ทดลองอ่าน นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน! บทที่ 4 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน! บทที่ 4

6 of 6หน้าถัดไป

ในใจหลี่หลิงหว่านทางหนึ่งรู้สึกขมขื่นจนไม่สบายไปทั้งร่างโดยที่ไม่อาจพูดออกมาได้ อีกทางก็รู้สึกละอายใจต่อโจวซื่อยิ่งนัก บุคคลน่าสงสารผู้นี้เป็นคนที่นางเขียนออกมาเองกับมือ รวมไปถึงจุดจบนั่นด้วย แต่ไม่เป็นไร เพราะนับจากนี้นางจะทำดีต่อโจวซื่อ ชดเชยความสัมพันธ์แม่ลูกที่โจวซื่อควรได้สัมผัสแต่แรก ส่วนจุดจบสุดท้ายของโจวซื่อก็ไม่มีทางจะถูกผลักตกสระจนจมน้ำตายอยู่แล้ว…นางจะไปผลักโจวซื่อได้อย่างไรกัน

ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความละอายต่อโจวซื่อ หลี่หลิงหว่านกะพริบตาให้กับโจวซื่อที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมส่งยิ้มให้

หลังจากโจวซื่อเดินเข้ามาแล้ว ดวงตาก็เอาแต่จับจ้องไปยังร่างของหลี่หลิงหว่าน เห็นที่ศีรษะของบุตรสาวยังคงพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาวหนาๆ นางก็อดเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้ หากไม่ใช่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ตรงนี้ นางจะต้องรีบวิ่งเข้าไปสำรวจบาดแผลของหลี่หลิงหว่านแน่นอน

ตอนนั้นเองโจวซื่อก็เห็นหลี่หลิงหว่านทั้งกะพริบตาทั้งส่งยิ้มมาให้ หัวใจนางพลันอุ่นวาบในทันที จากนั้นก็รู้สึกว่าปลายจมูกตีบตัน

บุตรสาวของนางเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนแล้วจริงๆ เมื่อก่อนยามที่หลี่หลิงหว่านเห็นนางไม่เคยมีความสนิทสนมให้เช่นนี้ กระทั่งคำว่า ‘แม่’ ยังไม่เคยเรียกเสียด้วยซ้ำ ทว่าเมื่อวานหลังจากที่หลี่หลิงหว่านฟื้นขึ้นมา ไม่เพียงเรียกนางว่าท่านแม่เท่านั้น กระทั่งในน้ำเสียงก็ยังแฝงความใกล้ชิดสนิทสนม จนยามนี้บุตรสาวซึ่งนั่งอยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่านั้นก็ยังกะพริบตาและส่งยิ้มให้นางอยู่เลย

แม้ในใจจะตื้นตันมากเพียงใด ทว่าเบื้องหน้าโจวซื่อกลับไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกมามากมาย นั่นเป็นเพราะฮูหยินผู้เฒ่าไม่ชอบเห็นนางกับหลี่หลิงหว่านสนิทสนมกัน

ดังนั้นโจวซื่อจึงเก็บสายตาก่อนย่อกายคารวะฮูหยินผู้เฒ่า แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ลูกสะใภ้คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ”

เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าแค่นเสียงออกมาเบาๆ ครั้งหนึ่งเป็นการตอบรับแล้ว สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างก็เดินขึ้นหน้ามาเชิญโจวซื่อไปนั่ง หลังจากนั้นคนของบ้านใหญ่กับบ้านรองก็ทยอยกันเข้ามา

เทียบกับสภาพอันน่ารันทดของโจวซื่อที่มาเพียงลำพัง ข้างกายมีแค่สาวใช้เพียงคนเดียวคอยตามแล้ว บ้านใหญ่กับบ้านรองนั้นกลับเต็มไปด้วยสมาชิกในครอบครัว

หลังจากที่ตู้ซื่อของบ้านใหญ่ถูกกักบริเวณ ฮูหยินผู้เฒ่าก็ให้หลี่ซิวซงแต่งภรรยาเอกเข้ามาอีกครั้ง แม้หลี่ซิวซงจะเป็นบุตรชายคนโตแต่ก็ไม่มีความดีความชอบ ทั้งยังเป็นพ่อม่าย บรรดาสกุลดีๆ จึงไม่กล้าให้บุตรสาวของตนแต่งเข้ามา สุดท้ายจึงเลือกคนที่ไม่ดีไม่แย่โดยแต่งกับบุตรสาวของขุนนางลำดับหลักขั้นเจ็ดตำแหน่งผู้รวมฎีกาแห่งกองอุทธรณ์ฎีกา ซ้ำยังมีเหตุมาจากที่คนสกุลสวีผู้นี้เป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของนายท่านผู้เฒ่าสกุลหลี่ และเคยติดหนี้บุญคุณนายท่านผู้เฒ่าสกุลหลี่มาก่อน

ทว่าสวีซื่อเองก็พึ่งพาได้ แต่งเข้ามาไม่ถึงสองปีก็คลอดลูกแฝดออกมาแล้ว ตอนนี้อายุได้เจ็ดขวบ ในบรรดาลูกหลานทั้งหมดนับเป็นลำดับที่สี่หลี่เหวยเหลียงกับลำดับที่ห้าหลี่หลิงเจียว

แน่นอนว่าลูกของภรรยาเอกจากบ้านใหญ่ย่อมเป็นเดือนในหมู่ดาว ดังนั้นนิสัยของเด็กทั้งสองจึงเย่อหยิ่งยโสเช่นกัน

หลี่เหวยเหลียงกับหลี่หลิงเจียวคารวะฮูหยินผู้เฒ่า ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเรียกท่านย่าเสียงหวานกันคนละคำ จากนั้นจึงก้าวกระโดดมาอยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่า

หลี่หลิงเจียวอายุน้อยกว่าหลี่หลิงหว่านเพียงปีเดียว ยามปกติก็ชอบแก่งแย่งสิ่งของทุกอย่างกับหลี่หลิงหว่านมากที่สุด ครั้งนี้เห็นหลี่หลิงหว่านได้นั่งข้างฮูหยินผู้เฒ่า นางก็เบียดก้นลงมานั่งแทรกคั่นกลางระหว่างหลี่หลิงหว่านกับฮูหยินผู้เฒ่า พอตนเองได้นั่งข้างฮูหยินผู้เฒ่าแล้วก็เงยหน้าหันไปยิ้มแย้มเอ่ยกับฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านย่าเจ้าขา เจียวเจียวไม่ได้เห็นท่านมาหลายวันแล้ว ท่านคิดถึงเจียวเจียวหรือไม่เจ้าคะ”

คิดถึงบ้าอะไร

หลี่หลิงหว่านนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก ในใจผุดความคิดขึ้นมา ท่านย่าของเจ้าให้ความสำคัญกับบุรุษมากกว่าสตรีไม่รู้หรือไร ท่านย่าของเจ้าไม่ชอบเด็กจองหองไม่รู้หรือไร คนเช่นเจ้ายังจะมากระพือเปลวเพลิงให้ลุกโหมขึ้นมาอีก หาเรื่องให้ถูกด่าเสียมากกว่ากระมัง

หากให้ถกกันอย่างจริงจังแล้ว ในบรรดาลูกหลานของสกุลหลี่ทั้งหมด คนที่เกิดมาจากภรรยาเอกไม่มีใครเลยสักคนที่ไม่ถูกนางวางให้มีนิสัยเย่อหยิ่ง ช่วยไม่ได้จริงๆ ใครใช้ให้นางเอกหลี่หลิงเยี่ยนกับตัวประกอบชายอันดับสองหลี่เหวยหยวนล้วนเป็นลูกอนุกันเล่า หากบุตรของภรรยาเอกไม่มีนิสัยเย่อหยิ่ง นางก็คงไม่มีหนทางจะสร้างเรื่องจากฐานะลูกอนุของนางเอกกับตัวประกอบชายอันดับสองขึ้นมาได้ เช่นนี้นางเอกกับตัวประกอบชายอันดับสองก็จะไม่มีความเข้าอกเข้าใจกัน สุดท้ายนางเอกก็ไม่สามารถกลายเป็นแสงอาทิตย์ในใจตัวประกอบชายอันดับสองได้

หลี่หลิงหว่านผู้มีฐานะเป็นหลานสาวคนโตซึ่งเกิดจากภรรยาเอกหลั่งน้ำตาเงียบๆ ในใจ รู้สึกว่าความรู้สึกของการกระโดดลงไปในหลุมที่ตนเป็นผู้ขุดเองนั้นราวกับมีม้าฝูงหนึ่งห้อตะบึงผ่านในอกไปอย่างรวดเร็ว

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ชอบใจการกระทำเช่นนี้ของหลี่หลิงเจียวดังคาด นางขมวดคิ้วน้อยๆ เอ่ยกับหลี่หลิงเจียว “เจ้าทำความเคารพพี่สามของเจ้าแล้วหรือยัง แล้วขึ้นมาเบียดพี่สามของเจ้าไปด้านข้างเช่นนี้ได้อย่างไร”

หลี่หลิงหว่านรีบแสดงความใจกว้างของตนเองออกมา “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านย่า น้องห้าอายุยังน้อย หลานในฐานะพี่สาวควรยอมให้นางอยู่แล้วเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าผงกศีรษะให้กับหลี่หลิงหว่านอย่างชื่นชม ก่อนจะขมวดคิ้วเอ่ยกับหลี่หลิงเจียวอย่างเย็นชา “เจ้าดูพี่สามของเจ้าสิ ทั้งที่โตกว่าเจ้าแค่ปีเดียวแต่กลับรู้ความกว่าเจ้ามากนัก”

“ข้าเห็นด้วยว่าหว่านเจี่ยเอ๋อร์รู้ความกว่าแต่ก่อนขึ้นเยอะจริงๆ เจ้าค่ะ” คนที่พูดประโยคนี้ขึ้นมาคือเฉียนซื่อจากบ้านรอง นางเป็นคนพูดเก่งคนหนึ่ง ในบรรดาสะใภ้ทั้งสามนางเป็นคนที่เอาอกเอาใจผู้อื่นเก่งที่สุดแล้ว “เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าหว่านเจี่ยเอ๋อร์ที่หกล้มไปหนหนึ่งกลายเป็นคนที่ภายนอกดูงดงาม ภายในก็ฉลาดเฉลียวขึ้นมาแล้ว”

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ชื่นชอบเฉียนซื่อเท่าไรนัก ในฐานะแม่สามีจะมีสักกี่คนกันที่ชื่นชอบสะใภ้ของตนเองจริงๆ ทว่าสกุลเดิมของเฉียนซื่อนั้นไม่เลวเลย บิดาเป็นถึงขุนนางลำดับหลักขั้นห้าตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายราชเลขาธิการของสำนักราชกิจ ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าจึงปฏิบัติต่อเฉียนซื่อค่อนข้างดี

ฮูหยินผู้เฒ่าผงกศีรษะให้กับสวีซื่อและเฉียนซื่อ จากนั้นจึงบอกให้พวกนางนั่งลง ก่อนจะให้สาวใช้ยกชาเข้ามา

ผู้ที่มาคารวะพร้อมกับบ้านรองเฉียนซื่อยังมีหลี่เหวยหลิงอายุสิบสองกับหลี่หลิงเจวียนอายุสี่ขวบด้วย หลี่เหวยหลิงเกิดจากเฉียนซื่อ ส่วนหลี่หลิงเจวียนเป็นลูกที่เกิดจากสาวใช้ห้องข้างผู้หนึ่ง

ทว่าในบรรดาลูกหลานทั้งหมด คนที่ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดปรานมากที่สุดก็คือหลี่เหวยหลิง

เด็กคนนี้เกิดมาหน้าตาหล่อเหลาหมดจด ทั้งอายุยังน้อยก็รู้หนังสือแล้ว กระทั่งอาจารย์ที่สอนสั่งเขายังพูดว่าเด็กคนนี้มีอนาคต

ฮูหยินผู้เฒ่าจึงรู้สึกว่าภารกิจในการนำความรุ่งโรจน์มาสู่สกุลหลี่นั้นไม่แน่อาจต้องตกลงบนตัวของหลี่เหวยหลิงแล้ว ยามนี้เมื่อได้เห็นหลี่เหวยหลิง นางจึงกวักมือเรียกเขาให้เข้ามาใกล้ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเมตตา เอ่ยถามเรื่องการเรียนของเขาในระยะนี้อย่างละเอียด

หลี่หลิงหว่านที่อยู่ด้านข้างฟังไปฟังมาก็รู้สึกเบื่อหน่าย นางจึงก้มหน้าลงพลางยื่นนิ้วออกมาเคาะลงบนฝาทองแดงฉลุลายดอกไม้ของเตาพกในมือตนเองโดยไม่รู้ตัว

ผ่านไปเช่นนี้สักพักนางก็ได้ยินสาวใช้ข้างนอกเอ่ยรายงานว่าคุณชายใหญ่มาคารวะฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว

หลี่เหวยหยวน?!

หลี่หลิงหว่านสั่นสะท้านไปทั้งร่าง นางรีบร้อนเงยหน้ามองไปทางเขา

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 มิ.ย. 62

6 of 6หน้าถัดไป

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com