ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน ม้วนที่ 2 บทที่ 1-2 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน ม้วนที่ 2 บทที่ 1-2

ระหว่างทางกลับพวกเขาผ่านตลาดแห่งนั้นอีกครั้ง คนมีจำนวนมากกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก เป็นเหตุให้รถม้าแล่นได้ช้าลง

มู่หรงชงเอ่ยถาม “อาเฉิน ตามความเห็นของเจ้า ต่อไปพวกเราควรทำอะไร”

มู่เฉินตอบ “ทหารหาญ แม่ทัพเก่ง ยุทโธปกรณ์ เสบียง…รวมถึงชื่อเสียงส่วนตัวของท่าน”

มู่หรงชงกล่าว “ฝูเจียนหละหลวมต่อทางนี้ยิ่ง หากพวกเราวางแผนและเตรียมการอย่างลับๆ เขาน่าจะไม่ค้นพบ”

มู่เฉินเอ่ยว่า “ทหารหาญฝึกยาก แม่ทัพเก่งยากจะได้ตัวมา อีกประการหนึ่งบัดนี้ในมือท่านไม่มีกำลังทหารใดๆ เริ่มตั้งแต่ต้นอย่างน้อยต้องใช้เวลาสามปี รับรองได้หรือไม่ว่าจะไม่ถูกค้นพบ”

“ได้” มู่หรงชงตอบยิ้มๆ “พี่หงขนานนามเมืองผิงหยางว่าเมืองแห่งอิสระ ไม่เพียงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ดี ยังเป็นเพราะว่ามีคนแปลกคนพิเศษผ่านไปมามากยิ่ง…”

มู่หรงชงกำลังพูดก็พลันมีเสียงเอ็ดตะโรร้องห่มร้องไห้ดังมาจากด้านนอก ตามติดมาด้วยเสียงดังโครมและเสียงกรีดร้อง ก่อนจะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นท่ามกลางฝูงชน

มู่เฉินแหวกม่านออกดู หน้าเปลี่ยนสีทันควัน แล้วพูดด้วยอารามตะลึงพรึงเพริด “นี่ก็ออกจะ…อิสระเกินไป”

นางพูดจบก็ปล่อยม่านลง รีบกระโดดลงจากรถม้า

มู่หรงชงตามหลังไปติดๆ

ในตลาดชายฉกรรจ์ร่างอ้วนผู้หนึ่งที่ท่อนบนเปลือยเปล่าชี้ศพสตรีบนพื้นที่เพิ่งวิ่งชนกำแพงตายพลางกล่าว “นางตายแล้วอย่างไร เงินที่ติดข้าก็ยังไม่คืนเหมือนเดิม! มีใครต้องการซื้อนางเด็กสองคนนี้หรือไม่”

ศพสตรียังคงอุ่นอยู่ เด็กสาวอายุสิบกว่าปีสองคนกอดนางไว้หนึ่งซ้ายหนึ่งขวาพลางร้องเรียก “ท่านแม่”

คนทั้งหลายพากันติเตียนเจ้าอ้วนที่ทำให้คนตาย แต่เขากลับพูดด้วยท่าทางเหมือนบอกว่าติดหนี้แล้วใช้คืนเป็นเรื่องสมควรแล้ว “ไม่มีใครซื้อ ข้าก็จะไปขายให้หอบุปผชาติแล้ว!” พูดพลางย่อตัวลงบีบคางเด็กสาวคนหนึ่ง “นางเด็กนี่หน้าตาดีเสียจริง น่าจะขายได้เงินไม่น้อยทีเดียว!”

เด็กสาวหายตกใจแล้วก็พลันกัดมือเจ้าอ้วน

“อ๊าก!” เจ้าอ้วนร้องด้วยความเจ็บ สะบัดมือตบหน้าเด็กสาวอย่างแรง “นางเด็กหน้าเหม็น! รนหาที่ตาย!”

เขากำลังคิดจะยกเท้าถีบ มู่เฉินก็มองมู่หรงหย่ง

มู่หรงหย่งเข้าใจ ใช้ฝักกระบี่ฟาดไปที่ขาของเจ้าอ้วน

ชายฉกรรจ์ร่างอ้วนเจ็บ พูดด้วยอารามเดือดดาลจัด “ใครบังอาจมายุ่งเรื่องของข้า!”

มู่หรงหย่งตอบ “นายท่านของข้ามีฐานะสูงส่ง กะพริบตาทีเดียวก็ใช้ห้าม้าแยกร่างเจ้าได้แล้ว เจ้าว่ายุ่งได้หรือไม่เล่า”

เจ้าอ้วนผู้นั้นมองมู่หรงชงปราดหนึ่ง เห็นเขาแต่งกายหรูหราไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปก็มีท่าทีอ่อนลงมากในทันที พูดเสียงอ่อนว่า “ติดหนี้แล้วใช้คืนมิใช่เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไร นางติดหนี้ข้าเป็นเงินสิบสองจู ตายไปเยี่ยงนี้แล้วข้าจะไปทวงกับผู้ใด”

มู่เฉินจึงว่า “เจ้าบีบคั้นคนจนตายแล้ว ยังจะหน้าหนาไร้ยางอายปานนี้อีก?!”

เด็กสาวที่ถูกตบเมื่อครู่นี้มองออกว่าคนไม่กี่คนนี้สามารถช่วยตนเองได้ ด้วยกลัวจะพลาดโอกาสนี้ไป เห็นมู่หรงชงมีท่าทางไม่สามัญนางจึงคลานเข่าไปจับชุดของเขาไว้แล้วพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณชายได้โปรดช่วยพวกข้าด้วย! น้องสาวข้าไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว คุณชายได้โปรดช่วยนางด้วย! ข้ายอมเป็นวัวเป็นม้ารับใช้ท่าน!”

มู่เฉินเห็นมู่หรงชงมองมือเล็กสกปรกของเด็กสาวนางนั้นพลางเริ่มมุ่นคิ้ว

นางกลัวว่าเขาจะรังเกียจ กำลังคิดจะก้าวไปอุ้มเด็กสาวออก ไม่คาดว่ามู่หรงชงกลับยื่นมือไปลูบศีรษะเด็กสาว แม้หัวคิ้วยังมุ่นอยู่ แต่มิได้แสดงท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์

มู่เฉินโล่งใจก่อนเดินไปประคองเด็กสาวอีกคนให้ลุกขึ้น

มู่หรงชงออกคำสั่ง “ใช้เงินคืนแล้วพาคนไป”

มู่หรงหย่งตอบ “ขอรับ!”

มู่หรงชงพูดจบก็จูงเด็กทั้งสองเดินตามกันกลับรถม้า

มู่หรงหย่งหยิบเงินจำนวนสิบสองจูออกมาให้เจ้าอ้วน เจ้าอ้วนรับไปด้วยหน้าตาเบิกบาน ไม่คาดว่าเขาเพิ่งจะเก็บเงินเรียบร้อยกระบี่ของมู่หรงหย่งก็พาดอยู่บนคอเขาแล้ว

เจ้าอ้วนหดคอพลางถามอย่างตกประหม่า “เจ้า…เจ้าทำอะไร มิใช่ใช้หนี้หมดสิ้นกันแล้วหรือ”

มู่หรงหย่งตอบ “เรื่องเงินจบแล้ว แต่เรื่องชีวิตคนยังไม่หายกัน เจ้านายของข้าบอกไว้ชัดเจนยิ่ง ‘ใช้เงินคืนแล้วพาคนไป’ ”

เจ้าอ้วนพูดด้วยท่าทางประหม่า “คน?…คนเขาก็พาไปแล้วนี่”

“เขาหมายถึงเจ้า”

“ข้า? เจ้าจะพาข้าไปที่ใด”

“แน่นอนว่าเป็นที่ว่าการ” มู่หรงหย่งมองเขายิ้มๆ “ตามกฎหมายผู้ที่สังหารคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต”

 

มู่หรงชงและมู่เฉินพาเด็กทั้งสองกลับถึงจวน ชุนหยาให้พวกนางกินอาหาร หลังจากนั้นถึงล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ต่อมาก็ให้มู่หรงหย่งพาไปนอกเมืองเพื่อฝังมารดาของพวกนาง

ขณะกลับมาเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว มู่เฉินเห็นแก่ที่พวกนางยังอายุน้อย ทั้งยังได้รับความตกใจ จึงให้ชุนหยาจัดการให้พวกนางพักอยู่ในเรือนของตนเอง

มู่หรงชงกล่าวยิ้มๆ “พาพวกนางกลับมา เดิมคิดว่าจะมีคนมาปรนนิบัติเจ้าเพิ่มสองคน กลับกลายเป็นว่าต้องมาดูแลพวกนางแทน”

มู่เฉินมองพวกนางพลางถาม “พวกเจ้ามีนามว่าอะไร”

เด็กสาวที่อายุมากกว่าตอบอย่างขลาดกลัว “ข้ามีนามว่าเซวียจิ่นเหยียน น้องสาวมีนามว่าเซวียเซิ่นสิง ท่านพ่อของพวกเราเป็นบัณฑิต เนื่องจากเขาป่วยหนัก ท่านแม่ถึงได้ไปยืมเงิน” นางรีบพิสูจน์ตัวว่าพวกนางสองพี่น้องมาจากครอบครัวบริสุทธิ์จริงๆ

มู่หรงชงกล่าว “ระวังวาจาระวังกิริยาเป็นชื่อที่ดี”

เซวียจิ่นเหยียนเงยหน้ามองมู่หรงชงพลางว่า “ท่านพ่อเคยบอกว่ารูปโฉมภายนอกเป็นผลมาจากจิตใจ ท่านเจ้าเมืองหน้าตาน่ามองเพียงนี้จะต้องเป็นคนดีมากแน่นอน”

มู่หรงชงไม่ชอบให้ผู้อื่นวิพากษ์วิจารณ์รูปโฉมของเขาเสมอมา แต่เซวียจิ่นเหยียนพูดได้มีจังหวะจะโคน ท่าทางจริงจังยิ่งยวด ทำให้เขาถึงกับไร้วาจาจะโต้ตอบ

มู่เฉินพลันหัวเราะออกมา

เซวียเซิ่นสิงที่ยืนอยู่ด้านหลังพี่สาวมาโดยตลอดมองมู่หรงชงก่อนมองมู่เฉิน แล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงเล็กว่า “พวกเราจะไม่ถูกขายไปหอบุปผชาติแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ”

มู่เฉินหยอกพวกนาง “จวนเจ้าเมืองยังไม่ได้ขาดแคลนเงินถึงเพียงนั้น วันใดไม่มีจะกินแล้วค่อยพิจารณาว่าจะขายพวกเจ้าดีหรือไม่” ว่าแล้วก็หันไปถามมู่หรงชง “หอบุปผชาติคือสถานที่ใดหรือ”

มู่หรงชงตอบ “หอคณิกา หากสนใจวันหน้าจะพาเจ้าไปดู”

มู่เฉินเข้าใจในทันทีจึงไม่ถามให้มากความอีก สถานที่แห่งนั้นเป็นที่ที่สตรีไปได้เสียที่ใดกัน

เซวียจิ่นเหยียนและเซวียเซิ่นสิงมองกันและกันแล้วก็ไม่มีสิ่งใดจะกล่าวเช่นกัน

นับแต่บัดนี้จวนเจ้าเมืองผิงหยางก็มีเด็กที่ตั้งจิตอธิษฐานทุกวันเพิ่มมาสองคน

หวังให้ท่านเจ้าเมืองที่มีหน้าตาน่ามองยิ่งยวดผู้นี้นับวันยิ่งมีเงิน ทางที่ดีต้องร่ำรวยล้นฟ้า เช่นนี้พวกข้าจะได้ไม่ต้องถูกขายทิ้งไป…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเองฮึกเหิมแล้วไปล้างปล...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูดนี้พอออกมาจากปากบุตร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถสปอร์ตออกไปจากโรงจอด...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดพร้อมกับเจิงฝาน ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 31

    By

    บทที่ 31 เสี่ยงตายป้องกันเมือง   ภายในวังหลวง ซุ่นฮ่องเต้ยังคงไม่เข้าประชุมราชสำนัก เพียงอ่านเอกสารที่ราชเลขาธิการนำถวายอยู่บนเตียง แม้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 30

    By

    บทที่ 30 สหายสนิทมาเยือน   หลังเดินออกนอกประตูมาเฮ่อหลันฉือก็บีบนวดไหล่แล้วเอ่ยถามลู่อู๋โยว “คิดจะทำเช่นไรต่อ” “กินน้ำแกงโบราณ หม้อทองเ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 29

    By

    บทที่ 29 จัดระบบระเบียบ   ถึงแม้จะซ่อมเสร็จแล้ว เฮ่อหลันฉือก็ไม่อยากทรมานเตียงหลังนั้นอีก ทุกครั้งที่นอนลงไปยังรู้สึกกลัวว่ามันจะพังลงม...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

กระบี่โอบจันทรา

ทดลองอ่าน กระบี่โอบจันทรา บทที่ 1

บทที่ 1 ฆ่าข้าที   ผืนนภากระจ่างใส ลมรำเพย ทุ่งหิมะขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา บนถนนหลวงสายกว้างอยู่ในพื้นที่เมืองหนานโจว ขบวนร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

กระบี่โอบจันทรา

ทดลองอ่าน กระบี่โอบจันทรา บทที่ 2

บทที่ 2 ผีเสื้อทอง   เจ๋อจู๋นึกว่าตัวเองหูฝาด ความตกตะลึงสะท้อนออกมาทางสีหน้า “หายากนะ...เจ้าซื้อตัวข้า” เขาโยนเครื่องปร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

community.jamsai.com