ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 5 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บุปผารัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 5

8 of 8หน้าถัดไป

การสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิในวันนี้ ฉวีชิ่นเหยาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตอนฟ้ายังไม่สาง หลังจากอาบน้ำแต่งตัวอย่างเรียบง่ายก็ติดตามมารดานั่งรถม้าไปส่งพี่ชายที่สนามสอบ

สีหน้าของฉวีจื่ออวี้สงบเยือกเย็นเหมือนที่เคยเป็นมา กลับเป็นฉวีเฉินซื่อที่ตื่นเต้นเสียเต็มประดา สั่งกำชับด้วยความเอาใจใส่มาตลอดทาง พร่ำพูดประโยคเดียวกันซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้เบื่อ ฉวีชิ่นเหยาฟังแล้วรู้สึกอ่อนเพลียจนตาจะปิด

“ต้าหลาง รู้สึกกระหายหรือไม่ อยากดื่มน้ำหรือไม่” นี่เป็นประโยคแรก

“ไม่ต้องกังวลไป เจ้าพากเพียรอ่านตำรามาหลายปีไม่ใช่เพื่อรอวันนี้หรอกหรือ ทำให้เต็มที่เหมือนเคยก็พอแล้ว แม่จะรอฟังข่าวดีของเจ้า” นี่เป็นประโยคที่สอง

“ได้ยินว่าอาหารการกินที่สนามสอบหยาบกระด้างนัก ยังอยากกินขนมแป้งทอดรองท้องอีกสักหน่อยหรือไม่” นี่เป็นประโยคที่สาม

ไม่ว่าฉวีเฉินซื่อจะพร่ำพูดซ้ำไปกี่ครั้ง ฉวีจื่ออวี้ก็ตอบกลับอย่างอดทนไม่เปลี่ยน ระหว่างนั้นยังหาโอกาสส่งสายตาตักเตือนฉวีชิ่นเหยาซึ่งกลอกตาเบื่อหน่ายไม่ยอมหยุดได้อีก

หลังทนทรมานมาตลอดทางในที่สุดก็ถึงสนามสอบ ฉวีชิ่นเหยาสวมหมวกม่านแพร กระโดดหนีเอาชีวิตรอดลงจากรถม้าเป็นคนแรก

นอกสนามสอบมีผู้คนขวักไขว่ เต็มไปด้วยเหล่าบัณฑิตจากทั่วทุกสารทิศที่เร่งเดินทางมาสนามสอบ

ราชวงศ์ปัจจุบันมีคำกล่าวที่ว่า ‘อายุสามสิบเพิ่งสอบได้หมิงจิงถือว่าชรา สอบได้จิ้นซื่อก่อนอายุห้าสิบถือว่าเยาว์วัย’ ฉะนั้นในกลุ่มผู้เข้าสอบจึงมีคนที่อายุมากอยู่พอสมควร ผู้เข้าสอบที่อายุยังน้อยเช่นฉวีจื่ออวี้กลับมีน้อยยิ่ง

“เหวินหย่วน!” ยามนั้นเองก็มีคนตะโกนเรียกเขา

‘เหวินหย่วน’ เป็นชื่อรองของฉวีจื่ออวี้ ฉวีชิ่นเหยานิ่งอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมองตามเสียงนั้น

นางมองเห็นชายหนุ่มกิริยาสง่างามเหนือสามัญคนหนึ่งกำลังเดินมาแต่ไกล ภายใต้คิ้วคมที่เลิกขึ้นสูงคือดวงตาที่ทอประกายพราวระยับดั่งดวงดาว ยามผู้คนชายตามองคราเดียวก็มองลึกถึงก้นบึ้ง ผิวขาวสะอาดกระจ่างใส ขับเน้นเส้นผมสีดำสนิทดุจน้ำหมึก สันจมูกโด่งตรงสวย ริมฝีปากบางแดงก่ำชุ่มชื้น แต่ละส่วนล้วนงดงามจนหาที่ติไม่ได้

เวลานี้อากาศยังค่อนข้างหนาวเย็น ส่วนใหญ่คนในฉางอันจะสวมเสื้อผ้าหนาหลายชั้น แต่คนผู้นี้กลับสวมเพียงเสื้อคลุมทำจากผ้าเนื้อหยาบสีน้ำเงินที่ซักจนซีดขาว บนศีรษะประดับด้วยหมวกผ้าสีเดียวกัน นอกเหนือจากนี้แล้วก็ไม่มีของสิ่งใดติดกายอีก ช่างเรียบง่ายเสียจนเกินพอดีไปหน่อย

แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็ตาม แต่ทันทีที่เขาปรากฏกายขึ้น กลับเปล่งประกายดั่งไข่มุกส่องสว่างกลางความมืด กลบรัศมีของคนรอบข้างลงไปในพริบตา

“จี้โจว” ฉวีจื่ออวี้ทั้งตกใจทั้งยินดี รีบเดินเข้าไปหาคนผู้นั้น

ฉวีชิ่นเหยารู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหูอยู่บ้าง คิดทบทวนครู่หนึ่งก็กระจ่างแก่ใจ เขาไม่ใช่สหายร่วมสำนักที่มีพรสวรรค์โดดเด่นจนท่านอาจารย์จี้ให้ความสำคัญคนนั้นหรอกหรือ

ฉวีเฉินซื่อมองเห็นจี้โจวแล้วดวงตาพลันสว่างวาบ เอ่ยปากถามขึ้นว่า “ท่านนี้คือ?”

พี่ชายรีบเดินนำคนผู้นั้นเข้ามา แนะนำกับมารดาและน้องสาวว่า “เป็นสหายสนิทร่วมสำนัก ชื่อเฝิงป๋ออวี้ ชื่อรองจี้โจว เป็นชาวเมืองหยวนโจว ครั้งนี้มาเข้าร่วมการสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิพร้อมกับข้า” ว่าแล้วก็หันไปแนะนำกับเฝิงป๋ออวี้ “นี่คือมารดาข้า นี่คือน้องสาวข้า ท่านพ่อไปเข้าประชุมขุนนางแต่เช้าแล้ว ก็เลยไม่ได้มาส่งข้า”

เฝิงป๋ออวี้แสดงความเคารพฉวีเฉินซื่ออย่างนอบน้อม “คารวะฮูหยิน” แล้วหันมาพยักหน้าให้ฉวีชิ่นเหยา

ฉวีเฉินซื่อก็เหมือนกับสตรีวัยกลางคนทั้งหลายในใต้หล้า มีจิตใจเอื้อเอ็นดูคนหนุ่มสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับบุตรของตนเอง พอเห็นเฝิงป๋ออวี้แม้จะสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย แต่ว่ามีหน้าตาหล่อเหลาอิ่มเอิบ ท่วงทีกิริยาก็ยังสง่าผ่าเผยเป็นธรรมชาติ เมื่อยืนอยู่ข้างบุตรชายแล้วไม่ได้ดูด้อยกว่ากันเลย จึงเกิดความรู้สึกชมชอบจากใจ ส่งยิ้มจนตาหยีโค้งพลางเอ่ยว่า “พ่อหนุ่ม วันหน้าก็แวะไปที่จวนบ่อยๆ สิ” น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความเมตตา

เฝิงป๋ออวี้ตกตะลึงไปเล็กน้อย รอยยิ้มในดวงตายิ่งลึกล้ำกว่าเดิมหลายส่วน “ขอเพียงท่านป้าไม่รังเกียจ ต่อไปจะต้องไปรบกวนที่จวนบ่อยๆ แน่ขอรับ”

เนื่องจากเมื่อเช้าตื่นนอนเร็วกว่าปกติ ฉวีชิ่นเหยาจึงงีบหลับคาตักมารดาตลอดทางกลับจวน

“ครั้งนี้พี่ชายเจ้าสอบเสร็จเรียบร้อย ข้ากับท่านพ่อเจ้าก็จะจัดการเรื่องการแต่งงานของเขาแล้ว”

ขณะกำลังสะลึมสะลือ นางก็ได้ยินมารดากล่าวเช่นนี้ขึ้น ฉวีชิ่นเหยาไม่ได้เอ่ยรับคำ แต่หลับตานอนต่อไป

“ถึงปีก่อนจะมีหลายบ้านที่มีเจตนามาเจรจาเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ว่าพอสืบรู้เรื่องสุขภาพของจื่ออวี้ก็พากันหนีหายไปหมดแล้ว จะโทษพวกเขาก็ไม่ได้ ใครจะยอมให้บุตรสาวแต่งสามีที่อ่อนแอขี้โรคกันเล่า ตอนนี้จื่ออวี้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์แล้ว ข้ากับท่านพ่อของเจ้าปรึกษากันอยู่ รอให้การสอบครั้งนี้ผ่านพ้นไปแล้วค่อยพูดคุยเรื่องนี้…”

“อ๊าก…”

ยามนั้นเองเสียงกรีดร้องชวนเวทนาดังลอยมาแต่ไกล ขัดจังหวะเสียงพูดเจื้อยแจ้วของฉวีเฉินซื่อลง

ความง่วงงุนของฉวีชิ่นเหยาหายไปเป็นปลิดทิ้ง นางลุกขึ้นมานั่งแล้วมองออกไปข้างนอก

รถม้าบังเอิญผ่านมาถึงผิงคังฟาง พอดี เบื้องหน้าตรอกคับแคบมีฝูงชนที่มารวมตัวกันแน่นขนัด เด็กหนุ่มหลายคนมีสีหน้าตื่นตระหนกลนลานเดินเบียดเสียดออกมา ก่อนจะวิ่งหนีกระเจิงไปคนละทิศทางราวกับแมลงวันไร้ศีรษะ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น!” ฉวีเฉินซื่อชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถม้า เอ่ยถามเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

“มีคนตาย!” เด็กหนุ่มตะโกนเสียงแหลมสูงประโยคหนึ่งก่อนจะวิ่งหนีไปไกลลิบ

นางนิ่งงันไปชั่วครู่ ตบหน้าอกด้วยความหวาดผวาแล้วกลับไปนั่งที่เดิม แต่ก็ต้องตกตะลึงที่พบว่าบุตรสาวสวมหมวกม่านแพรเดินลงจากรถม้าไปแล้ว

“กลับมานะ! คนตายมีอะไรน่าดูกัน” ฉวีเฉินซื่อตะโกนเรียกอย่างร้อนรน

 

(ติดตามอ่านได้ในฉบับเต็ม)

8 of 8หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com