หลี่ไท่ส่งนางกลับถึงวังอ๋องก็ออกไปอย่างเร่งรีบ พวกสาวใช้ปรนนิบัติอี๋อวี้ชำระกายสางผมเสร็จ นางนอนหลับไปตื่นหนึ่ง ท้องฟ้าก็มืดสลัวลงทีละน้อย ยาสองเทียบต้มเสร็จแล้วส่งเข้ามาอยู่ตรงหน้า นางรับชามในมือผิงถงมาดื่ม ส่วนชามของผิงฮุ่ยถูกยกออกไป
กว่าชายหนุ่มจะกลับมาก็ย่ำค่ำแล้ว เขาเรียกตัวหมอหลวงหลี่มาไต่ถามอาการป่วยของอี๋อวี้ จากนั้นกินอาหารเย็นกับนางในห้องนอน บนโต๊ะตัวเล็กยาวสองฉื่อสำหรับตั้งกับเตียง นอกจากโจ๊กเหลว ยังมีอาหารมังสวิรัติหลายอย่าง อี๋อวี้ชิมดูแล้วรสชาติเหมือนกับที่วัดเทียนเฮ่อ นางเหลือบตาไปมองบนโต๊ะของหลี่ไท่ไกลออกไป เห็นว่าเป็นอาหารรสอ่อนแบบเดียวกัน ไม่เห็นของคาว พอคีบกับข้าวเข้าปากอีกครั้ง ไม่ว่ารสอะไรล้วนคล้ายหวานล้ำดุจน้ำผึ้ง เสียงหัวเราะก็เล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
หลี่ไท่ได้ยินแล้วเงยหน้าชายตามองนาง ตะเกียบในมือกำลังคีบถั่วงอกเส้นหนึ่งเข้าปาก นัยน์ตาแฝงรอยฉงน ไม่รู้ว่านางดีใจอะไรอีก
วันถัดมาเพิ่งฟ้าสาง อี๋อวี้ตื่นเช้ามา ผิงถงก็ประคองนางให้ลุกขึ้นดื่มยาต้มแล้วนอนหลับไปอีกครึ่งชั่วยาม ค่อยปรนนิบัตินางล้างหน้าบ้วนปาก หลังถามไถ่ว่าหลี่ไท่ไปไหน นางให้สองสาวใช้ช่วยผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ และไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์สวนดอกไม้หน้าเรือน
พอตื่นนอนหนนี้ อี๋อวี้รับรู้ได้ว่าไม่เหมือนเดิม แม้ว่าแข้งขายังอ่อนแรง แต่ฝ่ามือมีกำลังจับพู่กันได้แล้ว อาการอ่อนเปลี้ยก่อนหน้านี้ดีขึ้นอย่างชัดเจน นางตริตรองทบทวนดู ไม่รู้ว่าสมควรโมโหหรือขบขันดี ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดวันยังค่ำ เหยาฮ่วงผสมบางอย่างในยา แต่นางจับพิรุธไม่ได้เลย ดูทีว่าเขาต้องการให้นางอยู่บนเขานั่นหลายๆ วัน
ตอนเช้าหมอหลวงหลี่มาตรวจอาการนางอีกรอบ เขาเขียนใบสั่งยาบำรุงขนานหนึ่ง อี๋อวี้ขอมาดูแล้วรอเขากลับไป ค่อยให้ผิงถงหยิบพู่กันกับหมึกมาขีดฆ่าออกสองสามอย่าง และเขียนเพิ่มอีกสองชนิด นางสั่งกำชับผิงถงให้เตรียมสมุนไพรไปห้องครัวต้มกับโจ๊กเป็นอาหารบำรุง
หากเป็นตามปกติ นางจะไม่กระทำเรื่อง ‘หน้าไหว้หลังหลอก’ อย่างไม่ให้ความเคารพต่อหมอหลวงเช่นนี้เป็นอันขาด แต่งานเสกสมรสใกล้เข้ามาแล้ว นางไม่อาจไม่คิดอ่านวางแผนให้ตนเอง พักรักษาตัวให้หายดีโดยเร็วที่สุด จะได้ไม่แต่งเข้าวังอ๋องในสภาพป่วยอ่อนแอ ต่อให้หลี่ไท่ไม่ถือสา นางก็ไม่อยากให้ช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตสตรีเป็นไปอย่างสุกเอาเผากิน
คันฉ่องสำริดบานหนึ่งข้างหน้าต่างส่องสะท้านเงาตามจริงได้เพียงเจ็ดส่วน อี๋อวี้นั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งให้ผิงฮุ่ยสางผม เอาน้ำปรุงดอกไม้ของบรรณาการทางแดนใต้ทาหลังฝ่ามือ นางมองเงาร่างแบบบางในนั้นแล้วมุ่นคิ้วเอ่ยถาม
“ผิงฮุ่ย ข้าซูบลงมากใช่หรือไม่”
“แต่เดิมท่านก็ไม่เจ้าเนื้อ พอล้มป่วยไปเลยผอมลงไม่น้อยจริงๆ เจ้าค่ะ”
“อย่างนั้นหรือ” ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดนางหวนประหวัดถึงครั้งนั้นหลี่ไท่เคยบอกว่าเขาชมชอบสตรีอวบอิ่ม อี๋อวี้ถลกแขนเสื้อขึ้นจับๆ แขน อาจพูดไม่ได้ว่าหนังหุ้มกระดูก แต่ไม่เข้าข่ายอวบอิ่มเด็ดขาด หญิงสาวอดห่อเหี่ยวใจไม่ได้ นางปล่อยแขนเสื้อลงดังเก่า นิ่งคิดแล้วกล่าว
“ไม่ได้กินของมันๆ มาหลายวัน เจ้าไปบอกให้คนตุ๋นไก่มาให้กินที”