นางจิ้งจอกหัวเราะอย่างเย็นชา “ตอนที่ข้าปลอมตัวเป็นนักพรตพเนจรอยู่ใกล้กับวัดต้าอิ่น นางเคยมาให้ข้าทำนายดวงชะตา ข้าทำนายให้ว่าดวงชะตาของนางมีพลังอินสูง ซึ่งยากจะพบพานในรอบร้อยปี เลือกนางเป็นร่างอาศัยเหมาะสมที่สุดแล้ว อีกอย่างนางมีจิตใจทะเยอทะยาน ไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจผู้อื่นนานนักหรอก พอได้ยินข้าพูดถึงกู่เคียงคู่นิรันดร์ก็รีบบอกว่ายินยอมให้ข้าใช้ร่างรับกู่ ส่วนสตรีอีกสองนางนั่น พวกนางก็ไม่ต่างอะไรกับอาเมี่ยว ล้วนเป็นสตรีวัยแรกแย้มงดงาม แต่กลับถูกความปรารถนาบดบังดวงตาจนมืดบอด จะว่าไปแล้วข้าไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกพวกนางเลยสักนิด แต่เป็นพวกนางเลือกข้าเองต่างหาก!”
ตอนที่นางกล่าว สีหน้าไม่มีความละอายใจเลยสักเศษเสี้ยว ราวกับว่าพวกนางต้องจบชีวิตลงเพราะว่ารนหาที่ตายเอง ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับนาง
“ไร้จิตสำนึกสิ้นดี! เจ้าทำร้ายคนถึงแก่ชีวิตมากมายเพื่อสนองความปรารถนาของตัวเอง แล้วยังกล้ากล่าวอ้างว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม!” ชิงซวีจื่อตะคอกใส่อย่างดุดัน “ข้าขอถามเจ้า ในเมื่อเจ้าสามารถสร้างกู่ได้ คิดว่าจะต้องมีวิธีแก้กู่แน่ ตอนนี้จะให้โอกาสเจ้าทำคุณไถ่โทษสักครั้ง…” เขาชี้ไปยังเจี่ยงซานหลางที่มีท่าทางอ่อนล้าโรยแรง “ตอนนี้เจ้าแก้พิษกู่ในร่างเจี่ยงซานหลางเสีย ข้าอาจจะทบทวนงดเว้นให้เจ้าไม่ต้องรับความทรมานโดนเผาร่างกลืนวิญญาณ ไม่อย่างนั้น…”
เขากล่าวพลางส่งสายตาให้ฉวีชิ่นเหยา
ฉวีชิ่นเหยาเข้าใจความหมายนั้นทันที นางเพียงแค่สะบัดมือก็ปลดปล่อยมังกรไฟสามตัวออกมา มังกรไฟทั้งสามรวมเป็นหนึ่ง เหาะวนเวียนเหนือศีรษะของปีศาจจิ้งจอกก่อนจะขยับร่างกายลงมาต่ำมาก มีอยู่หลายคราที่หวุดหวิดจะโดนขนของปีศาจจิ้งจอกอยู่แล้ว
ปีศาจจิ้งจอกกัดฟันแน่น ท่าทางยอมตายแต่ไม่ยอมจำนน
“เจ้าควรรู้เอาไว้ เมื่อใดที่โดนไฟกลืนวิญญาณแผดเผา เจ้าจะไม่มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่อีกแล้ว และนับจากนี้จะไม่มีโอกาสบำเพ็ญเพียรสู่ทางเต๋า ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะได้เวียนว่ายตายเกิดมาพบหน้าญาติพี่น้องหรือลูกหลานอีก” ชิงซวีจื่อค่อยๆ โน้มน้าวให้อีกฝ่ายคล้อยตาม
ปีศาจจิ้งจอกแค่นเสียงขึ้นจมูกแรงๆ วางท่านิ่งเฉยไม่แยแสต่อไป
“ดูท่าพูดอะไรก็คงไม่เข้าหูเจ้า ศิษย์ข้า เผานางเสียเถิด อาจารย์หาวิธีแก้กู่เองได้อยู่แล้ว” ชิงซวีจื่อแสดงท่าทางไม่แยแสอีกฝ่ายแล้วโบกมือให้ฉวีชิ่นเหยา
“เจ้าค่ะอาจารย์” ฉวีชิ่นเหยาพยักหน้ารับอย่างจริงจัง
มังกรไฟพลันขยับเข้าไปใกล้ปีศาจจิ้งจอกมากขึ้นในพริบตา
เมื่อมังกรไฟเข้ามาใกล้เช่นนี้ ปีศาจจิ้งจอกก็ต้องตกใจที่พบว่าในเปลวไฟอันร้อนแรงนั้นกักขังดวงวิญญาณที่มีความผิดเกินจะอภัยเอาไว้มากมาย พวกมันดิ้นรนอย่างทุกข์ทรมาน แต่กลับไร้เรี่ยวแรงจะหลุดพ้นโดยสิ้นเชิง ต้องผูกติดอยู่ในร่างมังกรไฟไปชั่วนิรันดร์ ทุกวันคืนต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากเปลวไฟแผดเผาร่าง ปีศาจจิ้งจอกตื่นตระหนกกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า ดวงวิญญาณสั่นสะท้านขึ้นมาทันใด ในที่สุดก็ร้องตะโกนด้วยความหวาดผวา
“กู่ข้าเป็นคนสร้าง แค่เอาเลือดปลายนิ้วของข้าไปทาตรงเปลือกตาของคนที่โดนกู่ เท่านี้พิษก็จะสลายไปเอง!” พอนางกล่าวจบก็หายใจหอบกระชั้นไม่หยุด
ฉวีชิ่นเหยารวบมือกลับมา มังกรไฟหมุนร่างกลับวูบหนึ่งก็หายลับไปอยู่ในกระดิ่งตรงหน้าอกของนาง
ชิงซวีจื่อสั่งให้อาหานกรีดเลือดที่ปลายนิ้วของปีศาจจิ้งจอกมา นำไปทาที่เปลือกตาของเจี่ยงซานหลางโดยมีฮูหยินหลูกั๋วกงกับพวกเจี่ยงต้าหลางคอยช่วยเหลือ
เจี่ยงซานหลางที่ยังตกตะลึงพรึงเพริดปล่อยให้พวกเขาทำตามใจ จนกระทั่งทาเปลือกตาเสร็จเรียบร้อย ทันใดนั้นเขาก็สะบัดแขนของมารดา ค้อมกายลงอาเจียนอย่างรุนแรง ผ่านไปไม่นานก็อาเจียนเอาเลือดสีดำข้นคลั่กออกมากองหนึ่ง
ทุกคนพร้อมใจกันจ้องเขม็งก็เห็นกลางกองเลือดสีดำมีแมลงกู่สีทองตัวหนึ่ง เจ้าแมลงนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน คิดว่าคงจะตายไปแล้ว ทุกคนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ชิงซวีจื่อถอนสายตากลับมาและหันกลับไปหาปีศาจจิ้งจอก ขณะกำลังจะเอ่ยปากก็เห็นว่าเบื้องหน้ามีเงาร่างสีแดงวูบผ่าน ไม่รู้ว่าปีศาจจิ้งจอกหลุดจากพันธนาการเมื่อใด มันลอยออกจากถุงผ้าขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
“แก้กู่ได้แล้วอย่างไร ตอนนี้ข้าจะเอาชีวิตมัน!”
ปีศาจจิ้งจอกยื่นกรงเล็บแหลมคมออกมาพลางร่อนถลาลงจากท้องฟ้าเบื้องบนราวกับพญาอินทรี มีเป้าหมายพุ่งตรงไปยังเจี่ยงซานหลางที่ยังตื่นตระหนกไม่หาย
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะควบคุมไม่อยู่ ชิงซวีจื่อรีบเหวี่ยงเชือกสุดแรงไปทางท้ายทอยของปีศาจจิ้งจอก ฉวีชิ่นเหยาก็รีบปลดปล่อยมังกรไฟออกมา แต่ว่าปีศาจจิ้งจอกเคลื่อนไหวรวดเร็วฉับพลัน ในเวลาเพียงชั่วพริบตาก็มาถึงตรงหน้าเจี่ยงซานหลางแล้ว
มันกางกรงเล็บออก ฝ่ามือกว้างใหญ่ดุจพัด เล็บนิ้วมือแต่ละนิ้วแหลมคม เปล่งประกายเย็นเยียบข่มขวัญ ตะปบเข้าที่แผ่นอกของเจี่ยงซานหลางรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
ตอนนี้เจี่ยงซานหลางได้สติตื่นขึ้นมาโดยสมบูรณ์แล้ว ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้าก็รีบปรับลมปราณถอยหนีไปข้างหลัง แต่ว่าช่วงที่ผ่านมากำลังภายในของเขาเสียหายไปมากกว่าครึ่ง จึงไม่อาจรวบรวมกำลังภายในได้เลยสักนิดเดียว
“ซานหลาง!” ฮูหยินหลูกั๋วกงตื่นตระหนกสุดขีด นางกระโดดพรวดไปข้างหน้า อยากจะใช้ร่างกายของตนเองรับกรงเล็บนั้นแทนบุตรชาย
ทว่ากลับมีคนรวดเร็วยิ่งกว่านาง