ฝูเป่าพักอาศัยในจวนเจ้าเมือง
นางเริ่มใช้ชีวิตที่แตกต่างยิ่งยวดจากสมัยก่อนในสถานที่ที่ห่างไกลจากเมืองหลวงแห่งนี้ ขณะอยู่ที่ตำหนักเว่ยยางนางอยู่ดีกินดี มีคนปรนนิบัติเป็นโขยง แต่มีอิสระน้อยกว่าปัจจุบันนี้มากโข อยากจะสวมใส่สิ่งใดก็สวมใส่สิ่งนั้น อยากไปตลาดก็ไปตลาด ที่สำคัญที่สุดคืออยากพบพี่เฟิ่งก็สามารถพบเขาได้ทันที
ตัวอย่างเช่นวันนี้ นางมองเห็นนอกระเบียงเริ่มมีหิมะของฤดูหนาวตกลงมาแล้วจึงวิ่งเป็นระยะทางเล็กๆ ไปยังห้องหนังสือของมู่หรงชงด้วยความดีใจ อยากจะชมหิมะด้วยกันกับเขา
นางเพิ่งจะมาถึงในลานเรือนก็มองเห็นมู่หรงชงกับมู่เฉินนั่งยองๆ หันหน้าเข้าหากันอยู่ที่ระเบียงทางเดิน กำลังดูบางอย่างบนพื้น
เมื่อเดินไปใกล้ถึงได้เห็นชัดว่าเป็นพิราบขาวตัวหนึ่ง คล้ายมันจะได้รับบาดเจ็บ กระพือปีกอยู่บนพื้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็บินไม่ขึ้น
พวกเขาจดจ่อเกินไปจนไม่รู้สึกตัวถึงการมาของฝูเป่าโดยสิ้นเชิง
นี่เป็นภาพที่รบกวนไม่ลง บุรุษผู้มีรูปโฉมคล้ายน้ำแข็งสลักหยกเจียระไน สตรีผู้กำลังแย้มยิ้มบางๆ อย่างอ่อนโยน ทั้งสองก้มหน้าลูบพิราบขาวที่ยังเยาว์วัยตัวนั้น
หิมะนอกระเบียงค่อยๆ ตกหนักขึ้น ปกคลุมพื้นดินอย่างเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง
กว่าคนทั้งสองจะพันแผลให้พิราบขาวน้อยเสร็จแล้วมู่เฉินอุ้มมันลุกขึ้นยืน ฝูเป่าก็แทบจะยืนจนกลายเป็นมนุษย์หิมะอยู่ที่ด้านนอกแล้ว
มู่หรงชงตกใจ “อาเป่า เจ้ามาตั้งแต่เมื่อใด”
ฝูเป่าน้ำตาคลอ ยู่ปากอย่างโมโหโกรธา “ข้าจะแข็งตายอยู่แล้ว!”
มู่เฉินยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ข้าอุ้มมันกลับไปก่อน”
“เดี๋ยวก่อน” มู่หรงชงเรียกนางไว้ ก่อนไปหยิบเสื้อคลุมกันลมออกมาจากห้องหนังสือแล้วนำมาห่อตัวมู่เฉินไว้
ฝูเป่าเห็นมู่เฉินเดินไปไกลแล้วก็จ้องมู่หรงชง เป็นนานกว่าจะเค้นออกมาได้ประโยคหนึ่ง “หากท่านชอบนางถึงเพียงนั้นจริงก็รับนางเป็นอนุเสียสิ”
มู่หรงชงเบิกตาโต
ฝูเป่าพูดต่อว่า “แต่ภรรยาเอกต้องเป็นข้าเท่านั้น พี่เฟิ่ง ข้าสละทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉางอันแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ ท่านห้ามทรยศข้า”
มู่หรงชงถอยหลังสองก้าวด้วยความตกใจ “หากให้ข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีกจะให้อาหย่งส่งเจ้ากลับไปทันที”
ฝูเป่ามองใบหน้าบึ้งตึงและท่าทางเย็นชาของมู่หรงชง น้ำตาก็ไหลพรากลงมาเป็นสายทันที ก่อนพูดอย่างดื้อรั้น “ต้องมีสักวันที่ท่านจะรับปาก!”
มู่หรงชงมิได้ไยดี เขาหันหลังเดินไปยังห้องหนังสือ
เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดฝูฮุยกับจิ่งสิงถึงได้ชอบเด็กสาวเยี่ยงนี้ ทั้งๆ ที่ยากจะหาข้อดีจากตัวนางได้ หากเทียบกับมู่เฉิน…เขาพลันหยุดคิด เหตุใดข้าต้องนำพวกนางสองคนมาเปรียบเทียบกันด้วย
จวนแห่งนี้ไม่ได้บูรณะมาหลายปีแล้ว ประตูไม้ของห้องหนังสือมีลมลอดผ่านอยู่บ้าง เขาฟังเสียงกระทบอันแผ่วเบาพลางนึกถึงคำแนะนำของมู่เฉินเมื่อครู่นี้ รอฤดูหนาวผ่านไปแล้วจะเริ่มซ่อมแซมจวนเจ้าเมืองนี้ใหม่…นับตั้งแต่จากวังหลวงที่เมืองเยี่ยเฉิงมาเขาก็มิได้ใส่ใจเรื่องที่พักอาศัยเสียเท่าไร ทว่าบัดนี้จู่ๆ ก็เฝ้ารอที่จะได้บูรณะ
บนมือยังมีขนของพิราบขาวตัวนั้นติดอยู่ เขาเป่าเบาๆ ขนก็ร่วงลงพื้น
นอกห้องหิมะตกหนักขึ้นทุกที
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 5 ก.ค. 67