Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน
ทดลองอ่าน Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน บทที่ 3
ยองซออยากจะร้องไห้
“ว่าแต่คุณมีเรื่องอะไรคะ เราคุยกันจบไปแล้วตั้งแต่คราวก่อนไม่ใช่เหรอคะ”
ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นชินฮารีเพื่อนฉันน่ะค่ะ
ยองซอกล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้และเม้มริมฝีปาก
“ครับ ผมทราบดีครับว่าคุยกันจบไปแล้ว…”
ซองฮุนถามอย่างระมัดระวัง
“ถ้าพอมีเวลา ช่วยไปกับผมสักครู่ได้ไหมครับ”
ตายแล้ว มารยาทดีอีกต่างหาก มารยาทของซองฮุนทำให้หัวใจของยองซอเต้นโครมคราม ไม่เหมือนที่ได้ยินจากฮารีเลย ฮารีพูดเหมือนประธานบริษัทของตัวเองเป็นคนโรคจิต แต่ในสายตาของยองซอ เขาดูเป็นสุภาพบุรุษมากๆ
“เวลาน่ะพอมีค่ะ แต่ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“พอดีว่าอยากจะคุยเรื่องที่คุยกันเมื่อคราวก่อน…”
“เรื่องคราวก่อนเหรอคะ”
“เรื่องแต่งงานน่ะครับ”
“อ๋อ เรื่องแต่งงานนี่เอง”
ใช่ มีการพูดคุยเรื่องนั้นกันแล้ว แต่ยองซอเป็นคนบอกให้ฮารีไปล้มกระดานด้วยการบอกว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้แต่หน้าตา เพราะฉะนั้นต่อให้ผู้ชายคนนี้มาหาเธอด้วยตัวเองแบบนี้ เธอก็ต้องบอกไปว่าไม่ได้ เมื่อคิดถึงความยากลำบากที่ได้ฟังจากฮารีแล้ว เธอควรต้องบอกไปว่าไม่ แต่เธอกลับพยักหน้าให้เขาไปเรียบร้อยแล้ว การปฏิเสธผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซองฮุนก้มหน้าให้เธอแทนคำขอบคุณ
“งั้นผมขอพาคุณไปที่รถนะครับ”
ขณะที่ซองฮุนกำลังจะเปิดประตูหลังของรถ ยองซอก็ขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว ซองฮุนมองไปรอบๆ เพื่อหาเธอ จากนั้นก็ก้มลงเล็กน้อยและมองไปทางที่นั่งข้างคนขับ ไม่ทันไรยองซอก็คาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จเรียบร้อยและกำลังยกมือขึ้นมาทาบอกพร้อมสูดหายใจเข้าลึกๆ
น่ารักจัง
ซองฮุนยิ้มบางๆ แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับจะลบสิ่งที่คิดเมื่อครู่นี้ออกไป ทันทีที่ขึ้นรถ ทั้งสองก็สบตากัน ยองซอยิ้มอย่างเขินอายแล้วหันหน้าไปทางอื่น
ได้ยินว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่แค่ค่อนข้างรักสนุก แต่เป็นผู้หญิงที่รักสนุกมาก
เมื่อนึกถึงคำพูดของแทมู ซองฮุนก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลงเสน่ห์เธอเข้าแล้ว เขาจึงลดกระจกลง
“ผมร้อนนิดหน่อยน่ะครับ”
เมื่อยองซอทำหน้าแปลกใจ เขาก็ยิ้มให้ ใบหน้าของเธอจึงร้อนผ่าวและเริ่มแดงขึ้นมา
“หรือคุณหนาวครับ”
“เปล่าค่ะ ฉันก็ร้อนเหมือนกันค่ะ”
ยองซอเองก็ลดกระจกลงเช่นกัน
“ถ้างั้นเราไปกันเลยนะครับ”
“ค่ะ ว่าแต่เราจะไปคุยกันที่ไหน…”
“ไปที่บริษัทครับ”
“อ๋อ ที่บริษัท…”
ยองซอคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปมองเขา
“ว่าแต่คุณไม่หิวเหรอคะ”
“แล้วไง”
แทมูมองซองฮุนอย่างไม่ละสายตา ซองฮุนใช้มือแตะหน้าผากราวกับมีเหงื่อออก
“ขึ้นรถมาง่ายๆ เลยเหรอ”
“ครับ ดูท่าทางเหมือนยินดีด้วยนะครับ”
ยินดีงั้นเหรอ ทั้งที่ปฏิเสธฉันแบบนั้นเนี่ยนะ
แทมูหรี่ตามอง
“แล้วทำไมถึงออกนอกเส้นทางล่ะ”
“เรื่องนั้นเป็นเพราะจู่ๆ คุณจินยองซอก็บอกว่าหิวมาก…”
“คุณก็เลยไปเดตกับผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วยงั้นเหรอ”
“เดตอะไรกันครับ ไม่ใช่นะครับ”
ซองฮุนปฏิเสธเสียงแข็ง
“ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมถึงออกนอกเส้นทางล่ะ ทั้งที่ผมบอกแล้วว่าให้พามาที่บริษัท”
“ก็อย่างที่ผมบอกไป เพราะเธอบอกว่าหิวมาก…”
“ก็เลยไปเดตกันงั้นเหรอ”
แทมูพูดคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา การที่เจ้านายผู้เกลียดการเสียเวลาถามคำถามเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก็แสดงว่าเขาคงจะชอบผู้หญิงคนนั้นมาก
ใบหน้าแบบที่ลบเครื่องสำอางออกของยองซอดูสวยทีเดียว ดวงตาสวยโฉบเฉี่ยว บุคลิกโดดเด่น และสดใสร่าเริง รู้สึกได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยมีเรื่องแปดเปื้อนมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว ซองฮุนรู้สึกผิดคาดมาก เพราะเธอไม่ได้แต่งหน้าประหลาดแบบในตอนนั้นที่ทำให้แทมูหลงรัก นั่นคือทั้งหมดที่เขาคิด เขาจะมอบหัวใจให้ผู้หญิงที่ผู้ชายคนอื่นหมายตาไว้ก่อนได้อย่างไร แถมเธอยังเป็นผู้หญิงของเจ้านายเขาอีกต่างหาก
“ไม่ใช่เดตนะครับ จู่ๆ คุณจินยองซอก็บอกว่าหิว และดูจากตารางของท่านประธานแล้ว ผมคิดว่าคงไม่มีเวลาทานมื้อเย็นด้วยกันได้ ก็เลยหาอะไรทานง่ายๆ…”
“กินรามยอน* มาเหรอ”
“ทะ…ท่านทราบได้ยังไงครับ”
แทมูมองซองฮุนไม่วางตา เห็นว่ายั่วยวนผู้ชายเก่ง แต่ไม่คิดเลยว่าจะยั่วยวนลูกน้องเขาแบบนี้ ถ้าถึงขนาดทำให้คนที่เหมือนจะนุ่มนวลแต่เถรตรงเป็นขวานผ่าซากอย่างซองฮุนหลงได้ล่ะก็ แสดงว่าคงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาๆ แน่
ต่อให้ไม่ชอบฉันขนาดไหน แต่ถ้ามาชอบลูกน้องฉันแบบนี้ก็แย่น่ะสิ
เมื่อเห็นแทมูขมวดคิ้วเล็กน้อย ซองฮุนก็เบิกตากว้าง
“ท่านคงไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหมครับ”
“เข้าใจผิดอะไร”
“ก็อย่างเช่น คิดไปถึงเรื่องที่พวกผู้หญิงชอบชวนเข้าไปกินรามยอนในบ้าน อะไรทำนองนั้น…”
“จะตอบว่าไม่ใช่งั้นเหรอ”
“ก็ต้องไม่ใช่น่ะสิครับ!”
ซองฮุนตะโกนออกมาเสียงดัง แต่เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเสียงดังเกินไปหน่อย เขาก็กระแอมออกมา
“แค่ทานรามยอนกับคิมบับ* ที่ร้านอาหารครับ”
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยงั้นเหรอ”
“แน่นอนครับ เธอเป็นผู้หญิงที่จะแต่งงานกับท่านประธานนี่ครับ”
“อืม”
หลังจากพยักหน้าและเงียบไปครู่หนึ่ง แทมูก็มองซองฮุนแล้วยกมุมปากข้างหนึ่ง
“ว่ากันว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุไม่ใช่เหรอ”
“ครับ ใช่…มั้งครับ แต่ท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไรเหรอครับ”
พอเห็นซองฮุนกำลังร้อนตัว แทมูก็จัดระเบียบความคิดของตัวเอง
ต่อให้พายองซอมาที่บริษัทได้ แต่การประชุมวางแผนก็ล่าช้าจนทำให้ไม่ได้เจอกันอยู่ดี บางทีการที่ซองฮุนไปกินข้าวกับยองซอและแยกย้ายกันไปแบบนั้น อาจเป็นเรื่องที่ถือว่าโชคดีก็ได้ เพราะในเมื่อเธอไม่ได้ถูกเบี้ยวนัดก็เท่ากับว่าเธอไม่ได้กลับไปอย่างอารมณ์เสีย ซึ่งหมายความว่ายังพอมีโอกาสที่จะได้พบกันอีก ถ้าเรียกเรื่องแบบนี้ว่าเป็นพรหมลิขิต มันก็คงเป็นพรหมลิขิตจริงๆ
แทมูลุกขึ้นจากที่นั่งและหยิบเสื้อคลุม
“นำไปเลย”
ดูเหมือนว่าการคลาดกันเมื่อวานนี้ทำให้เขาต้องไปเจอยองซอด้วยตัวเอง
จะออกไปโดยไม่ถามว่าตารางงานตอนนี้เป็นยังไงบ้างงั้นเหรอ คังแทมูเนี่ยนะ
ซองฮุนเบิกตากว้าง
“จะไปบริษัทแทรยุงเหรอครับ”
แทมูทำตาเป็นประกายเมื่อได้ยินซองฮุนถามแบบนั้น
“ไปแทรยุงทำไม”
“ก็ไปเจอคุณจินยองซอไงครับ”
แทมูหรี่ตามอง
“ไม่ใช่ว่าคุณอยากไปเจอเองหรอกเหรอ”
“พูดอะไรอย่างนั้นครับ! ไม่…ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ”
“งั้นทำไมจู่ๆ ก็พูดถึงจินยองซอขึ้นมาล่ะ”
“จู่ๆ ก็พูดถึงจินยองซออะไรกันครับ ก็ท่านพูดขึ้นมาว่าให้นำไปเลย…”
“คุณจะให้ผมไปหาผู้หญิงในเวลางานเนี่ยนะ”
แทมูสวมเสื้อคลุมพลางมองซองฮุนด้วยสายตาที่เหมือนตำหนิว่าไม่รู้จักเจ้านายตัวเองเลยหรือไง
“ก็ท่านกำลังพูดเรื่องคุณจินยองซออยู่…”
“ผมพูดแต่ผมไม่ได้คิดสักหน่อย”
แก้มของซองฮุนร้อนผ่าวไปชั่วขณะ บางทีเขาอาจจะกำลังคิดถึงแต่เรื่องของเธออย่างที่แทมูพูดจริงๆ ก็ได้
“ก่อนหน้านั้นกำลังพูดถึงเรื่องกรรมการยุนอยู่ไม่ใช่เหรอ”
หลังจากนั้นก็พูดถึงคุณจินยองซอนี่ครับ แต่ซองฮุนก็ไม่กล้าเถียงกลับไป ผู้ชายที่บอกว่าจะแต่งงานกับยองซอกำลังอยู่ตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าคนที่คิดถึงเธออยู่เรื่อยๆ จะเป็นตัวซองฮุนเองมากกว่า