ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 4 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 4

เพิ่งจะย่างเท้าออกจากวัง เจี่ยงซานหลางก็ควบขี่ม้าจื่อซิงจากแคว้นต้าหว่านซึ่งมีสีขาวดั่งหิมะตลอดร่างรออยู่หน้าประตูก่อนแล้ว เขาสวมชุดคลุมยาวสีม่วงแสดงตำแหน่งขุนนางฝ่ายบู๊ขั้นสาม สายคาดเอวหยกทอง ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย เรือนกายสูงตระหง่าน ม้าพันธุ์ดีสีขาวดั่งหิมะใต้ร่างแผ่กลิ่นอายข่มขวัญ หนึ่งคนหนึ่งม้าดึงดูดสายตาผู้คนให้มองมาด้วยความสนใจ

หลูกั๋วกงมีบุตรชายเกิดจากภรรยาเอกสามคน บุตรชายคนโตได้รับการแต่งตั้งเป็นซื่อจื่อ รับหน้าที่ดูแลเรื่องราวในจวน บุตรชายคนรองเวลานี้ก็รับตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก มีเพียงบุตรชายคนเล็กอย่างซานหลาง เนื่องจากเป็นบุตรชายที่ถือกำเนิดยามหลูกั๋วกงล่วงเข้าวัยชรา สองสามีภรรยาจึงรักใคร่ตามใจมากกว่าบุตรชายคนอื่นอยู่หลายส่วน ครั้นเมื่อเติบใหญ่จึงมีนิสัยเหลาะแหละ เรื่องใดล้วนไม่นำพาใส่ใจ จนเติบใหญ่อายุครบสิบหกเมื่อปีกลาย ความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ราชการก็ยังไม่มีความชัดเจน

บิดามารดาผู้สูงวัยทั้งสองเลิกคาดหวังให้บุตรชายคนเล็กมีอนาคตที่สดใสดั่งพี่ชายทั้งสองไปนานแล้ว ได้แต่คิดใคร่ครวญว่าเมื่อพวกเขาลาจากโลกนี้ไปแล้ว จะแบ่งทรัพย์สมบัติส่วนตัวให้บุตรชายคนเล็กมากกว่าสักนิด ลำเอียงช่วยเหลือเขามากกว่าสักหน่อย ส่วนเรื่องอื่นนั้นก็ต้องดูโชควาสนาของตัวเขาเองแล้ว

ใครจะคาดคิดว่าเมื่อปีกลายเจี่ยงซานหลางตามเสด็จฮ่องเต้ออกไปล่าสัตว์ กลับแสดงความสามารถที่เก็บงำไว้ออกมาอย่างเต็มที่ ท่ามกลางบุตรหลานเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง คว้าอันดับหนึ่งไปได้โดยไม่มีใครคาดคิด หลูกั๋วกงปลาบปลื้มยินดีเหลือจะกล่าว เห็นฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและคำชื่นชมแก่เจี่ยงซานหลาง รีบฉวยโอกาสกราบทูลขอตำแหน่งแม่ทัพกุยเต๋อลำดับรองขั้นสามให้บุตรชาย ถึงได้ทำความปรารถนาให้เป็นจริงไปได้อีกเรื่อง

ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างเจิดจ้า แสงยามรุ่งอรุณสะท้อนความมืดสลัวออกมาเลือนราง พอเดินเข้าไปใกล้ ลิ่นเซี่ยวก็ต้องตกตะลึงที่พบว่าบริเวณใต้ตาของเจี่ยงซานหลางดำคล้ำกว่าสองวันก่อนหลายส่วน เดิมทีเขามีผิวขาวสะอาดหมดจด เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วจึงน่าตื่นตระหนกตกใจอย่างยิ่ง

“ไม่ใช่ว่าเจ้าถูกอาถรรพ์เล่นงานจริงๆ กระมัง เหตุใดสีหน้าถึงได้แย่ลงทุกวันเช่นนี้เล่า” ลิ่นเซี่ยวที่เพิ่งยกสายบังเหียนขึ้นพลันชะงักมือ

“พูดจาเหลวไหลอะไร กินอิ่มนอนหลับได้ จะถูกอาถรรพ์ที่ใดกันเล่า” เจี่ยงซานหลางหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “เสียแรงที่ข้าอุตส่าห์จำได้ว่าวันนี้เจ้าจะเข้ารับตำแหน่งวันแรก ถึงได้มารอรับเจ้าแต่เช้าตรู่ เจ้ากลับมาสาปแช่งข้าได้” น้ำเสียงของเขากังวานชัดดั่งในวันวาน ไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็นเลย

“ข้าจะสาปแช่งเจ้าไปด้วยเหตุใด” ลิ่นเซี่ยวสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ นึกอะไรขึ้นได้จึงเอ่ยถาม “ช่วงนี้ท่านลุงท่านป้าไม่เอ่ยทักบ้างหรือว่าสีหน้าเจ้าไม่ค่อยดี”

“ไม่เคย! ไม่เคยเลย” เจี่ยงซานหลางเริ่มหงุดหงิดแล้ว “ข้าว่าเจ้าพูดเรื่องอื่นบ้างดีหรือไม่ แค่เดินทางออกนอกฉางอันไปครั้งเดียว เหตุใดกลับมาแล้วถึงได้ทำตัวลึกลับปานนี้” ว่าแล้วก็กระตุกสายบังเหียน มุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจลิ่นเซี่ยวอีก

ฉางหรงก็คิดว่าสีหน้าเจี่ยงซานหลางดูน่าหวาดหวั่นเล็กน้อย เพียงแต่เขาหาโอกาสเอ่ยขัดจังหวะไม่สะดวก เขาอดเหลียวมองรอบกายไม่ได้ น่าเสียดายที่นักพรตหญิงตัวน้อยจากไปแล้ว พลังตบะของนางลึกล้ำ ถ้าหากเจี่ยงซานหลางโดนอาถรรพ์เข้าจริงนางจะต้องมองออกแน่

ลิ่นเซี่ยวเห็นว่าเจี่ยงซานหลางไม่สนใจคำทัดทานใดของตนก็จนปัญญาจะทำอะไรได้ชั่วขณะ วันนี้เข้ารับตำแหน่งใหม่วันแรก เขายังต้องเข้าวังไปรับฟังโอวาทจากเสด็จลุงอีก จึงต้องพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนชั่วคราว

 

เมื่อเข้าวังหลวงยังไม่ทันถึงช่วงประชุมยามเช้า ฮ่องเต้ยังทรงรอพบเขาอยู่ที่วังต้าหมิงกงดังคาด

ปีนี้ฮ่องเต้มีพระชนมายุสี่สิบห้าพรรษา เนื่องจากทุ่มเทพระทัยใส่ราชกิจ บริเวณจอนพระเกศาจึงเริ่มมีสีหงอกขาวแซม ทว่าสายพระเนตรกลับยังกระจ่างชัดเฉียบคมดังเช่นที่เคยเป็นมา

“เหวยจิ่น”

พอเห็นลิ่นเซี่ยวเดินเข้ามา พระองค์ก็เผยรอยแย้มพระโอษฐ์เมตตาเอ็นดู ตรัสเรียกชื่อรองของลิ่นเซี่ยวอย่างสนิทสนม พระอนุชาคนที่หกของพระองค์ตั้งชื่อบุตรชายคนโตว่าเซี่ยว* ยังไม่พอ แม้กระทั่งเมื่อปีก่อนโน้นตอนตั้งชื่อรองให้ลิ่นเซี่ยวยังเลือกชื่อ ‘เหวยจิ่น’ ที่มีความหมายว่าระมัดระวังรอบคอบด้วย ราวกับกลัวว่าจะสะกิดความหวาดระแวงในพระทัยกระนั้น

ในขณะนั้นทันทีที่พระองค์ได้ยินชื่อนี้ก็ทรงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก โชคดีที่ลิ่นเซี่ยวไม่เก็บตัวหลบเลี่ยงทางโลกเหมือนบิดา อายุยังน้อยก็มีพรสวรรค์เปล่งประกาย สะท้อนความรู้ความสามารถเกินใคร ได้รับความโปรดปรานจากพระองค์อย่างยิ่ง

“เสด็จลุง อรุณสวัสดิ์พ่ะย่ะค่ะ” ลิ่นเซี่ยวถวายบังคม ตามกฎแล้วเขาสมควรเอ่ยเรียกพระองค์ว่า ‘ฝ่าบาท’ แต่ว่าเสด็จลุงไม่ทรงอนุญาต ตรัสว่าแสดงความเหินห่างเกินไป ฉะนั้นเมื่อเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ยังให้เรียกว่า ‘เสด็จลุง’ อยู่

ฮ่องเต้พยักพระพักตร์ตอบรับพลางตรัสด้วยสีหน้าครุ่นคิด “เหวยจิ่นเอ๋ย ตั้งแต่เดือนก่อนที่เจ้าเดินทางออกจากฉางอันไปจัดการคดีของหวังซิงปังอย่างลับๆ หลายวันมานี้เราก็เอาแต่ฝันเห็นฮุ่ยเฟย” ตรัสเล่าด้วยสีพระพักตร์เศร้าหมองอยู่บ้าง “เจ้าก็รู้ว่าหวังซิงปังเป็นพี่ชายร่วมอุทรของฮุ่ยเฟย เรารู้สึกอยู่ตลอดว่าที่ผ่านมาติดค้างฮุ่ยเฟย ฉะนั้นถึงได้ดูแลเอาใจใส่สกุลหวังเป็นพิเศษ ครั้งนี้เราส่งตัวเจ้ามุ่งหน้าไปที่เขตไหวหยาง เพราะหวังว่าเจ้าสามารถช่วยเขาเก็บกวาดร่องรอยก่อนที่ขุนนางตรวจการจะกล่าวโทษหวังซิงปัง ทำให้เขาไม่ต้องถึงขั้นต้องโทษจำคุก”

พระองค์หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ทอดพระเนตรมองลิ่นเซี่ยวด้วยความพอพระทัย “เจ้าทำได้ดีมาก!”

“หลานเพียงแค่ทำงานตามที่เสด็จลุงมีพระบัญชาลงมา ไม่กล้ายกเป็นความดีความชอบของตัวเองพ่ะย่ะค่ะ” ลิ่นเซี่ยวกราบทูลตอบ

หลายปีมานี้หวังซิงปังอาศัยว่ามีฮ่องเต้คอยให้ท้าย ก่อสร้างจวนที่พักหลังใหญ่หลังโต ทุจริตคดโกงมโหฬาร ในราชสำนักมีคนกล่าวโทษเขามานานแล้ว ครั้งนี้ถ้าหากฮ่องเต้ไม่ส่งลิ่นเซี่ยวไปแจ้งเรื่อง เวลานี้สกุลหวังอาจประสบเภทภัยร้ายแรงแล้วก็เป็นได้

ฮ่องเต้มีพระประสงค์ทั้งจะปกป้องสกุลหวัง และต้องปกป้องอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ให้ตกเป็นที่ติฉินนินทาของผู้ใด นี่เป็นกลยุทธ์ของผู้ครองแผ่นดิน

ฮ่องเต้ทอดถอนพระทัยหลายครั้งติดๆ กัน “ปีนั้นเรากับฮุ่ยเฟยรู้จักกันที่สำนักศึกษาอวิ๋นอิ่น หลายวันที่ผ่านมาเรามักฝันเห็นเรื่องราวมากมายที่เคยเกิดขึ้นที่นั่น เราไตร่ตรองดูแล้ว หรืออาจเป็นเพราะฮุ่ยเฟยก็อยากกลับไปเยี่ยมสำนักศึกษาอวิ๋นอิ่นถึงได้มาฝากฝังกับเราในความฝัน ให้เราเปิดสำนักศึกษาแห่งนี้ใหม่อีกครั้ง”

ลิ่นเซี่ยวลอบขมวดคิ้วเล็กน้อย เสด็จลุงประเดี๋ยวทรงคิดถึงสิ่งนี้ประเดี๋ยวทรงคิดถึงสิ่งนั้น ในอดีตหลังจากเกิดเรื่องกับสำนักศึกษาอวิ๋นอิ่นแล้ว ที่นั่นก็ถูกสั่งปิดตายมานานกว่ายี่สิบปี ถ้าหากต้องการเปิดใหม่อีกครั้งอาจมีปัญหายุ่งยากซับซ้อนตามมาอีก ยิ่งไปกว่านั้นราชสำนักก็ไม่เคยสนับสนุนให้เปิดสำนักศึกษาของสตรี ถ้าหากเสด็จลุงยังทรงยืนกรานจะทำเช่นนี้ คงจะเกิดความโกลาหลวุ่นวายอย่างเลี่ยงไม่ได้

“หลานยังเยาว์วัย ในอดีตเมื่อครั้งสำนักศึกษาอวิ๋นอิ่นยังเฟื่องฟูหลานยังไม่ทันเกิดด้วยซ้ำ เกรงว่าคงไม่อาจถวายคำแนะนำเสด็จลุงได้พ่ะย่ะค่ะ” เขาจนปัญญาจริงๆ จึงแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างคลุมเครือ

“ช่างเถิดๆ” ฮ่องเต้ทรงตระหนักได้ว่าไม่เหมาะสมเช่นกัน พระองค์นิ่งเงียบไปก่อนจะลุกขึ้นยืน “อีกไม่กี่วันก็จะถึงการสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ราชสำนักก็มีเรื่องมากมาย เริ่มประชุมเช้าเร็วสักหน่อยเถอะ ตามเราไปที่ตำหนักหานหยวน”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com