การมาเยือนของอูซื่อครานี้ทำเสิ่นฮูหยินหัวเสียอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่สุดท้ายนางก็เรียกพ่อบ้านมากระซิบสั่งให้ไปหาของมาเพิ่ม โปะตรงนั้นเสริมตรงนี้ รวมๆ กันแล้วอย่างน้อยก็ได้ถึงยี่สิบหีบ
ตอนแรกเสิ่นฮูหยินไม่ทันได้คิดให้ถ้วนถี่ ไม่ยุติธรรมต่อเสิ่นกุยเยี่ยนน่ะช่างเถิด แต่ทำให้ตัวนางเองเสียหน้าสิสำคัญนัก ให้ของเพิ่มไปไม่กี่หีบก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะรอเสิ่นกุยเยี่ยนแต่งเข้าไปก็ต้องเป็นรองบุตรสาวนางอยู่ดี
เมื่อแก้ปัญหาเรื่องสินเจ้าสาวได้ เสิ่นกุยเยี่ยนก็เตรียมตัวออกเรือนอย่างสบายใจ หลังแต่งชุดไว้ทุกข์ครบสิบห้าวันนางก็จะได้สวมชุดเจ้าสาวแล้ว
ปรากฏว่าเหตุไม้จารึกกฎตระกูลครานั้นเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงห้าวันก็มีคนมาเกาะอยู่นอกหน้าต่างห้องนอนนางอีกครั้ง
“เยี่ยนเอ๋อร์ ข้ากลับไปคิดอยู่นานก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี” กู้เจาตงที่ยืนอยู่นอกหน้าต่างพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เสื้อผ้ากับผมเผ้าคืนนั้นเจ้าเป็นคนทำให้ยุ่งเหยิงเองกับมือ ตอนมาเปิดหน้าต่างคุยกับข้า เจ้ายังแต่งกายเรียบร้อยอยู่เลย ระหว่างเจ้ากับน้องสี่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้นใช่หรือไม่”
เสิ่นกุยเยี่ยนมองบุรุษที่อยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณชายใหญ่สกุลกู้ อะไรควรพูดข้าก็ได้พูดไปหมดตั้งแต่ครั้งก่อนแล้ว ในเมื่อท่านเต็มใจแต่งงานกับน้องห้าก็ไม่ควรมาตอแยข้าอีก และไม่ควรมาซักไซ้เรื่องระหว่างข้ากับคุณชายสี่ด้วยเช่นกัน”
แต่งงานไปแล้วแท้ๆ ยังจะวิ่งมาทำตัวเป็นค้างคาวนอกหน้าต่างห้องนอนข้าอีก หากเสิ่นกุยหย่ารู้เรื่องเข้าจะรู้สึกเช่นไร
ความยินดีวาบขึ้นบนใบหน้าของกู้เจาตง เขาไม่ได้สนใจฟังที่นางบอกแม้แต่น้อย เอาแต่พูดเองเออเองไปเรื่อยๆ “ข้าคิดไว้ไม่ผิดเลย เจ้ายังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ถ้าเช่นนั้นก็เป็นของข้าเถิด อย่างมากข้าก็แค่ไปขอรับโทษจากท่านพ่อ ต่อให้ต้องถูกโบย ข้าก็อยากครองคู่กับเจ้า”
‘ปัง’ เสิ่นกุยเยี่ยนปิดหน้าต่างด้วยสีหน้าว่างเปล่าไร้ความรู้สึก
เสียแรงที่นางสู้อุตส่าห์ฝากความหวังกับคนผู้นี้ไว้มากมาย แต่ก่อนนางถูกอะไรบังตาหรือไรนะ ถึงได้มองว่าคุณชายผู้สุภาพเปี่ยมความรู้ทุกกระเบียดนิ้วเช่นกู้เจาตงจะเป็นสามีที่ดีได้
นางเติบโตมาในกรอบระเบียบ แม้จะเป็นคำสั่งของบุพการี เป็นการชักนำของแม่สื่อ แต่ใจนางก็คิดว่ากู้เจาตงเป็นสามีมาโดยตลอดและทุ่มเทใจให้เขาไม่รู้เท่าไร ปรากฏว่าบัดนี้เขาไม่เพียงทรยศนาง ยังเพ้อฝันว่านางจะประพฤติตนเสื่อมเสียไปกับเขาด้วย?
ยังมียางอายอยู่บ้างหรือไม่
นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นกุยเยี่ยนรู้สึกชังน้ำหน้ากู้เจาตงเหลือเกิน นางหมุนตัวไปฉวยกาน้ำชาที่เย็นลงบ้างแล้วบนโต๊ะ จากนั้นก็เปิดหน้าต่างอีกครั้ง
“เยี่ยนเอ๋อร์ ฟังข้านะ…”
ชาทั้งกาเทพรวดออกไปนอกหน้าต่าง จากนั้นเสิ่นกุยเยี่ยนยังวางกาลงในมือชายหนุ่มอีกด้วย “มนุษย์ประเสริฐที่รู้จักละอาย ข้าไม่ส่งนะเจ้าคะ คุณชายใหญ่”