาก็ไม่ปฏิเสธ ร่วมดื่มกับทหารที่ชิงกันมาคารวะสุราตนจอกแล้วจอกเล่า
“ถ้าภายหน้าท่านนั่งรถ ข้าสวมงอบ วันใดบังเอิญพบกันท่านจะลงจากรถมาทักทายข้ากระมัง”
“ถ้าภายหน้าท่านถือร่มกระดาษ ส่วนข้าขี่ม้าตัวสูงใหญ่ วันใดบังเอิญพบกันข้าก็จะลงมาทักทายท่าน”
“อย่าเห็นว่าเด็กหนุ่มตามถนนหนทางยากจน คนที่มีความสามารถเมื่อสบโอกาสเหมาะอาจกลายเป็นมังกรโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้า!”
ไม่รู้ใครเป็นคนเริ่มต้น ไม่นานบริเวณรอบๆ ก็เริ่มมีคนเอาสันดาบเคาะกันเป็นจังหวะจะโคน ขับร้องเพลงพื้นเมืองที่มีที่มาจากดินแดนแคว้นเยวี่ยโบราณเพลงนี้ขึ้นมา
ผู้เข้าร่วมยิ่งนานยิ่งมากขึ้น…มากขึ้น เสียงเพลงกับเสียงเคาะดาบทำให้ผู้คนเลือดลมพลุ่งพล่าน คลื่นที่โหมซัดสาดขยายวงกว้างออกไป อารมณ์ฮึกเหิมเร่าร้อนแผ่กระจายตามสายลมยามราตรีไปทั่วค่ายทหาร เป็นเหตุให้นายทหารจากตระกูลขุนนางที่จับกลุ่มกันดื่มสุราอยู่ในที่ห่างออกไปกลุ่มนั้นอดหัวเราะเยาะไม่ได้
ท่ามกลางเสียงเพลง หลี่มู่นั่งตามลำพังอยู่ข้างกองไฟ รินสุราดื่มเองเงียบๆ สีหน้าสงบนิ่ง
ทันใดนั้นเสียงเพลงที่อยู่รอบด้านค่อยๆ เบาลง สุดท้ายก็เงียบไปในที่สุด
หลี่มู่หันหน้ามาอย่างไม่กระตือรือร้น เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งมือข้างหนึ่งถือป้านสุรา มือข้างหนึ่งถือจอก กำลังเดินตรงมาที่ตนทำให้ทหารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงพากันชำเลืองมอง มีสายตาจำนวนนับไม่ถ้วนมองตามมา
เกาหวนในใจรู้ดี ในกองทัพคนหนุ่มบุตรหลานตระกูลขุนนางที่พอมาถึงอย่างน้อยก็ต้องได้ตำแหน่งซือหม่าโดยไม่ต้องมีผลงานอย่างตนไม่เป็นที่ต้อนรับของทหารทั่วไปอย่างมาก
ทหารชั้นผู้น้อยเหล่านั้น ภายนอกไม่กล้าแสดงท่าทีอะไร แต่ลับหลังก็เดียดฉันท์พวกตนอย่างมาก
เกาหวนอิจฉาท่านลุงของตนเป็นอย่างยิ่ง แม้มีชาติกำเนิดในตระกูลขุนนางอันดับหนึ่งของต้าอวี๋ แต่ตอนนำทัพในปีนั้นกลับได้รับการยอมรับ ได้กำลังใจจากผู้ใต้บังคับบัญชาและทหารชั้นผู้น้อยอย่างมาก ยิ่งให้การสนับสนุนเขาอย่างที่สุด ถ้าเป็นคำสั่งของเขาก็ไม่มีที่ไม่ปฏิบัติตาม
กล่าวกันว่าการยกทัพไปปราบปรามทางเหนือครั้งสุดท้ายของเขา ด้วยสถานการณ์บีบคั้นทำให้อับจนปัญญาต้องยกทัพกลับแต่กลางคัน กองทัพใหญ่สิบหมื่นนายต้องข้ามแม่น้ำฉางเจียงกลับมา เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงหญ้ากกเฉาเหลือง ท่านลุงยืนอยู่ริมฝั่งทางเหนือ เนิ่นนานไม่ยอมขึ้นเรือ ตอนหันหน้ากลับไปมองน้ำตาไหลพราก นายทหารผู้น้อยที่อยู่ด้านหลังไม่มีใครไม่หลั่งน้ำตาไปด้วย พากันคุกเข่าลงสาบานว่าวันหน้าถ้าเขาจะระดมกำลังทหารไปปราบปรามทางเหนืออีก ยังคงยินดีจะเป็นทหารในบังคับบัญชาของเขา
ตอนนั้นเกาหวนยังไม่เกิด ภาพที่เต็มไปด้วยความเศร้าอาดูรคลุกเคล้าไปด้วยความฮึกเหิมเร่าร้อนฉากนั้น เขาย่อมไม่มีวาสนาจะได้เห็น แต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความใฝ่ฝันของเขา
หลังจากมาถึงที่นี่เกาหวนก็เคยคิดจะเข้ามาใกล้ชิดกับเหล่าทหารชั้นผู้น้อย แต่ติดขัดที่ความเคยชินมานานปีและสายตาของคนรอบข้าง จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าละทิ้งท่วงทีที่บุตรหลานตระกูลขุนนางพึงมีของตนลง
แต่หลี่มู่กลับแตกต่างไป
วันนั้นเกาหวนถูกมัดอยู่ที่แนวหน้า ขณะที่เขากำลังกดข่มความหวาดกลัวในใจ ตั้งใจแน่วแน่จะไม่เอ่ยปากขอความเมตตาเพื่อรักษาชีวิตรอด ยอมให้ร่างกับศีรษะแยกจากกัน ไม่อาจให้ชื่อเสียงสกุลเกาต้องเสื่อมเสียเพราะตนอยู่นั้น เขาก็ถูกหลี่มู่ใช้วิธีที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดฝันมาก่อนช่วยออกมาได้
นับว่าเขามีชีวิตรอดมาได้ท่ามกลางความสิ้นหวัง!
ในชั่วเวลานั้นเองซือหม่ากองนอกที่ถืออาวุธควบม้า เสื้อเกราะเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตสด ทั่วร่างเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารและความกระหายเลือด และสังหารข้าศึกนับร้อยนับพันที่พุ่งเข้าใส่ ได้กลายเป็นบุคคลผู้หนึ่งที่เทียบเคียงได้กับท่านลุงที่อยู่ในใจของเขา
แม้คนผู้นี้จะมีชาติกำเนิดเป็นสามัญชน ฐานะห่างไกลเทียบกับตนไม่ได้แม้แต่น้อยก็ตาม
ภายใต้สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนที่มองจ้องมา เกาหวนก็เดินมาถึงเบื้องหน้าหลี่มู่ เขารินสุราลงจอก สองมือประคองส่งให้ กล่าวอย่างนอบน้อม “หลี่ซือหม่า บุญคุณที่ช่วยชีวิต ชั่วชีวิตนี้ข้าไม่มีวันลืม! เชิญดื่มสุราจอกนี้”
เขาพูดจบก็มองบุรุษที่อยู่ตรงหน้า ในใจรู้สึกกังวลเล็กน้อย
หลังจากที่เขาถูกช่วยมา หลายวันมานี้ด้วยความซาบซึ้งใจ และที่มากกว่านั้นคือความเลื่อมใสศรัทธา เขาจึงพยายามจะเข้ามาใกล้ชิดทำความรู้จักนายทหารหนุ่มผู้นี้มาโดยตลอด
เขามีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าหลี่มู่ดูไม่เหมือนนายทหารสามัญชนนายอื่นๆ พวกนั้นที่มาจากครอบครัวต่ำต้อยและได้รับการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งจากการสั่งสมความดีความชอบทางการทหาร ซึ่งมีความคิดดูถูกเขาอยู่ในใจ