ทดลองอ่าน นวลหยกงาม เล่ม 10 บทที่ 1 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นวลหยกงาม เล่ม 10 บทที่ 1

ตอนอี๋อวี้กลับถึงตำบลหลงเฉวียน เวลาอาหารกลางวันเพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน

พวกหลูซื่อกินข้าวกันแล้ว นางกับโจวฮูหยินและหานลี่สามคนนั่งรับแดดอยู่ในลานเล็กของเรือนใหญ่ ส่วนหานสืออวี้ไปที่ใดอีกก็สุดรู้

“กลับมาเร็วปานนี้ กินอาหารแล้วหรือยัง”

เมื่อวานหลูซื่อได้ยินเรื่องหลี่ไท่เป็นผู้ตัดสินการประชันศาสตร์ห้าสำนักจากบุตรสาว ตอนแรกนึกว่าอย่างไรนางก็ต้องกลับมาตอนบ่าย

“ยังเจ้าค่ะ” อี๋อวี้รับม้านั่งทรงจันทร์เสี้ยวหุ้มผ้าสีน้ำเงินที่ผิงฮุ่ยยื่นให้แล้วนั่งลงข้างโต๊ะหิน โจวฮูหยินกับหานลี่อยู่คนละด้านของโต๊ะเดินหมากกันอยู่ ฝีมือของทั้งสองสูสีคู่คี่กัน ด้านหลูซื่อนั่งเย็บเครื่องรางจากผ้าไหมสีแดงอยู่อีกฝั่งหนึ่งได้ยินว่าบุตรสาวยังไม่ได้กินข้าว จึงเอาเข็มเสียบกับจอนผมแล้วเรียกให้เฉินชวีไปเรือนครัวยกของกินออกมา ผิงถงซึ่งเป็นลูกมือของหลูซื่ออยู่ได้ยินคำนี้ก็วางของในมือลงแล้วติดตามไป

“แม่มีข่าวดีจะบอก” หลูซื่อแย้มยิ้มจนรอยตีนกาขึ้น “พวกท่านป้าของเจ้าขนเครื่องเรือนจากเจียงหนานมาถึงกลางทางแล้ว อีกราวสิบวันเศษก็จะมาถึง”

คนของหานลี่เดินทางได้ว่องไว เขาพบกับคนที่มาจากหยางโจวบนถนนหลวงสู่ทิศใต้และส่งข่าวกลับมา ประหนึ่งดั่งโอสถบำรุงใจให้หลูซื่อที่เป็นห่วงว่าสินเจ้าสาวของบุตรสาวจะไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้

ทีแรกอี๋อวี้ดีอกดีใจ ต่อมาก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

หานลี่วางเม็ดหมากดำแล้วรอโจวฮูหยินเดินหมากอยู่ ได้ยินหลูซื่อถามว่านางเป็นอะไรก็ชายตาไปเห็นอี๋อวี้ส่ายหน้าไม่พูดจา เขาเขี่ยเม็ดหมากในโถเล่นๆ พลางกล่าว “นี่คงเสียดายเงินมัดจำหนึ่งพันตำลึงนั่นน่ะสิ”

อี๋อวี้ถูกเขาพูดแทงใจดำ จึงทำเสียงในลำคอเป็นเชิงยอมรับ

หลูซื่อกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เงินก้อนโตกว่านี้ก็ทุ่มลงไปแล้ว แค่นี้จะสักเท่าไรเชียว ถึงอย่างไรกันไว้ดีกว่าแก้”

หานลี่หยิบหมากตายออกพร้อมกับใคร่ครวญสถานการณ์บนกระดานหมาก “คิดละเอียดถ้วนถี่มิใช่เรื่องผิด แต่เจ้าจะแต่งเข้าวังเว่ยอ๋อง อย่าให้ความสำคัญกับพวกเงินเล็กๆ น้อยๆ จนเกินไป หาไม่แล้ววันหน้าเจ้าจะโดนข่มเหงรังแกเอาได้นะ”

โจวฮูหยินวางเม็ดหมากก่อนยื่นมือไปตรงมวยผมของอี๋อวี้จับปิ่นไม้ไผ่เขียวที่เอียงอยู่ให้เข้าที่ สายตาของหญิงชรายังคงทนเห็นข้อบกพร่องไม่ได้สักนิด “มีเวลาก็รับฟังคำผู้อาวุโสให้มากๆ ไม่ผิดแน่”

ครั้งหนึ่งหานลี่เคยเป็นคุณชายตระกูลใหญ่โตมีหน้ามีตาเช่นกัน ขณะที่หลูซื่อนั้นอย่างน้อยๆ ก็เคยดูแลงานบ้านงานเรือนของสกุลฝาง ทั้งคู่จึงแจ่มแจ้งความเป็นไปและเรื่องซุกใต้พรมในครอบครัวสูงศักดิ์เหล่านี้ดี บางครั้งก็ต้องทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่ง อี๋อวี้ซึ่งเคยได้ยินได้ฟังมารดาเอ่ยถึงบ้างพยักหน้ากับโจวฮูหยินเป็นเชิงบอกว่าตนเองฟังเข้าหูแล้ว

ยามนั้นเองเฉินชวีกลับมาพร้อมกับบ่าวสองคน ตั้งโต๊ะเตี้ยสี่ขาซ้อนบนโต๊ะหิน และวางกับข้าวร้อนกรุ่นสองอย่างกับข้าวสวยชามหนึ่ง

ยามเที่ยงร้อนอบอ้าว อี๋อวี้กินไม่ค่อยลง พุ้ยข้าวเข้าปากเพียงสองคำก็วางชามลง พอดีผิงถงยกไหดินเผาใบเล็กๆ เข้ามา นางรับมาเปิดออกดูข้างในแล้วประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็กลั้นยิ้มไม่อยู่ด้วยความชอบอกชอบใจ ก่อนจะหันไปกล่าว “ส่งมาเมื่อเช้าหรือ”

สิ่งที่ใส่อยู่ในไหใบนี้มิใช่อื่นใด เป็นผลอิงเถาแดงลูกอวบๆ ผิวเรียบเต่งตึง ปลิดก้านทิ้งแล้วแช่ในน้ำผึ้งชุ่มฉ่ำเป็นมันวาวชวนให้น้ำลายสอทันใด ส่วนว่าผู้ใดเป็นคนส่งมาให้ อี๋อวี้ไม่ต้องคิดไปถึงใครที่ไหนอีก ในการแข่งตีคลีวันนั้นก็พูดว่าหยางเฟยมอบส่วนที่เหลืออยู่สุดท้ายให้เฉิงหยางไปแล้ว ไม่รู้ว่าหลี่ไท่ไปเอาอิงเถาสดใหม่นี้มาจากที่ใด

“เช้าวันนี้ตอนท่านเพิ่งออกไปเจ้าค่ะ” ผิงถงแย้มยิ้มดุจเดียวกัน นางเอาช้อนเงินด้ามยาวตักให้อีกฝ่ายกิน “บ่าวเห็นว่าอากาศร้อนอย่างนี้ คุณหนูคงไม่อยากอาหาร เลยเอามันแช่เย็นในบ่อน้ำ ยังใส่น้ำผึ้งแบบเดียวกับที่ท่านเชื่อมผลเฉ่าเหมยด้วย จะได้กินให้ชุ่มคอชื่นใจเจ้าค่ะ”

อี๋อวี้เห็นของโปรดแล้วจะไม่อารมณ์ดีได้เช่นไร นางกินผลไม้สีแดงลูกเล็กๆ อย่างเอร็ดอร่อย ความขุ่นมัวในจิตใจจากการถูกจ่างซุนซีราวีที่หอจวินจื่อตอนเช้าก็สลายหายวับไป มาตรว่าหนนี้ต้นเหตุจะมาจากความเจ้าเสน่ห์ของหลี่ไท่ แต่นางอดพึงพอใจในตัวเขาเพิ่มขึ้นไม่ได้

“ไม่เลว ยังเป็นเจ้าที่ช่างเอาใจใส่นัก” พอในใจหญิงสาวเบิกบาน ปากก็กล่าวชมผิงถงสองคำโดยไม่รีรอ นางมิได้สังเกตเห็นว่าเฉินชวีซึ่งอยู่ด้านข้างเก็บอาหารที่นางกินเหลือถึงครึ่งชามด้วยหน้าตาซีดเผือดลง

“ท่านยาย ข้าป้อนให้ท่านชิมนะเจ้าคะ” อี๋อวี้บอกให้ผิงถงหยิบช้อนคันใหม่มาให้ ก่อนจะตักลูกหนึ่งยื่นไปจ่อริมฝีปากโจวฮูหยิน

“เอาเถอะ ผลโคมแดงนี้ให้พวกเจ้าเด็กสาวกินกันก็พอ รสมันหวานเหลือใจ ยายเฒ่าอย่างข้าฟันฟางไม่ดี ไม่ตะกละล่ะ” โจวฮูหยินชิมคำหนึ่งแล้วไม่ยอมกินอีก

อี๋อวี้เคยชินกับความรอบรู้ของโจวฮูหยิน จึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายรู้จักผลไม้บรรณาการจากแดนสู่จงนี้ นางถือไหไปคะยั้นคะยอป้อนให้มารดากิน หลูซื่อรู้ว่ามันเป็นของที่หลี่ไท่ให้คนส่งมา เห็นบุตรสาวดีใจก็กินสองคำพอเป็นพิธีแล้วไต่ถามเรื่องการแข่งขันในรอบเช้าครู่หนึ่ง ก่อนจะอ้างว่าแดดแรง ไล่ให้นางกลับไปชำระกายนอนพักก่อน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com