ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน บทที่ 9-11 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน บทที่ 9-11

บทที่ 10 ล่าสัตว์ที่ซั่งหลิน

อุทยานซั่งหลินเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในสมัยราชวงศ์ฮั่น ในยามที่รุ่งโรจน์มีพื้นที่ถึงสามร้อยหลี่ มีแม่น้ำจิงเหอและแม่น้ำเว่ยเหอไหลผ่าน มีตำหนักและสระน้ำอยู่ทั่วพื้นที่ ต่อมาหลังผ่านเหตุการณ์หวังหมั่ง ครองอำนาจและไฟสงครามกองทัพชื่อเหมย ที่นี่ก็แทบจะถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง

ปัจจุบันมีแต่ความชำรุดทรุดโทรม หญ้าขึ้นรกราวกับจะขึ้นไปจรดขอบฟ้า กลายเป็นสถานที่รกร้างไปแล้ว

หลังงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของฝูเจียน ข่าวว่าเขาจะไปล่าสัตว์ที่อุทยานซั่งหลินแพร่ออกไปก็มีผู้ติดตามเป็นพรวนในทันที ล้วนแต่อยากไปเป็นเพื่อนฮ่องเต้กันทั้งนั้น ฝูเจียนอารมณ์ดีมาก สุดท้ายก็ให้คนจำนวนมากเดินทางไปด้วยกัน คนในรุ่นเดียวกับฝูเจียนมีหยางผิงกงฝูหรงและฉงเหอโหวฝูหมัว รุ่นลูกมีฝูฮุย ฝูหง ฝูรุ่ย และฝูเป่า ขุนนางต่างเผ่ามีเสนาบดีเซียนเปยมู่หรงเหว่ย เจ้าเมืองนครหลวงมู่หรงฉุย เสนาธิการแดนเหนือมู่หรงหง เจ้าเมืองผิงหยางมู่หรงชง แม่ทัพหยางอู่แห่งเผ่าเชียงเหยาฉาง และนายทหารแห่งโฉวฉือหยางติ้ง

เดือนเจ็ด ฤดูกาลแห่งการเติบโต ต้นไม้เขียวให้ร่มเงา

มู่เฉินติดตามมู่หรงชงมาถึงอุทยานซั่งหลิน นางเห็นคนทั้งหลายแบ่งกันยืนเป็นสองสามแถว บุรุษแต่ละคนสวมชุดเกราะเบา ในมือกุมอาวุธล่าสัตว์ไว้

มู่หรงชงสวมชุดนอกตัวยาวสีขนอีกา สวมหมวกปีกนก ใบหน้าเนียนเกลี้ยงเกลาประดุจหยก แขนเสื้อปลิวไสว รูปโฉมงามล่มเมือง

สายตาของฝูเจียนหยุดอยู่ที่ร่างมู่หรงชงชั่วประเดี๋ยวก่อนจะเลื่อนมาอยู่ที่มู่เฉิน มู่เฉินก้มหน้าลงหลบสายตาของเขา

ฝูฮุยเดินผ่านข้างกายมู่หรงชง แค่นหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง “บุรุษรูปโฉมเหมือนสตรี ปีศาจยั่วยวนเจ้านาย!”

มู่หรงชงมิได้สนใจ ยืนอยู่กับที่ราวกับว่าไม่ได้ยิน

เสียงแหลมๆ ของซ่งหยาเริ่มป่าวประกาศกฎในการล่าสัตว์ “ฝ่าบาทมีรับสั่ง แข่งขันโดยการแบ่งกลุ่ม ตรงนี้มีกระดาษที่เขียนนามของใต้เท้าแต่ละท่านไว้ ใช้การจับสลากกำหนดกลุ่ม เมื่อถึงยามโหย่ว* ให้กลับมาที่นี่ กำหนดแพ้ชนะโดยพิจารณาจากจำนวนและขนาดของสัตว์ที่ล่าได้”

คนทั้งหลายเริ่มจับสลาก

ผลลัพธ์สุดท้ายคือมู่หรงชง ฝูฮุย และเหยาฉางอยู่กลุ่มเดียวกัน มู่หรงหง ฝูหมัว และฝูหงอยู่กลุ่มเดียวกัน…

ฝูเป่ามองกระดาษในมือ โมโหจนถามซ่งหยาเสียงต่ำ “มิใช่ให้เจ้าจัดข้าไว้ในกลุ่มของพี่เฟิ่งหรือไร เหตุใดจึงเป็นมู่หรงฉุยกับหยางติ้ง”

ซ่งหยายิ้มปะเหลาะ “องค์หญิง เรื่องจับสลากนี้…เล่นเล่ห์ได้ยากยิ่ง ยิ่งกว่านั้นกลุ่มนี้ของท่านก็เป็นพระราชประสงค์ของฝ่าบาท”

คิ้วเรียวของฝูเป่าชี้ชัน “เจ้าพูดเช่นนี้ คอยดูเถอะว่ากลับไปแล้วข้าจะจัดการเจ้าเยี่ยงไร!”

ซ่งหยาค้อมตัวเอ่ย “องค์หญิงทรงไว้ชีวิตด้วย นี่เป็นพระราชประสงค์ของฝ่าบาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ…”

“เสด็จพ่อทรงหวังให้ข้าแต่งงานกับหยางติ้ง?” ฝูเป่าแค่นเสียงเย็น “ข้าไม่ยอมให้เขาสมปรารถนาหรอก!”

ฝูเป่าพูดจบก็กระโดดขึ้นหลังม้า

มู่เฉินในฐานะผู้ติดตามของมู่หรงชงจะได้ขี่ลูกม้าสีแดงพุทรา นางเพิ่งจะมาถึงม้า กลับได้ยินเสียงอุทานดังขึ้นด้านข้าง นางหันหน้าไปก็มองเห็นเพียงในหมู่ผู้ติดตามของฝูหมัวมีสตรีนางหนึ่งกำลังตกลงจากหลังม้า!

มู่เฉินไม่ทันได้คิดมากพุ่งตัวไปคิดจะรับคน

ทว่าฝูหมัวเร็วกว่านางก้าวหนึ่ง เขาโอบสตรีนางนั้นเข้าอ้อมแขนแล้ว

มู่เฉินสัมผัสถูกเพียงมือนาง แม้จะเพียงชั่วพริบตาเดียว แต่นางมองเห็นว่าบนข้อมือบางนั้นมีรอยแผลเป็นจางๆ อยู่หนึ่งรอย มู่เฉินใจลอยไปชั่วขณะ นึกขึ้นได้ว่าพวกนางสองพี่น้องเล่นกันในสมัยเด็กแล้วมู่อวิ่นจือเผลอสะดุดล้ม ซึ่งได้ทิ้งรอยแผลเป็นนี้ไว้ มู่เฉินลงข้อสรุปแน่ชัดว่าสตรีนางนี้ก็คือมู่อวิ่นจืออย่างไม่ต้องสงสัย

นางมองคนผู้นั้นด้วยท่าทางอึ้งงัน กลับเห็นอีกฝ่ายคลุมผ้าคลุมหน้าไว้ ทำให้มองเห็นหน้าได้ไม่ชัด

ฝูหมัวหารู้ไม่ว่ามู่เฉินก็คือคนที่หลบอยู่บนรถลากในวันนั้นจึงถามยิ้มๆ “แม่นาง คนไม่เป็นไรแล้ว เจ้าจับนางไว้ไม่ปล่อยหมายความว่าอย่างไร”

คราวนี้มู่เฉินถึงได้สังเกตเห็นเขา นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นแล้วก็รู้สึกแผ่นหลังเย็นวาบ นางปล่อยมือก่อนเอ่ยว่า “นางดูคล้ายกับสหายเก่าคนหนึ่งของข้าอยู่บ้าง”

“ปิดหน้าอยู่เจ้าก็ยังมองออกว่าคล้ายได้อีก?” ฝูหมัวมองไปทางมู่หรงชงก่อนเอ่ยว่า “เจ้าบอกข้าว่าได้สตรีชาวฮั่นที่หายากน่าเก็บไว้มานางหนึ่ง ให้ข้าพาคนผู้นี้ของตนเองออกมาเทียบกันดู บัดนี้เห็นได้ชัดแจ้งว่าคนที่ปิดหน้าไม่พูดไม่จาผู้นี้ของข้าดีกว่าคนที่เซ่อๆ ซ่าๆ ผู้นี้ของเจ้ามากทีเดียว”

คราวนี้มู่เฉินถึงได้เข้าใจ นี่ก็คือ ของขวัญ ที่มู่หรงชงบอกไว้ก่อนหน้านี้ แต่…หายากน่าเก็บไว้? เซ่อๆ ซ่าๆ?

ประเดี๋ยวเดียวคนทั้งหลายก็ขึ้นไปอยู่บนหลังม้ากันหมดแล้ว

มู่หรงชงเรียกนางจากด้านข้าง “ชิงหลวน มานี่”

มู่เฉินเดินไปหาแล้วเตรียมจะขึ้นม้า มู่หรงชงที่นั่งบนม้าอีกตัวยื่นมือมาตรงหน้า คิดจะช่วยดึงนาง มู่เฉินอึ้งงันไปเล็กน้อย ยืมแรงจากมือเขาขึ้นหลังม้าของตนเอง ก่อนกระซิบว่า “ขอบคุณ”

มู่หรงชงเอ่ยเตือน “ระวังอย่าเผยพิรุธอีกเชียว”

“ได้” มู่เฉินถามเสียงเบา “เตรียมของเรียบร้อยแล้วหรือยัง”

“พี่หงจะนำไปไว้ต่อพระพักตร์ฝ่าบาทเอง”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com