ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 1 – หน้า 16 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 1

16 of 16หน้าถัดไป

ลิ่นเซี่ยวกระโดดพรวดลุกขึ้นมา เสียง ‘ฉึก’ ดังขึ้น กระบี่เสียบทะลุตำแหน่งเจ็ดชุ่นของงูยักษ์อย่างแม่นยำที่สุด

งูยักษ์ส่งเสียงกรีดร้องแปลกประหลาดบาดหู ร่างกายใหญ่มหึมาบิดงอคล้ายเป็นตะคริว ทำให้ทั้งถ้ำส่งเสียงดังสะเทือนปานแผ่นดินไหว

เด็กสาวเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเป็นเช่นนี้ก็รีบท่องคาถาวาดยันต์ มังกรไฟทั้งสามราวกับมีประสาทสัมผัสดั่งมนุษย์ พุ่งเข้าไปในรอยแผลฉีกขาดตรงตำแหน่งเจ็ดชุ่นของงูยักษ์ตามลำดับ ทันใดนั้นก็แผดเผางูยักษ์จนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน

“กลับคืน!”

เมื่อเสียงนุ่มนวลของเด็กสาวตะโกนขึ้นคำหนึ่ง มังกรทั้งสามได้ยินเสียงเรียกขานก็กลายร่างเป็นลูกไฟสามลูก ลอยกลับเข้ากระดิ่งทองคำในมือของเด็กสาว

ทุกคนต่างถอนหายใจโล่งอก

พวกฉางหรงยังปรับลมหายใจไม่ทัน มองดูเถ้ากระดูกงูยักษ์ด้วยสีหน้าเหม่อลอย การต่อสู้ดุเดือดเมื่อครู่จะใช้คำว่า ‘โอกาสรอดเพียงหนึ่งจากสิบส่วน’ ก็ไม่เกินไปเลย ไม่รู้ว่าตกลงปีศาจตัวนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่ถึงได้มีพลังมากถึงเพียงนี้ ถ้าหากไม่ได้ของวิเศษจากนักพรตหญิงกับกระบี่ของคุณชายร่วมกันรับมือ เกรงว่าทุกคนในที่นี้จะต้องโดนมันกลืนลงท้องหมดแล้ว

ลิ่นเซี่ยวปรับลมหายใจที่ปั่นป่วนให้เป็นปกติ ลุกขึ้นเดินไปตรวจดูสภาพของคนแซ่ถานและคนแซ่หวัง

พอเห็นรอยดำคล้ำบนใบหน้าของพวกเขาทั้งสองจางหายไปหมดสิ้น ลมหายใจก็สงบมั่นคงกว่าเดิมมาก

เขาหันกลับไปมองเด็กสาว กดเสียงลงต่ำเอ่ยว่า “ขอบคุณมาก”

เด็กสาวแย้มยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่ดูสิ้นไร้เรี่ยวแรง “จะว่าไปแล้วข้าก็ต้องขอบคุณท่านด้วย ถ้าหากไม่มีความช่วยเหลือจากกระบี่ในมือท่าน ด้วยพลังตบะของข้ามีหรือจะเป็นคู่ต่อสู้ของปีศาจงูตนนั้นได้”

นางกล่าวขึ้นแล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงลุกเดินมาหยุดตรงหน้าเถ้ากระดูกของงูยักษ์ เอามือปิดจมูกเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง ไม่นานก็เห็นว่าในมือของนางมีลูกกลอนปราณสีเขียวอมเทาเม็ดหนึ่ง

ลิ่นเซี่ยวเข้าใจกระจ่างโดยพลัน คิดว่านั่นจะต้องเป็นลูกกลอนปราณของปีศาจงูแน่

เด็กสาวนำผ้าไหมห่อลูกกลอนปราณเอาไว้อย่างดีแล้วเก็บลงถุงเงินข้างเอว ก่อนจะลุกขึ้นหันมากล่าวกับพวกลิ่นเซี่ยวว่า “ปีศาจงูตนนี้ก็คือสิ่งชั่วร้ายที่ออกอาละวาดมานานสามปี มาวันนี้สิ่งชั่วร้ายถูกกำจัดสิ้นซาก ทุกท่านสามารถลงจากเขาอย่างสบายใจได้แล้ว”

นางยังชี้ไปทางคนแซ่ถานกับคนแซ่หวังที่ยังไม่ได้สติ “ในร่างของพวกเขายังมีพิษหลงเหลือ ต้องพักรักษาตัวประมาณครึ่งเดือนจึงจะฟื้นฟูเป็นปกติ แต่ว่าโชคดีที่ช่วยชีวิตทันเวลา ยังไม่บาดเจ็บกระทบถึงจุดสำคัญ ไม่จำเป็นต้องกังวลมากไปนัก”

ลิ่นเซี่ยวเห็นว่านางน่าจะอายุไม่เกินสิบสี่สิบห้าปีเท่านั้น แต่จัดการเรื่องราวได้อย่างละเอียดรอบคอบถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญและสติปัญญา ช่างแตกต่างจากสตรีตระกูลขุนนางที่เคยพบเห็นทั่วไปก็อดชื่นชมอยู่ในใจไม่ได้ ทว่าขณะจะเอ่ยถามชื่อของนาง ฉางหรงก็กระโดดเข้ามาขัดจังหวะ

“ท่าน…แม่นางนักพรต ข้ามีตาแต่ไม่รู้จักภูเขาไท่ซาน ก่อนหน้านี้พูดจาล่วงเกินท่านไปมากมาย หวังว่าท่านจะไม่ถือสา”

ในใจของเขากลับกล่าวว่าดูจากท่าทางของคุณชายแล้ว คงมีความรู้สึกดีให้นักพรตหญิงคนนี้มากพอดู ถ้าหากผ่านไปนานวันเข้าเกิดมีความสัมพันธ์อะไรขึ้นมา จะยอมรับนักพรตหญิงคนนี้ได้ด้วยหรือ อย่าว่าแต่ท่านอ๋องจะไม่เห็นด้วยเลย แม้กระทั่งท่านผู้นั้นในวังหลวงก็ไม่มีทางพยักหน้าตกลงเด็ดขาด ถือโอกาสยับยั้งความคิดของคุณชายเอาไว้แต่เนิ่นๆ ดีกว่า เลี่ยงไม่ให้วันหน้าต้องมาเสียใจอีก

ดังนั้นเขาจึงเน้นย้ำคำว่า ‘แม่นางนักพรต’ หนักแน่นเป็นพิเศษ

ลิ่นเซี่ยวลอบขมวดคิ้ว

เด็กสาวกลับหัวเราะออกมา แม้ว่านางเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่จะคาดเดาความคิดที่แท้จริงในใจของฉางหรงเวลานี้ได้อย่างไร พอเห็นว่าฉางหรงเอ่ยปากขออภัยด้วยความจริงใจ นางก็เอ่ยว่า “ไม่เป็นไรหรอก ข้าไม่เก็บมาใส่ใจ”

ฉางหรงมองนางอย่างประหลาดใจ นึกถึงท่าทางน่าสงสัยของนางตอนแรกพบหน้าขึ้นมาจึงอดถามขึ้นไม่ได้ “จะว่าไปแล้วคืนนั้นเหตุใดแม่นางนักพรตถึงไปสระผมอยู่ริมลำธาร เวลาค่ำมืดดึกดื่น อีกทั้งภูเขาลูกนี้ก็อันตราย ตอนนั้นพวกข้าตกใจมากทีเดียว เกือบมองว่าท่านเป็นปีศาจร้ายไปแล้ว”

เด็กสาวเลิกคิ้วเรียวงามขึ้น อธิบายอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าเร่งเดินทางรอนแรมมาจากฉางอันเพื่อจับปีศาจ ไม่ได้อาบน้ำให้ชื่นใจมาหลายวัน พอเห็นน้ำในลำธารกลางหุบเขาแลดูใสกระจ่างก็อดใจไม่อยู่ชั่วขณะ เลยสยายผมสระเสียหน่อย”

พวกฉางหรงได้ยินคำตอบเช่นนี้ก็หัวเราะท้องแข็งแล้ว

นี่น่ะหรือ นี่หรือคือเหตุผลที่ว่านั้น นักพรตหญิงคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ

เมื่อได้ฟังเหตุผลนี้แล้วแม้แต่ลิ่นเซี่ยวที่ไม่เคยแสดงอารมณ์ทางสีหน้าก็อดใจไม่ไหว มุมปากยกโค้งเผยรอยยิ้มเช่นกัน

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

16 of 16หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com