ตอนที่หลี่หลิงหว่านไปหาหลี่เหวยหยวน นางก็เห็นเขากำลังอ่านตำราอยู่ที่ข้างหน้าต่าง
หลี่หลิงหว่านมาถึงก็ไม่จำเป็นต้องให้จิ่นเหยียนเข้าไปแจ้งก่อน นางสามารถเดินเข้าไปได้เลย จากนั้นก็ยื่นมือออกไปจับใบหน้าของหลี่เหวยหยวน แล้วมองสำรวจแก้มซีกซ้ายของเขาอย่างละเอียด
ฝ่ามือนั้นของหลี่ซิวป๋อออกแรงหนักมากจริงๆ ต่อให้ผ่านไปสักพักแล้ว แต่ก็ยังคงมองเห็นรอยประทับของนิ้วทั้งห้าบนแก้มซ้ายของหลี่เหวยหยวนได้อย่างชัดเจน
หลี่หลิงหว่านกัดฟันเอ่ยอย่างเคียดแค้น “เขาคิดจะตบข้าให้ตายในครั้งเดียวเลยใช่หรือไม่” ก่อนจะยื่นมือไปลูบแก้มซ้ายของหลี่เหวยหยวนอย่างแผ่วเบา เอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง “พี่ชาย พี่เจ็บหรือไม่เจ้าคะ”
นิ้วมือของนางเย็นเล็กน้อย ทั้งยังแฝงไปด้วยกลิ่นหอมละมุนของดอกพุดซ้อนที่อยู่นอกเรือนพัก
หลี่เหวยหยวนวางตำราในมือลง แล้วยกมือขึ้นจับมือของนางที่กำลังวางอยู่บนแก้มเขา จากนั้นจึงยิ้มเอ่ย “ใช้น้ำแข็งก้อนประคบไปแล้ว ข้าไม่เจ็บแล้วล่ะ”
หลี่หลิงหว่านถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกายเขา
“ท่านย่าต่อว่าเจ้าหรือ” หลี่เหวยหยวนเหลือบมองนาง “ให้วันหน้าเจ้าอย่าได้โต้เถียงท่านอาสามอีก ทั้งยังให้เจ้าไปขอร้องท่านเจ้าอาวาสอีกใช่หรือไม่”
หลี่หลิงหว่านรู้ว่าเขาฉลาด แล้วก็ไม่มีเรื่องใดต้องปิดบังเขา นางจึงตอบรับอย่างเหนื่อยล้าอยู่บ้าง “ใช่แล้วเจ้าค่ะ”
เพื่อไม่ให้โจวซื่อเป็นกังวล ยามที่อยู่กับโจวซื่อบนใบหน้าหลี่หลิงหว่านจึงมีรอยยิ้มอยู่เสมอ และยังแสร้งแสดงท่าทีผ่อนคลายออกมา ทว่ายามอยู่กับหลี่เหวยหยวนเช่นนี้นางคร้านที่จะแสดงแล้ว
เสแสร้งไปก็ไร้ประโยชน์ หลี่เหวยหยวนเป็นคนที่มีความคิดความอ่านละเอียดรอบคอบถึงเพียงนี้ เห็นแค่บางส่วนก็สามารถคาดเดาทั้งหมดได้แล้ว การแสดงละครต่อหน้าเขาถือเป็นการเสียเปล่า ถึงอย่างไรเขาก็มองนางออก อีกทั้งพอผ่านเรื่องราวในวันนี้ไป หลี่หลิงหว่านก็เชื่อมั่นในตัวหลี่เหวยหยวนมากกว่าเดิมแล้ว
มิหนำซ้ำเมื่อครู่หลังจากนางใคร่ครวญดูแล้วก็รู้สึกว่าในภายภาคหน้านางทำได้เพียงพึ่งพาหลี่เหวยหยวนจริงๆ
ฮูหยินผู้เฒ่ากับหลี่ซิวป๋อแสดงออกชัดเจนว่าต้องการให้ซุนหลันอีขึ้นเป็นภรรยาเอก แม้การปกป้องโจวซื่อจะเทียบได้กับนางปกป้องตนเอง ทว่าน่าเสียดายนัก ด้วยสติปัญญาเพียงเท่านี้ของตนเอง นางรู้สึกว่ายังคงมีบางเรื่องที่แม้จะมีใจมุ่งมั่นแต่ไม่มีอำนาจพอ
แล้วเหตุใดนางจะไม่พึ่งพาหลี่เหวยหยวนกันเล่า นางวางให้เขาเป็นคนที่เก่งกาจถึงเพียงนั้น กระทั่งทั้งราชสำนักยังสามารถควบคุมเอาไว้ได้ นับประสาอะไรกับแค่จวนสกุลหลี่
หลี่หลิงหว่านหันหน้าไปมองหลี่เหวยหยวน คิ้วยาวนัยน์ตากระจ่าง จมูกโด่งริมฝีปากบาง เป็นคนที่หล่อเหลาคมคายมากคนหนึ่งจริงๆ เพียงแต่บางครั้งแผ่กลิ่นอายเย็นชามากไปสักหน่อย ทว่าช่วยไม่ได้จริงๆ ตัวตนตอนแรกที่นางออกแบบให้เขาก็คือเป็นคนเย็นชาเช่นนี้
เหลียงเฟิงอวี่รับหน้าที่สดใส ฉุนอวี๋ฉีรับหน้าที่อบอุ่น หลี่เหวยหยวนก็รับหน้าที่เย็นชา มิเช่นนั้นหากให้ทุกคนผสมปนเปนิสัยกันไปหมดจะทำเช่นไร
หลี่เหวยหยวนถูกหลี่หลิงหว่านสังเกตเช่นนี้ก็ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด เขาเพียงแต่หยักยกมุมปากแล้วเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เหตุใดจู่ๆ เจ้าก็มองข้าเช่นนี้”
ในใจหลี่หลิงหว่านกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องอื่น เมื่อได้ยินเขาถามจึงเอ่ยปากตอบอย่างไร้สติ “เพราะว่าพี่ดูงดงามนัก”