ในตำหนักเว่ยยาง ฝูเจียนตาแดง เดินเข้าห้องนอนของตนเองด้วยอารมณ์อันหนักอึ้ง พวกซ่งหยาเดินตามหลังเขาเงียบๆ ไม่กล้าหายใจเสียงดัง
ฝูเจียนพลันหยุดลงแล้วถามขึ้นว่า “ทางด้านโต้วชงเป็นอย่างไร”
ซ่งหยาตอบตัวสั่นงันงก “ยังไม่มีข่าวมาพ่ะย่ะค่ะ”
“พอเขากลับมา แจ้งให้มาพบเราทันที” ฝูเจียนบอก ก่อนจะพึมพำคล้ายพูดกับตนเองว่า “เหตุใดก่อนข้ามีคำสั่งเขาก็รู้แล้วว่าจะเกิดเรื่องกับสกุลมู่หรง”
ซ่งหยาจึงว่า “ฝ่าบาท นี่ก็เป็นเรื่องดีนะพ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพโต้วไม่ทันกราบทูลรายงานก็ด้วยรีบร้อนไปช่วยคุณชายเฟิ่งหวง เขารู้ว่าพระองค์ไม่มีพระราชประสงค์จะเห็นคุณชายเป็นอะไรไป…”
วันนี้มิใช่วันที่โต้วชงเข้าเวรจึงมิได้ตามฝูเจียนไปจวนอัครเสนาบดีหวัง ซ่งหยาคิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่งจะเข้าจวนหวังเหมิ่งก็มีขันทีลอบมารายงานทันทีว่าอัครเสนาบดีหวังต้องการสังหารมู่หรงชง โต้วชงพากองราชองครักษ์มุ่งหน้าไปช่วยแล้ว ซ่งหยายังนึกว่าตนเองฟังผิดไป นี่นับเป็นเรื่องอะไรกัน! ทั้งที่อัครเสนาบดีหวังกำลังสนทนากับฝ่าบาทอยู่ที่ด้านในอยู่เลย!
ใครเลยจะรู้ว่าเพียงครู่เดียวก็มีข่าวอัครเสนาบดีหวังสิ้นใจแพร่ออกมา ส่วนคำแรกที่ฝูเจียนพูดกับเขาหลังออกมาก็คือ ‘ให้โต้วชงไปช่วยเฟิ่งหวงออกจากจวนฝูหมัว เร็วเข้า!’
ซ่งหยาตระหนกตกใจในทันใด นี่แม่ทัพน้อยโต้วมีความสามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อใด
บัดนี้ซ่งหยากำลังเค้นสมองเพื่ออธิบาย ไม่คาดว่าระหว่างทางจู่ๆ จะมีคนผู้หนึ่งถลันมาคุกเข่าเบื้องหน้าเขา “เสด็จพ่อ!”
ฝูเจียนเห็นว่าเป็นฝูเป่าก็ถามว่า “อาเป่า เจ้าดึกดื่นไม่หลับไม่นอน มาที่นี่ด้วยเหตุใด”
ฝูเป่ายังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น เงยหน้าขึ้นถามว่า “เสด็จพ่อ ท่านทรงปล่อยมู่หรงชงไปเถิด! ตราบใดที่เขาอยู่ฉางอันก็ต้องเป็นกังวลต่อชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้”
ฝูเจียนมีโทสะเล็กๆ “เป็นหวั่นเอ๋อร์บอกเจ้า?”
ฝูเป่าส่ายหน้า “นี่ไม่สำคัญเพคะ”
“เช่นนั้นอะไรถึงสำคัญ”
ซ่งหยาที่ยืนอยู่ข้างหลังฝูเจียนพยายามส่งสัญญาณมือสุดชีวิต แต่ฝูเป่าทำเมิน “ข้าอยากแต่งงานกับมู่หรงชง ไปอยู่ผิงหยางกับเขา”
ฝูเจียนสีหน้าเข้มขึ้นก่อนกล่าวว่า “ข้าเตรียมการให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว ปีหน้าเข้าพิธีแต่งงานกับหยางติ้ง”
“ไม่!” ฝูเป่ายืนกรานเด็ดเดี่ยว “ถึงตายข้าก็จะไม่แต่งงานกับผู้อื่น!”
“เจ้าปฏิเสธไม่ได้!” ฝูเจียนพูดจบด้วยสีหน้าเยียบเย็นก็เดินอ้อมผ่านฝูเป่าไปโดยไม่พูดอะไรให้มากความอีก
ฝูเป่าพลันส่งเสียงขึ้นว่า “ท่านไม่แยแสเลยใช่หรือไม่ ข้าไม่เคยเป็นบุตรสาวของท่าน เป็นเพียงเครื่องมือไว้ให้ท่านมัดใจผู้ใต้บังคับบัญชา!”
ฝีเท้าฝูเจียนหยุดชะงัก “เจ้าพูดอีกรอบซิ”
ฝูเป่ายืดอกพูดว่า “ข้ารู้หมดแล้ว ท่านจะตอบหรือไม่ตอบก็ล้วนเหมือนกัน คือไม่ยอมให้ข้าขัดขืนแม้แต่น้อย”
ฝูเจียนมองนาง รู้สึกเพียงไร้เรี่ยวแรง อีกทั้งเดือดดาล เขามีบุตรสาวเพียงสองคน ให้ความโปรดปรานมาตั้งแต่เล็กจนโต บัดนี้ฝูเป่าถึงขั้นมาต่อรองกับเขาแล้ว ซ้ำยังกล้าใช้ความตายมาบีบบังคับ! ตาย…แม้แต่หวังเหมิ่งที่เขาพึ่งพาและไว้วางใจที่สุดก็ตายไปแล้ว นางถึงกับกล้าพูดคำนี้ต่อหน้าเขา!
“เว้นแต่เจ้าจะตายจริงๆ มิเช่นนั้นก็รอแต่งงานกับหยางติ้งได้เลย!” ฝูเจียนพูดจบก็เดินหน้าต่อโดยไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามอง
ฝูเป่าที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นคล้ายจะอึ้งตะลึงไปแล้ว