ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 7-8 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 7-8

หลังผ่านขั้นตอนต่างๆ เจ้าสาวถูกประคองเข้ามาในโถงพิธี กู้เจาเป่ยเดาะลิ้น ‘จิ๊’ แล้วหยิบเหอเถา* เม็ดหนึ่งโยนลงไปตรงเท้าเจ้าสาวอย่างนึกครึ้ม

เสิ่นกุยหย่าเหยียบเหอเถาเข้าอย่างจังจนหวิดเจียนจะล้ม ทว่านางเป็นคนปราดเปรียวว่องไว สามารถใช้มือข้างหนึ่งยันพื้น แล้วย่อตัวลงไปนั่งยองๆ ได้อย่างมั่นคง

แม่นมมงคลที่อยู่ข้างๆ สะดุ้งเฮือก ผวาเข้าไปประคองนาง ปรากฏว่าเสิ่นกุยหย่าลุกขึ้นยืนเองก่อน ซ้ำยังดึงผ้าคลุมศีรษะขึ้นเผยให้เห็นใบหน้า “หน้าไหนมันเล่นงานข้า!”

เสียงฮือฮาดังไปทั้งห้องโถงกลบเสียงประทัดด้านนอกให้เบาลงไปทันใด อัครเสนาบดีกู้กับฮูหยินนั่งตรงตำแหน่งประมุข โถงพิธีพร้อมพรั่งด้วยญาติผู้ใหญ่สกุลกู้ เหล่าคุณชาย และคุณหนูสาม เสิ่นกุยหย่ายังไม่ทันได้เข้าห้องหอก็ดึงผ้าคลุมศีรษะออกเองก่อนแล้ว

กู้เจาเป่ยก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นเขาก็พิจารณาใบหน้าเจ้าสาว ก่อนจะแค่นหัวเราะ “ไหนว่าใครต่อใครต่างชื่นชมว่าคุณหนูสามสกุลเสิ่นงามหยาดฟ้ามาดิน เหตุใดถึงรูปโฉมเช่นนี้ได้เล่า”

กู้เจาตงเหลียวมองนางแล้วให้หน้าถอดสีทันที “คุณหนูห้า?”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในโถงพิธี คนที่รู้จักเสิ่นกุยหย่ามีไม่มาก ทว่าคนที่รู้ว่าเสิ่นกุยเยี่ยนรูปโฉมอย่างไรนั้นมีล้นเหลือ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าสตรีผู้นี้ไม่ใช่เสิ่นกุยเยี่ยน สกุลเสิ่นต้องบ้าบิ่นสักเพียงใดถึงได้กล้าย้อมแมวหลอกจวนอัครเสนาบดีถึงขั้นนี้

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” อัครเสนาบดีกู้ลุกขึ้น

เสิ่นกุยหย่าหันไปถลึงตาใส่คนที่หัวเราะเยาะตน แต่ภาพที่ได้เห็นคือเด็กหนุ่มปากแดงฟันขาว มุ่นผมรัดเกี้ยวหยก ท่านั่งไม่สำรวม ทว่ากลับดูมีเสน่ห์สะดุดตา ใบหน้าประดับรอยยิ้มร้ายๆ ที่นางเห็นแล้วแทบเคลิ้มจนไม่รู้เหนือรู้ใต้ กระทั่งอัครเสนาบดีกู้เดินเข้ามายืนตรงหน้า นางยังไม่หลุดจากภวังค์

“คุณหนูห้า!” กู้เจาตงร้องเรียกด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ครั้นกระชากเงื่อนคล้องใจ** ออกอย่างแรงถึงค่อยดึงสายตาเสิ่นกุยหย่ากลับมาได้

“…หา? อ้อ ข้าคือเสิ่นกุยหย่า บุตรสาวคนที่ห้าของสกุลเสิ่น แม่แท้ๆ ของพี่สามป่วยตายกะทันหัน อีกทั้งตัวข้าก็ตั้งครรภ์บุตรของคุณชายกู้ วันนี้เลยขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวมาก่อน” เสิ่นกุยหย่ายังไม่หายเคลิบเคลิ้ม ระหว่างชี้แจงก็เหลียวมองชายหนุ่มรูปงามไปด้วย

เสิ่นกุยหย่าไม่ได้ตระหนักว่าคนโบราณไม่ชื่นชมความโผงผางตรงไปตรงมาเช่นนี้แม้แต่นิดเดียว พวกเขาแต่ละคนมีแต่คิดว่าเด็กสาวผู้นี้ไร้ยางอาย ไม่มีมารยาท ไม่รู้จักใช้คำถ่อมตนคำยกย่อง กลับพูดปาวๆ ได้หน้าตาเฉยว่าตั้งครรภ์บุตรของฝ่ายชาย

ทั้งที่ยังไม่ทันได้แต่งงานกันเสียด้วยซ้ำ

อัครเสนาบดีกู้ก็มีสีหน้าขรึมเครียดเช่นกัน งานมงคลที่เตรียมการมาเนิ่นนานต้องกลายเป็นเรื่องขำขันของราชสำนักเพราะเหตุนี้ เขาเลือกลูกสะใภ้เอาไว้แล้ว สกุลเสิ่นอยากเปลี่ยนตัวก็เปลี่ยนได้ตามใจชอบอย่างนั้นหรือ

“ช้าก่อน เจ้าบอกว่าเจ้าตั้งครรภ์บุตรของคุณชายใหญ่?” กู้ฮูหยินจับประเด็นสำคัญได้ “เป็นไปได้อย่างไร…เจ้ากับคุณชายใหญ่…”

“ท่านแม่ บุตรในครรภ์คุณหนูห้าเป็นของลูกจริงๆ ขอรับ” กู้เจาตงกำมือแน่นพร้อมหลุบตาลง “ลูกไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้ แต่ในเมื่อเด็กเกิดมาแล้ว ลูกก็ต้องยอมรับ”

ไม่ว่าอย่างไรทายาทก็สำคัญที่สุด

อัครเสนาบดีกู้ขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็แค่นหัวเราะ “เจ้าหมายความว่าวันนี้จะแต่งคุณหนูห้าสกุลเสิ่นคนนี้เข้าจวน?”

“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว…” บุตรชายคนโตสูดหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง “ก็ต้องเป็นไปตามนี้ล่ะขอรับ”

“แล้วทางคุณหนูสามจะทำอย่างไรเล่า!” ผู้เป็นบิดาถามอย่างเดือดดาล “ข้าสอนเจ้าว่าลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ แต่ไม่ได้ให้เจ้ากล้ารับผิดชอบคนหนึ่ง แล้วทำผิดต่ออีกคนหนึ่ง!”

กู้เจาตงหายใจลำบาก เขาเป็นคนที่รู้สึกว่าเรื่องวันนี้เหลือเชื่อกว่าใครทั้งนั้น เสิ่นกุยหย่าตั้งครรภ์บุตรของเขา เขาชอบเยี่ยนเอ๋อร์จากใจจริง ทว่าบุตร…

กู้เจาหนานที่ยืนมองละครฉากนี้อยู่อีกทางหัวเราะเบาๆ พลางลูบแหวนหยกวงหนาที่สวมอยู่ ด้านหลังเขาคืออี๋เหนียงคนหนึ่งที่ครรภ์นูนออกมาน้อยๆ

“ลูกจะต้องไปขอขมาคุณหนูสามที่จวนสกุลเสิ่นด้วยตนเองอย่างแน่นอน”

เสียงวิจารณ์พลันดังโดยรอบ แต่เสิ่นกุยหย่ายังอุตส่าห์มีแก่ใจมองกู้เจาเป่ย เมื่อครู่จะต้องเป็นคนผู้นี้แน่ๆ ที่แอบแกล้งนาง อยากเรียกร้องความสนใจจากนางอย่างนั้นหรือ นางใคร่ครวญอยู่ในใจ บุรุษผู้นี้หล่อเหลาสะดุดตา หรือจะเป็นพระรองของข้ากันนะ

ขณะที่กู้เจาเป่ยกำลังสำราญใจที่ได้เห็นพี่ชายคนโตผู้ได้รับความสำคัญจากบิดามากที่สุดถูกดุด่า ก็รับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องมองมา จึงมองกลับไปบ้าง

สายตาของสตรีผู้นี้ไม่บริสุทธิ์เอาเสียเลย เห็นแล้วน่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าสายตาสตรีที่ร่ายรำในหอคณิกาเสียด้วยซ้ำ กู้เจาเป่ยแค่นหัวเราะดังหึ ก่อนจะผิวปากรับสายตาของนางเบาๆ

เขาชิงชังสตรีประเภทนี้เป็นที่สุด และชอบเห็นพวกนางทึกทักเข้าข้างตนเองอย่างยิ่งยวดเช่นกัน นี่ล่ะนิสัยเสียของคุณชายสี่แห่งสกุลกู้

ทว่าเสิ่นกุยหย่ากลับทำหน้าเขินอาย เพราะคิดว่าท่าทีที่เขาแสดงออกมาเช่นนี้หมายความว่าถูกใจนางแน่แล้ว เจ้าของร่างที่นางทะลุมิติมาสิงมีรูปโฉมพอๆ กับตัวนางในยุคปัจจุบัน แต่ถึงอย่างไรนางก็พอใจมากอยู่ดี ขอเพียงแต่งหน้าแต่งตัวสักหน่อย รับรองจะต้องงามล่มเมืองได้แน่นอน ถึงอย่างไรมาตรฐานความงามของคนโบราณก็ไม่ได้เรื่องเท่าไรอยู่แล้ว

“ถ้าเช่นนั้นก็ทำพิธีต่อแล้วกัน” อัครเสนาบดีกู้สูดหายใจเข้าออกลึกๆ อยู่หลายครั้งถึงสะกดกลั้นโทสะไว้ได้ ตอนแรกเขาหมายนั่งลงดังเดิม แต่ก็นึกกระอักกระอ่วนใจที่ผู้ใหญ่อย่างตนต้องมาเสียหน้า สุดท้ายเลยสะบัดแขนเสื้อเดินออกไปก่อนโดยไม่อยู่รับการคำนับจากบ่าวสาว

ขณะที่กู้ฮูหยินรู้สึกสับสนในใจ แม้จะนั่งลงรับการคำนับและรับน้ำชาจากเสิ่นกุยหย่า ทว่าก็รับมาวางไว้เฉยๆ ไม่ได้ดื่ม เพียงแค่ยื่นเงินรับขวัญให้เท่านั้น

รอบตัวมีแต่คนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสกุลเสิ่นย้อมแมวสับเปลี่ยนเจ้าสาว มีเพียงเสิ่นกุยหย่าที่รออยู่ในห้องหอคิดเองเออเองอยู่คนเดียวว่าผลที่ออกมาช่างงดงามนัก

 

“มารดาแท้ๆ ของนางตาย?”

กู้เจาเป่ยดื่มไปมากโข ระหว่างเดินอยู่ในสวนก็ได้ยินเสียงร้อนรนของพี่ชายตนเองถามขึ้น

ถัดจากนั้นคือเสียงนอบน้อมของเฟิ่งเซี่ยว “ได้ยินว่าสิ้นลมตอนคุณหนูสามกำลังจะออกเรือนพอดีขอรับ”

น่าสนุกแท้ เจ้าสาวเข้าไปรอในห้องหอแล้ว เจ้าบ่าวยังมัวถามไถ่เรื่องคุณหนูสามสกุลเสิ่นอยู่อีก? กู้เจาเป่ยเลิกคิ้วแล้วหลบไปยืนแอบฟังหลังเสาตรงเฉลียง

“เยี่ยนเอ๋อร์จะต้องเสียใจและต้องการข้ามากเป็นแน่” กู้เจาตงใช้ความคิด เขาสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน อีกสองวันข้าจะไปจวนสกุลกู้เพื่อช่วยนางจัดการงานศพ นางจะได้ยอมอภัยให้ข้าง่ายขึ้นด้วย”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com