บทที่ 12 คำสั่งเสียงของจิ่งเลวี่ย
มู่เฉินฟื้นขึ้นมา รู้สึกว่าศีรษะกับบ่าเจ็บอยู่บ้าง นางนวดคอแล้วลุกขึ้นนั่ง พบว่าตนเองอยู่ในห้องของตนในจวนของมู่หรงชง
เสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก คล้ายกังวลว่านางจะยังไม่ฟื้นจึงเจตนาเบาเสียงลง นางลุกขึ้นยืนก่อนเดินไปเปิดประตู
พอเห็นว่าเป็นมู่หรงชงกับมู่หรงหย่งนางก็กระอักกระอ่วนอยู่สักหน่อย ยกมือกระชับเสื้อที่ยับยุ่งให้มิดชิดก่อนว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ไยข้าจึงสลบไป”
มู่หรงชงตอบ “เวลานั้นสถานการณ์อันตราย ดีที่พวกอาหย่งมาได้ทันกาล เจ้าไม่เป็นไรก็ดี ข้านัดกับฉงเหอโหวแล้ว วันพรุ่งนี้เขาจะจัดงานเลี้ยง พวกเราไปด้วยกัน”
มู่เฉินพูดด้วยความดีใจอย่างมาก “ข้าจะได้พบอวิ่นจือแล้วใช่หรือไม่”
มู่หรงชงตอบ “ข้าจะคิดหาทางทำให้พวกเจ้าได้พบกันตามลำพังให้ได้”
“ขอบคุณเฟิ่งหวงมาก!”
“ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราเองก็นับว่าร่วมเป็นร่วมตายกันมาแล้ว” มู่หรงชงยิ้มบางๆ วางแผนว่า “ข้าอยู่ที่ฉางอันนานไม่ได้ คิดจะกลับผิงหยางในสองสามวันนี้ หลังเจ้ากับน้องสาวได้พบปะพูดคุยกันแล้วก็ให้พานางไปกับข้าด้วย”
“หวังว่าจะได้ทำเช่นนั้น”
“หนานเหยา…” มู่หรงชงทวนชื่อนี้เบาๆ “ข้าส่งคนไปถามหาตามที่ต่างๆ แล้ว มีข่าวเมื่อใดจะบอกให้รู้ทันที”
“ดี” มู่เฉินตอบรับเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด “เฟิ่งหวง ท่านจำได้หรือไม่ ขณะฝูฮุยจะฆ่าพวกเราได้พูดอะไรแปลกๆ อยู่ประโยคหนึ่ง”
“พูดอะไรแปลกๆ?”
“มีคนต้องการชีวิตของพวกเจ้าทั้งสองคน”
มู่หรงชงสูดหายใจเข้าลึก “ฝูฮุยต้องการฆ่าข้านั้นเข้าใจได้ แต่ใครต้องการฆ่าเจ้ากันเล่า”
มู่เฉินพยักหน้า “ผู้ที่ต้องการฆ่าพวกเราอย่างแท้จริงเป็นคนคนเดียวกัน”
มู่หรงชงนึกดูอีกทีก่อนเอ่ยว่า “หวังเหมิ่ง?”
“ท่านมาฉางอันนานปานนี้แล้วเขายังไม่ได้มาหาเรื่องท่าน ท่านไม่รู้สึกว่าแปลกหรือ เดิมทีข้าก็ไม่ได้นึกถึงจุดนี้ แต่ฝูฮุยพูดเช่นนั้นข้าจึงพลันกระจ่าง แม้แต่ข้าหวังเหมิ่งยังไม่ปล่อยไป นับประสาอะไรกับท่าน”
ครั้นมู่เฉินพูดเช่นนี้มู่หรงชงก็อดจะสันหลังเย็นวาบไม่ได้ “เช่นนี้หมายความว่าพวกเราต้องทำการป้องกันโดยเร็ว…”
“ไม่ ไม่เพียงพวกเรา แต่เป็นทั้งสกุลมู่หรง”
หลังออกจากห้องของมู่เฉิน มู่หรงชงเดินอยู่บนทางเล็กในจวน มู่หรงหย่งที่ตามติดอยู่ด้านหลังก็พึมพำขึ้นเบาๆ “นายท่าน ลูกไม้ในวันนี้ใช้ได้ดีโดยแท้ ทั้งได้รับความเชื่อใจจากแม่นางมู่ ทั้งได้ลูบคมฝูฮุย น่าเสียดายก็ตรงที่มีองค์หญิงโผล่มากะทันหัน ทำให้เขาเก็บชีวิตกลับมาได้”
มู่หรงชงเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้าโดยมิได้ตอบอะไร
มู่หรงหย่งพูดต่อ “แต่นายท่านยังคงเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว แค่แสดงละครให้แม่นางมู่ดู ท่านถึงกับคิดจะต้านทานอาวุธแทนนางจริงๆ ดีที่…”
มู่หรงชงพลันหยุดฝีเท้า มู่หรงหย่งไม่ทันตอบสนองจึงหวิดจะชนผู้เป็นนายเข้า
“นายท่าน?”
มู่หรงชงยืนเหม่ออยู่ชั่วประเดี๋ยว ก่อนจะหลุดวาจาที่ทำให้มู่หรงหย่งต้องครุ่นคิดอยู่เป็นนานออกมา “ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่านางจะวกกลับมาอีก”
การกระทำยามเผชิญอันตรายเมื่อวานนี้ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดจากสาเหตุใด ส่วนเรื่องที่มู่เฉินไปแล้ววกกลับมาใหม่เขายิ่งไม่อยากจะขบคิดถึงอีก
เดิมทีทั้งสองฝ่ายต่างใช้ประโยชน์จากกันและกันเท่านั้นเอง
เขาคาดไว้มิผิด มู่เฉินสามารถทำหลายเรื่องให้เขาได้จริงๆ หากมิใช่เพราะคำเตือนของนางไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าอันที่จริงหวังเหมิ่งจับจ้องทั้งสกุลมู่หรงอย่างลับๆ มาโดยตลอด…