Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน
ทดลองอ่าน Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน บทที่ 3
‘คุณทานอาหารแบบนี้ด้วยเหรอครับ’
ยองซอนั่งใจลอยนึกถึงเสียงของเขา ตอนนั้นเธอกำลังนั่งกินรามยอนอยู่ข้างๆ เขาในร้านอาหารพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ขณะที่เขากำลังมองเธอด้วยสายตาประหลาดใจ
‘อาหารแบบนี้คืออาหารแบบไหนเหรอคะ’
‘รามยอน ต๊อกบกกี* คิมบับ…อาหารประเภทบุนชิก** แบบนี้น่ะครับ’
‘ทำไมคะ ฉันดูเป็นคนที่ทานอาหารแบบนี้ไม่ได้เหรอคะ’
เขามองยองซอนิ่งๆ พอได้สบตากัน ยองซอก็รู้สึกได้ถึงอาการใจสั่น นั่นเป็นอาการที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
‘ผมคิดว่าคุณไม่น่าจะทานได้น่ะครับ’
‘ฉันทำลายภาพของตัวเองในจินตนาการของคุณเหรอคะ’
พอเขาหัวเราะออกมา หัวใจของเธอก็ยิ่งหวั่นไหว
ยองซอยกมือขึ้นทาบอกระหว่างที่กำลังทำงาน พอนึกถึงเขา หัวใจของเธอเต้นโครมคราม เขาไปอยู่ที่ไหนมา ถึงเพิ่งจะโผล่เอาตอนนี้นะ เดี๋ยวนะ ไม่สิ นี่คือเนื้อคู่ที่เกือบจะคลาดกันเพราะเธอส่งเพื่อนไปนัดบอดแทน อย่างน้อยก็ได้มาเจอกันแบบนี้แล้ว เพราะฉะนั้นเธอจะไม่บ่นเรื่องอื่นใดอีกต่อไป
‘ขอโทษด้วยครับ พอดีที่บริษัทเรียกตัวด่วน แล้วผมจะติดต่อไปใหม่นะครับ ขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งนะครับ’
เธอเคยรู้สึกถึงพรหมลิขิตอย่างแรงกล้าขนาดนี้มาก่อนหรือเปล่านะ ถ้าเขาไม่ได้รับสายโทรศัพท์จากใครบางคนและหายตัวไปแบบนั้น เธอก็อาจจะคิดถึงเรื่องแต่งงานแล้วชวนเขามาลองคบกันก็ได้
ชินฮารี : ไม่รู้ ตอนนี้ท่านประธานฉันดูยุ่งมาก เดินเข้าไปในห้องของกรรมการผู้จัดการแล้ว
ยองซออ่านข้อความในคาทอล์กที่ฮารีส่งมาและพยักหน้า
“เขายุ่งสินะ ใช่แล้ว ฉันควรต้องรอจนกว่าเขาจะติดต่อมา”
ยองซอเริ่มทำงานต่อและมองนาฬิกาอย่างว้าวุ่นใจ สุดท้ายเธอก็ส่งข้อความไปหาฮารีอีกครั้งทั้งที่เวลาเพิ่งผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
จินยองซอ : ขอเบอร์โทรท่านประธานของเธอหน่อยสิ
ชินฮารี : ไม่รู้เบอร์โทรเขาเหรอ
จินยองซอ : ก็ฉันลบไปแล้วน่ะสิ
ชินฮารี : ถ้าเธอให้ฉันไปนัดบอดกับผู้ชายที่เท่สุดๆ แล้วฉันจะบอกเบอร์เขา
ยองซอขมวดคิ้ว
“ทำไมจู่ๆ ยายนี่ถึงพูดเรื่องนัดบอดขึ้นมาอีกนะ ถ้ามีผู้ชายเท่ๆ แบบนั้น ฉันก็ไปนัดบอดก่อนแล้วสิ”
แต่ก็นั่นสินะ มินอูก็โดนแย่งไปแล้ว แถมยังโดนแย่งคู่นัดบอดไปอีก คงจะเหงาน่าดู
จินยองซอ : รู้แล้วน่า เดี๋ยวจะรีบจัดการให้
และแล้วเบอร์โทรก็ถูกส่งมาพร้อมข้อความตอบกลับว่าถ้าไม่จัดการเรื่องนัดบอดให้ก็จะไม่สอดแนมท่านประธานให้เหมือนกัน
ยองซอโทรหาแทมู ผู้ชายที่เป็นทั้งท่านประธานของฮารีและเป็นคนที่เธอเชื่อว่าตัวเองเพิ่งไปเจอมา
ยองซอนั่งรอแทมูอยู่ในร้านกาแฟอย่างกระวนกระวายใจ ในที่สุดเธอก็อดใจไม่ไหวและเป็นคนโทรไปหาแทมูเพื่อขอนัดเจอ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอาความกล้านี้มาจากไหน ตั้งแต่ตอนนั้นหัวใจก็เต้นรัวมาโดยตลอด และทุกครั้งที่ประตูร้านถูกเปิด หัวใจก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นจนกลัวว่ามันจะระเบิดออกมา
“แต่ทำไมเสียงตอนที่ฉันโทรไปนัดเจอกับตอนที่ได้เจอกันคราวนั้นถึงได้ต่างกันขนาดนั้นนะ”
ตอนที่เจอกัน เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่ตอนคุยโทรศัพท์กัน เธอกลับรู้สึกว่าเสียงของเขาฟังดูหนัก ทุ้มต่ำ และแข็งกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นทันทีที่นัดเวลากันได้แล้ว เขาก็รีบวางสาย ที่บอกว่างานยุ่งก็คงจะยุ่งมากจริงๆ
“นั่นสินะ จู่ๆ โทรไปนัดกะทันหัน มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นสิ”
ทว่าความแปลกที่รู้สึกได้ตอนคุยโทรศัพท์ไม่ใช่เรื่องที่ยองซอเป็นกังวลในตอนนี้ เพราะเป้าหมายเดียวของเธอคือการได้พบผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง เฮ้อ เธอส่องกระจกพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสงบใจไม่ได้เสียที เธอรู้สึกใจเต้นแบบนี้เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบเจ็ดปี ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป หัวใจอาจจะวายก่อนก็ได้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่น
คาทอล์กของฮารีถูกส่งเข้ามา
ชินฮารี : ถ้าเธอให้ฉันไปนัดบอดกับผู้ชายที่เท่สุดๆ
ชินฮารี : 010-xxxx-xxxx
ชินฮารี : เจอท่านประธานแล้วห้ามเปิดปากพูดถึงฉันนะ
ยองซอทำหน้ากลัดกลุ้ม
“จะมีผู้ชายที่เหมาะสมกับชินฮารีหรือเปล่านะ”
ถ้าเป็นผู้ชายที่ดูเล่นกีฬาเก่งเหมือนมินอูจะพอได้ไหมนะ แต่ถึงอย่างนั้นยองซอเองก็รู้ดีว่านอกจากมินอูจะดูเป็นสปอร์ตแมนแล้ว เขายังหน้าตาดีอีกด้วย ในเมื่อฮารีชอบผู้ชายระดับนั้น เธอควรจะแนะนำใครให้ดีถึงจะทำให้ฮารีพอใจ
“ถ้าไม่ได้เป็นผู้ชายที่หล่อมากจริงๆ ล่ะก็”
แต่รอบตัวเธอไม่มีผู้ชายแบบนั้นเลยนี่นา
“คุณจินยองซอหรือเปล่าครับ”
จู่ๆ ผู้ชายหล่อเหลาคนหนึ่งก็มายืนใกล้ๆ ตัวยองซอราวกับเรื่องโกหก
“ใช่ค่ะ ฉันชื่อจินยองซอ ไม่ทราบว่าคุณคือ…ใครเหรอคะ”
แทมูมองยองซออย่างพิจารณา หน้าตาที่ลบเครื่องสำอางออกแล้วเป็นแบบนี้งั้นเหรอ รูปหน้าดูเรียวคล้ายกันก็จริง แต่ความรู้สึกดูต่างกันเล็กน้อย แล้วเขาก็ลดสายตาลง
หน้าอก…เขามองก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าไม่พอใจและยกมือขึ้นมาปิดไว้…นั่น เขาจำได้ว่าหน้าอกของเธอไม่ได้เล็ก ส่วนเอว…มองไม่เห็นเพราะเสื้อบังอยู่ ขา…ขาน่ะเหรอ
แทมูลองนึกถึงขาของยองซอที่เขาเห็นในวันนัดบอด เขาจำได้ว่าตอนนั้นจู่ๆ เธอก็ตะโกนออกมาว่า ‘ท่านประธาน’ แล้วลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง เขาจึงได้เห็นขาของเธอที่กระตุ้นหัวใจของเขาให้สั่นไหว รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างแตกต่างกัน ดูเหมือนจะเล็กกว่าขาที่เขาเคยเห็น
ยองซอขมวดคิ้วเมื่อเห็นเขามองต้นขาของเธออย่างไม่ละสายตา
“คุณกำลังทำอะไรคะ”
“ตรวจสอบคน”
“คุณเป็นใครคะ”
“นั่นน่าจะเป็นคำพูดของผมมากกว่านะ คุณคือใครครับ”
“ฉันบอกไปแล้วไงคะว่าชื่อจินยองซอ”
ยองซอถามอีกครั้งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวดระวัง
“แล้วคุณล่ะคะเป็นใคร”
เขาแสดงสีหน้าสนอกสนใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน
“คุณจินยองซอ?”
“เลิกเรียกชื่อฉันได้แล้วค่ะ คุณคือใครกันแน่”
“ผู้ชายที่นัดบอดกับคุณจินยองซอ”
“…คะ?”
“คังแทมูครับ”
“คะ?”
ยองซออ้าปากค้าง สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาด้วยความสับสน
แทมูหรี่ตามอง เขามั่นใจว่าไม่ใช่ใบหน้าแบบนี้ รูปร่างและภาพรวมอาจมีบางส่วนคล้ายกันก็จริง แต่ความรู้สึกแตกต่างกัน สิ่งที่ชัดเจนก็คือผู้หญิงที่เขาพบในตอนนั้นค่อนข้าง…
“ถ้าคุณคือคุณคังแทมู…”
ยองซอหรี่ตาลงเหมือนพยายามสรุปสถานการณ์ จากนั้นก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ถ้างั้นคนที่ฉันเจอเมื่อวานนี้คือใครเหรอคะ”
“ผมต้องตอบด้วยเหรอครับ”
“อ้าว แต่เมื่อวานมีคนมาหาฉันที่บริษัท คนที่ทานรามยอนกับฉันน่ะค่ะ”
อ๋อ รามยอนนั่น
แทมูค่อยๆ หันหน้าไปทางซองฮุนที่กำลังนั่งทำงานโดยการจ้องแท็บเลตรอเขาอยู่ที่มุมหนึ่ง แต่ในสายตาของแทมูมองว่าซองฮุนแสร้งทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายมากกว่า
ชาซองฮุน คุณสวมรอยเป็นผมงั้นเหรอ
“หมายถึงเลขาฯ ของผมน่ะเหรอครับ”
“ละ…เลขาฯ เหรอคะ”
“ถ้าพูดให้ชัดเจนก็คือหัวหน้าเลขาฯ”
แทมูมองยองซอด้วยสายตาแปลกใจ ตอนที่เห็นว่าเบอร์โทรศัพท์ไม่เหมือนกัน เขาคิดว่าเธอใช้เบอร์ที่ทำงานคนละเบอร์กับโทรศัพท์ส่วนตัวเสียอีก
“คุณคือคุณจินยองซอถูกไหมครับ”
“ค่ะ แน่นอนสิคะ”
“คุณคือผู้หญิงที่บ้าผู้ชาย ชอบผู้หญิง วันๆ คิดแต่เรื่องมีเซ็กซ์หรือเปล่าครับ”
“คะ?”
“ผมได้ยินแบบนี้ตอนที่เรานัดบอดกัน”
ชินฮารี ยายบ้า!
“นะ…แนะนำตัวไปแบบนั้นใช่ไหมคะ”
“ถ้าใช่ แล้วทำไมคุณถึงไม่รู้จักหน้าตาผมล่ะครับ”
ไม่ใช่! เธอควรต้องตอบไปแบบนั้น แต่คำถามของเขากลับทำให้เธอพูดไม่ออก
“คือว่าพะ…เพื่อน…”
ยองซอนึกถึงข้อความของฮารีที่ข่มขู่เอาไว้ว่าห้ามพูดเรื่องของเธอเด็ดขาด พอกำลังจะขยับปากพูด ยองซอก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้และพยายามฝืนยิ้มให้แทมู
“เรานั่งคุยกันก่อนดีไหมคะ”