ศึกครั้งที่สองฮ่องเต้มิได้คุมทัพ คนออกโรงคือแม่ทัพเหลียน แต่ก็ยังพ่ายแก่เสิ่นกุยอู่ดังเดิม ศึกครั้งที่สามก็เช่นกัน เหวินโซ่วซานเฝ้ามองอย่างยินดีปรีดาแล้วยกไพร่พลของตนให้เสิ่นกุยอู่แปดหมื่นนาย สั่งให้อีกฝ่ายยกทัพโอบเข้ามาทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองหลวง เมื่อถึงเวลาจะได้ประกบโจมตีสองทางพร้อมกับตน
เขาส่งสัญญาณไปให้อวี่เหวินฉางชิง แม่ทัพอวี่เหวินออกจากเมืองหลวงแล้วเช่นกัน เพียงไม่นานก็สามารถนำทัพมาสมทบกับเขา
เมืองหลวงตกอยู่ในวงล้อมอันแน่นหนาภายในเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งเดือน
กู้เจาเป่ยลองชุดเกราะอยู่ในตำหนักหย่งเหอ เป็นเกราะเบาสีดำเงิน ตรงตำแหน่งหัวใจหนากว่าส่วนอื่น
“เป็นห่วงข้าหรือ” เขาก้มหน้ามองเสิ่นกุยเยี่ยนพร้อมถามเบาๆ
นางช่วยผูกเสื้อคลุมกันลมให้เขาแล้วเม้มปาก “หม่อมฉันต้องเป็นห่วงฝ่าบาทอยู่แล้วสิเพคะ หม่อมฉันจะรออยู่ในวังหลวง หากฝ่าบาททรงชนะ หม่อมฉันจะแสดงความยินดี แต่หากทรงปราชัยหม่อมฉันก็จะตามเสด็จไปด้วย”
กู้เจาเป่ยสูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง แล้วก้มลงประทับจุมพิตบนหน้าผากนาง
เมืองหลวงว่างเปล่าเพราะราษฎรละทิ้งบ้านเรือนหนีออกไปกันหมด ฮ่องเต้สั่งให้กององครักษ์หลวงตรึงกำลังอยู่กลางเมืองเพื่อคอยลาดตระเวนตรวจตราหาไส้ศึก
ศึกครานี้ดูเหมือนไม่จำเป็นต้องรบรากันด้วยซ้ำ ตอนที่เสิ่นกุยอู่ยกทัพมาถึงจุดที่นัดแนะและร่วมบุกตีเมืองหลวงพร้อมกันสามทางกับอวี่เหวินฉางชิงและเหวินโซ่วซานก็เป็นเวลาครึ่งเดือนให้หลัง
พระอัยกาเหวินมั่นใจเต็มเปี่ยม ถึงขั้นคิดว่าจะตีประตูเมืองหลวงให้แตกแล้วตรงขึ้นนั่งบัลลังก์มังกรเลยทีเดียว
ทว่าไพร่พลห้าหมื่นนายที่เขานำไปด้วยกลับถูกกองทัพทักษิณและกองทหารรักษาพระองค์ยื้อยุดไว้ที่เมืองเต๋อตง พวกนั้นราวกับล่วงรู้แผนเดินทัพของเขามาก่อน กองทัพทักษิณมีกันสามหมื่นนาย ส่วนกองทหารรักษาพระองค์มีเพียงสามพันนาย แต่กลับล้อมสกัดเขาไว้จนแทบขยับตัวไม่ได้ พอถอยร่นไปทางตะวันออกก็ติดกับดักขนาดใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามซ้ำอีก
เหวินโซ่วซานหน้าเสีย แต่คิดว่าคงเป็นความบังเอิญ ไพร่พลห้าหมื่นนายเจ็บตายไปครึ่งหนึ่ง เขารีบถอยทัพหนีโดยไม่รอช้า
ข้าศึกมิได้ไล่ตามแบบกัดไม่ปล่อย ทว่ากลับไปรวมพลกันในค่ายใหญ่ตรงชานเมืองหลวง
ในเมื่อใช้กำลังพลมาเล่นงานเขา ทางด้านอวี่เหวินฉางชิงกับเสิ่นกุยอู่น่าจะตีเมืองได้อย่างราบรื่นกระมัง
แต่เมื่อกลับมาถึงค่ายเขากลับได้รับจดหมายจากอวี่เหวินฉางชิงและเสิ่นกุยอู่ที่ตั้งคำถามเขากันทั้งคู่
‘เหตุใดวันนี้ถึงไม่บุกตีเมือง’
เหวินโซ่วซานงงงัน นัดแนะกันดีแล้วมิใช่หรือว่าให้บุกตีวันนี้ ใครบอกกันว่าไม่ตี
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น รีบไปสืบมาเดี๋ยวนี้!”
สายลับรายงาน “เรียนท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพอวี่เหวินและท่านแม่ทัพเสิ่นล้วนได้รับจดหมายลับจากท่าน บอกว่าจะไม่บุกตีเมืองหลวงในวันนี้ ทั้งสองทัพจึงไม่เคลื่อนไหวขอรับ”
จดหมายลับจากข้า? เหวินโซ่วซานหน้าเขียว จากนั้นก็สบถ “เจ้าเด็กต่ำช้า!”
กู้เจาเป่ยจะต้องใช้เล่ห์กลให้คนไปส่งจดหมายลับหลอกจนแผนเคลื่อนทัพของเขาพังครืนเป็นแน่
“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป วันนี้พักทัพแล้วพรุ่งนี้ค่อยบุกโจมตีอีกครั้ง ต่อให้ได้ยินข่าวว่าไม่ต้องบุกตีเมืองจากที่ใดก็ห้ามเชื่อเด็ดขาด!”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 ส.ค. 66 เวลา 12.00 น.