“ถ้าฉันรู้ฉันก็พูดชื่อมันไปแล้วดิไอ้ธัน ใช้สมองบ้าง”
“เสือกมาก็เสือกไม่สุดวะไอ้นิกกี้” คนถูกว่าโมโหบ้าง
“คือเรื่องเป็นอย่างนี้ มีไอ้หนุ่มวิศวะรุ่นพี่มันมาจีบปลายเว้ย” ท่าทางของนิกกี้ดูสนุกมาก แต่คนฟังสามคนกลับฟังด้วยความเงียบอยู่สักพักก่อนจะหันไปสนใจเรียนต่ออย่างเบื่อหน่าย
“อะไรวะ ไม่ตกใจกันเหรอ”
“นายพูดซ้ำ ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรเพิ่ม” เชนว่า
“อยากรู้ก็ช่วยกันถามปลายเย็นนี้ดิวะ”
“ฉันไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”
“แหมคุณเชนครับ สนิทตัวติดกันขนาดนั้นเป็นไปได้หรือครับที่จะไม่อยากรู้สักหน่อย” นิกกี้แซว
“นักศึกษาตรงนั้นครับ จะเรียนหรือจะออกไปคุยกันข้างนอกครับ” เสียงของอาจารย์ผู้สอนดังขึ้นทำให้บทสนทนาเงียบลงทันที ทั้งธันวาและนิกกี้อยากรู้เรื่องของปลายฟ้าขนาดที่ว่านั่งซ้อมถามคำถามยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด เชนไม่แปลกใจกับความอยากรู้อยากเห็นของสองคนนั้น แต่ธนดลก็เป็นไปด้วยนี่สิ
จนถึงเวลาเย็นพวกเขาก็ยังคงหมกหมุ่นกับเรื่องนี้ต่อที่สนามบาส
“ฉันว่าพวกแกถามจงใจไป เอาเป็นว่าถามแค่ว่าช่วงนี้ปลายทำอะไรบ้าง แล้วมีใครมากวนใจอะไรไหมดีกว่า” ธนดลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ถ้าเทียบกันเรื่องหน้าตาแล้วในสี่คนธนดลดูเหมือนจะหน้าตาธรรมดาที่สุด เขาเป็นเด็กเนิร์ดสวมแว่นท่าทางดูน่าเชื่อถือ ในขณะที่ธันวาหน้าตาคมเข้มพูดจาโผงผางเสียงดัง ส่วนนิกกี้เป็นคนสำอางหน้าตาน่ารักกว่าผู้ชายทั่วไป แต่หากจะพูดถึงนิสัยแล้วธนดลดีกว่าสองคนนี้แน่นอน
“โอ๊ยไอ้ดล ถามอย่างนั้นก็รู้เหมือนกันหรือเปล่าวะว่าจงใจ” ธันวาโวยวาย
“ไม่ต้องถามก็หมดเรื่อง ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย” เชนว่า
“ได้ไง นี่ว่าที่เพื่อนสะใภ้ของพวกเรานะ” นิกกี้แย้งขึ้น
“ปลายมาแล้วๆ” ธนดลร้องขึ้นก่อนที่ทุกคนจะหันมานั่งเรียงกันอย่างสงบเสงี่ยมเหมือนไม่ได้พูดอะไรกันมาก่อนหน้านี้ ปลายฟ้ายังสวมชุดนักศึกษาอยู่ เธอเดินเข้ามาแล้วโบกมือให้ทุกคน ไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้าที่เจ้าตัวมักจะพกมาเปลี่ยนประจำ
“วันนี้ปลายไม่เล่นเหรอ” นิกกี้ถาม
“อื้ม วันนี้มีธุระเลยแวะมาบอกน่ะ”
“โทรมาก็ได้จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขึ้นมาถึงนี่” ธันวาว่า
“ไม่เป็นไรหรอก เดินออกกำลังกายบ้างก็ดี ไปนะ คริสซี่รออยู่ข้างนอก” หญิงสาวว่าก่อนจะเดินหันหลังกลับไป เรื่องนี้ยิ่งกระตุ้นความอย่างรู้อยากเห็นของพวกหนุ่มๆ มากกว่าเดิม นี่พวกเขากลายเป็นพวกชอบซุบซิบตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ฉันว่าไม่ใช่คริสซี่ ไอ้รุ่นพี่นั่นหรือเปล่า” นิกกี้ตั้งข้อสงสัย
“ตามไปแอบดูดิวะ” ธันวาเสนอ ทั้งสองคนเหมือนคนฟุ้งซ่านที่หมกหมุ่นเรื่องข่าวลือของปลายฟ้าราวกับไม่มีอะไรอย่างอื่นทำ เมื่อห้ามเพื่อนไม่ได้เชนจึงได้แต่ทำเฉย กระทั่งสองคนนั้นพากันเดินออกไป หลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาด้วยสีหน้าผิดหวัง
“คริสซี่จริงๆ ว่ะ” ธันวาพูดขึ้น
เชนถอนหายใจก่อนจะมองไปที่โทรศัพท์ของตัวเอง กฤษราไม่ได้ส่งข้อความมาหาเขาอีกตั้งแต่ตอนเช้า ยายนั่นคงจะมีเรื่องอะไรทำอย่างอื่นบ้างล่ะนะ หรือถ้าอีกฝ่ายเลิกล้มความคิดที่จะตามเขาเหมือนผีแบบนี้ก็ดี ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่เชนก็มักจะมองไปที่โทรศัพท์อยู่ตลอด
(โปรดติดตามต่อในเล่ม)