ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 2 – หน้า 11 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 2

จวนหลูกั๋วกงห่างจากวังหลันอ๋องเพียงหนึ่งช่วงถนนใหญ่ ขี่ม้าไปก็ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งก้านธูป

เวลานี้ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว ตอนที่บ่าวไพร่มาเปิดประตูต้อนรับ พกพาความขุ่นเคืองมาเต็มท้อง แต่ทันทีที่เห็นว่าแขกที่มาเยือนเป็นลิ่นเซี่ยวกับผู้ติดตาม ไหนเลยจะกล้าชักสีหน้าใส่ ทว่ารีบตั้งสติให้แจ่มใสมากกว่าเดิมก่อนจะเดินนำคนทั้งสองเข้าไปด้านใน

ไม่จำเป็นต้องถามให้มากความก็รู้ว่าลิ่นเซี่ยวมาพบคุณชายสามของจวนนี้ บ่าวไพร่จึงเดินนำทางคนทั้งสองไปยังเรือนที่พักด้วยตนเอง

คุณชายสามท่านนี้ของจวนหลูกั๋วกงมีชื่อว่าเจี่ยงฮุยเยวี่ย เป็นบุตรชายคนที่สามซึ่งเกิดจากภรรยาเอกของหลูกั๋วกง มารดาของเขาหรือฮูหยินของหลูกั๋วกงเป็นพี่สาวแท้ๆ ของมารดาลิ่นเซี่ยว คนทั้งสองจึงเป็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งมารดาอย่างแท้จริง และเนื่องจากมีอายุไล่เลี่ยกัน ความชอบคล้ายคลึงกัน จึงเล่นด้วยกันอย่างสนิทสนมมาตั้งแต่เด็ก ความรู้สึกผูกพันจึงลึกซึ้งแน่นแฟ้นกว่าญาติพี่น้องทั่วไปหลายเท่า

ลิ่นเซี่ยวกับฉางหรงเดินมาถึงเรือนจู่ชิ่นของเจี่ยงฮุยเยวี่ย เพิ่งจะมานั่งในห้องโถงกลางไม่นานก็ได้ยินเสียงบุรุษและสตรีหยอกเย้ากันลอยมาจากห้องด้านใน

ลิ่นเซี่ยวพบเจอเป็นประจำจนชินชาไปนานแล้ว จึงแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินไปเสีย แต่ฉางหรงกลับกลอกตาด้วยความรำคาญ จากสภาพการณ์เช่นนี้เจี่ยงซานหลางคงได้หญิงบำเรอโฉมงามมาอีกแน่ ถึงได้มีอารมณ์สุนทรีย์ขนาดนี้

เสียงฝีเท้าขยับเข้ามาใกล้ทุกขณะ ม่านประตูถูกเลิกขึ้น มีชายหนุ่มอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีคนหนึ่งเดินเข้ามา เขามีริมฝีปากแดง ฟันขาวสะอาด ใบหน้ารูปดอกท้อทรงเสน่ห์ ช่างคมคายไปทุกส่วน อีกทั้งหางคิ้วและดวงตาแฝงความเกียจคร้าน ทุกอากัปกิริยาสะท้อนคำว่า ‘เจ้าสำราญ’ สามคำนี้ออกมาอย่างชัดเจน

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ลิ่นเซี่ยวดูเหมือนหยกขาวที่ผ่านการเจียระไนอย่างประณีต งดงามโดดเด่น แต่แฝงความเย็นชาห่างเหิน แตกต่างจากเจี่ยงซานหลางผู้นี้ที่เป็นมิตรและเข้าถึงได้ง่ายกว่า

เจี่ยงซานหลางยิ้มแย้มพลางเหลือบมองลิ่นเซี่ยว เลิกชายชุดขึ้นเล็กน้อยแล้วนั่งด้วยท่าทีสบายๆ ไม่มีการวางมาดแต่อย่างใด “เพิ่งกลับมาวันนี้หรือ ครั้งนี้ออกนอกฉางอันราบรื่นดีหรือไม่”

ใครจะรู้ว่าเมื่อลิ่นเซี่ยวและฉางหรงเงยหน้ามองแวบแรกต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกในใจ เหตุใดไม่พบหน้ากันแค่ครึ่งเดือน สีหน้าของเจี่ยงซานหลางถึงได้ย่ำแย่ลงไปมากถึงเพียงนี้

ฉางหรงหลุดปากถามออกไปว่า “คุณชายสาม ท่านเป็นอะไรไป ช่วงนี้ร่างกายท่านไม่สบายตรงที่ใดบ้างหรือไม่ขอรับ”

เจี่ยงซานหลางลูบปลายคางอย่างประหลาดใจแล้วเอ่ยถามว่า “ก็สบายดีอยู่นะ เพราะอะไรใครต่อใครถึงบอกว่าข้าสีหน้าย่ำแย่ ร่างกายข้ายังสบายดีอยู่ชัดๆ เลย”

พอเขานึกอะไรขึ้นมาได้อีกอย่าง ริมฝีปากจึงยกโค้งยิ้มร่า “จริงสิ ไม่นานนี้ข้าได้หญิงงามมาคนหนึ่ง เรื่องดีๆ เช่นนี้ไม่คู่ควรแพร่งพรายให้ผู้อื่นรับรู้ ข้าไม่อาจตัดใจปล่อยให้หลุดมือไปชั่วขณะ อาจทำให้ร่างกายทรุดโทรมไปบ้างก็ไม่แปลก”

เขาเงยหน้ามองเห็นลิ่นเซี่ยวทำสีหน้าไม่แยแสก็เลิกคิ้วขึ้นเอ่ย “เจ้าก็อย่ามัววางมาดอยู่เลย เจ้ายังไม่เคยลิ้มลองรสชาติ ถ้าหากวันใดได้ลองกินเนื้อแล้ว กลัวว่าจะไม่ยอมปล่อยมือยิ่งกว่าข้าน่ะสิ”

ฉางหรงลอบแค่นเสียงขึ้นจมูกเย้ยหยัน ซื่อจื่อไม่ใช่คนประเภทนั้น เขาเป็นคนที่มีวินัยและควบคุมตนเองได้ดีอย่างยิ่ง ไม่เคยลุ่มหลงมัวเมากับสตรี ไหนเลยจะเหมือนเจี่ยงซานหลาง ทั้งที่เกิดปีเดียวกันกับซื่อจื่อ แต่กลับรับหญิงบำเรอเข้าห้องมากถึงเจ็ดแปดคนแล้ว ยังไม่นับรวมสตรีที่มีความสัมพันธ์ฉาบฉวย ไม่จดจำชื่อเสียงเรียงนามในร้านสุราโกวหลันอีกนะ

“หญิงงามคนนี้ของเจ้าได้ตัวมาจากที่ใด หอหมู่ตันหรือเรือนเทียนซิน” ลิ่นเซี่ยวยกถ้วยชาขึ้น ถามด้วยท่าทีคล้ายจะไม่สนใจอะไร

เจี่ยงซานหลางนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ลิ่นเซี่ยวถึงเป็นห่วงเรื่อง ‘คนในมุ้ง’ ของเขาได้

“ไม่ได้พากลับมาจากหอหรือเรือนอะไรอย่างที่เจ้าว่าหรอก” เขามองหน้าลิ่นเซี่ยวด้วยความสงสัยแล้วเอ่ยตอบ “เมื่อเดือนก่อนข้าไปจุดธูปไหว้พระที่วัดต้าอิ่นกับท่านแม่ ระหว่างทางบังเอิญเห็นนางโดนคนถ่อยตามตอแย รู้สึกทนดูไม่ได้จึงเข้าช่วยเหลือ ต่อมาถึงรู้ว่าพ่อแม่นางตายหมดแล้ว ในบ้านเหลือแค่นางกับน้องชายสองคน นางต้องเลี้ยงดูน้องชายที่ยังเล็กถึงได้ทำดอกไม้ผ้ามาขาย ข้าเห็นชีวิตของนางน่าเวทนาปานนี้ก็เลยเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้นมา”

“ดังนั้นเจ้าจึงรับนางเข้ามาอยู่ในจวน?”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายถึงกับวางมาดซักไซ้ไล่เลียงอย่างจริงจังเช่นนี้ เจี่ยงซานหลางก็จ้องหน้าลิ่นเซี่ยว ความสงสัยในใจยิ่งลึกล้ำมากขึ้น “ไม่ใช่ นางบอกว่าแม้ตัวเองจะฐานะยากจนต่ำต้อย แต่ไม่มีทางยอมเป็นหญิงบำเรอไร้ฐานะของใคร ข้าเห็นนางดื้อรั้นได้น่าเอ็นดู มีความหยิ่งทะนงอยู่หลายส่วน จึงเขียนหนังสือแต่งตั้งฉบับหนึ่งขึ้นมา ยอมรับนางเข้ามาเป็นอนุภรรยา”

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ่นเซี่ยว แม้แต่ฉางหรงก็ประหลาดใจจนเลิกคิ้วขึ้นสูง ต้องรู้เอาไว้ว่าแม้คุณชายสามจะมีสตรีข้างกายหลายนาง แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นอนุภรรยาอย่างแท้จริงมีแค่คนเดียว ในเมืองฉางอันผู้คนมากมายคิดจะใช้เส้นทางนี้มาสานสัมพันธ์กับจวนหลูกั๋วกง แต่…แต่กลับรับสตรีขายดอกไม้คนหนึ่งเข้ามาเนี่ยนะ?

ถ้วยชาในมือที่ลิ่นเซี่ยวยกจรดริมฝีปากนิ่งค้างอยู่ชั่วครู่ เขาถึงได้จิบคำหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ท่านป้าไม่ว่าอะไรหรือ ปล่อยให้เจ้าทำเรื่องเหลวไหลตามใจเช่นนี้”

เจี่ยงซานหลางหรี่ตาลง มองประเมินลิ่นเซี่ยวอย่างจริงจัง ดูเหมือนอยากจะมองอีกฝ่ายให้ทะลุปรุโปร่ง “วันนี้เจ้าเป็นอะไรไป ถึงได้สนใจเรื่องในมุ้งของข้าถึงเพียงนี้ จะว่าไปแล้วก็แปลกนัก เมื่อก่อนท่านแม่ไม่เคยมองสตรีคนใดของข้าเข้าตาสักคน ชอบบอกว่าพวกนางเสแสร้งแกล้งทำอยู่บ่อยๆ แต่กับอาเมี่ยวนั้น เอ่อ…นี่คือชื่อหญิงงามคนนี้ของข้า ท่านแม่กลับถูกใจอาเมี่ยวมากเชียวล่ะ ไม่ถือสาชาติกำเนิดต่ำต้อยของนาง ได้แต่บอกว่านางอ่อนหวานรู้จารีต ให้ข้าดีต่อนางมากๆ”

อ่อนหวานรู้จารีต?

ลิ่นเซี่ยวมองเจี่ยงซานหลางด้วยแววตาแปลกพิกล เสียงหัวเราะยั่วยวนปานนั้นที่ลอยมาจากห้องด้านในเมื่อครู่สะท้อนคำว่า ‘รู้จารีต’ ด้วยหรือ

เขาอดเบนสายตากลับไปมองที่ม่านประตูไม่ได้ คล้ายว่าจะมองผ่านผ้าม่านผืนหนาให้ทะลุไปจนเห็นโฉมหน้าของสตรีที่ชื่ออาเมี่ยวชัดเจน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 67-68

    By

    บทที่ 67 หลบหนี เซี่ยหลิงปี้ ‘สวม’ ร่างของเซี่ยหงเฉินเดินออกจากตำหนักหลัวฝูไปอย่างเปิดเผยเช่นนี้เอง ส่วนเซี่ยหงเฉินถูกกักขังอยู่ในร่างของเซี...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 98

    By

    บทที่ 98 เมื่อคิดได้เช่นนี้ โม่เซี่ยวเหนียงก็ลุกขึ้นนั่งให้ดี ก่อนจะยกเท้าถีบฮั่วสุยเฟิงที่นอนนิ่งอยู่ข้างๆ อย่างแรง ฮั่วสุยเฟิงปล่อยให้โม่เ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 65-66

    By

    บทที่ 65 ต่อสู้ กรมซือเทียน ห้องโถงรับแขกของกองเสวียนอู่ เซี่ยหงเฉินถูกเชิญเข้ามาข้างใน ชาถูกยกมาให้อย่างรวดเร็ว เขามิได้เร่งรัด เพียงใช้มือ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 10.5-10.6

    By

    บทที่ 10.5 สายลมเย็นที่เฮาหลี่ ปลายฤดูใบไม้ร่วง การสอบเคอจวี่ในฤดูใบไม้ร่วงก็ใกล้จะสิ้นสุดลง วันสุดท้ายของการสอบเคอจวี่ในฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 96-97

    By

    บทที่ 96 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เซิ่งฮูหยินโกรธจนร่างสั่น นางรีบคุกเข่าลงที่พื้นร้องขอความเมตตาและขออภัยฮุ่ยหมิ่นเซี่ยนจู่ “ข้าดูแลอนุข...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 10.3-10.4

    By

    บทที่ 10.3 สายลมเย็นที่เฮาหลี่ หยางหวั่นประคองเติ้งอิงนั่งลง ส่วนตนเองกลับรวบชายกระโปรงนั่งยองๆ ลงไป เติ้งอิงรีบบอกว่า “ทำอะไร” หยางหวั่นยื่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 94-95

    By

    บทที่ 94 โม่เซี่ยวเหนียงตักเตือนไปเช่นนี้ ในที่สุดคนของบ้านใหญ่ก็กลับไปด้วยความไม่พอใจ ตลอดการเดินทางนี้ช่างเหนื่อยล้าจริงๆ โม่เซี่ยวเหนียงไ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 7-9

บทที่ 7 กิเลส หิมะแรกหลังย่างเข้าฤดูเหมันต์มาเยือนเมืองหลวง หิมะแรกเล็กละเอียด จากนั้นก็ค่อยๆ รุนแรงขึ้น ปกคลุมไปทั่ววัง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 10-12

บทที่ 10 เกล็ดย้อน สำนักเซียนอวี้หู หอฉีลู่ เซี่ยจิ่วเอ๋อร์กำลังซักเสื้อผ้า เสื้อผ้าของหวงหร่างมีมากเป็นพิเศษ อีกทั้งแบบ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 15-16

บทที่ 15 ที่พึ่งพิง เซี่ยหยวนซูใช้เวลาถึงสองชั่วยาม ในที่สุดก็ดูดพลังวัตรของเซี่ยหงเฉินจนเสร็จสิ้น เขานั่งขัดสมาธิบนพื้น...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 90-91

บทที่ 90 การเปลี่ยนแปลงในวังที่ล้มเหลว ทำให้บิดาของเซียวเยวี่ยเหอไม่ผ่านบททดสอบทองแท้ทนไฟ โชคดีที่เซียวเหยี่ยนพยายามกอบก...

community.jamsai.com