“พี่เว…พี่แพมใช่ไหมคะ”
ภูริตาย่นคิ้วมองหญิงสาวด้วยสีหน้าฉงน “แกรู้จักไหมเว”
กาลเวลายังไม่ทันให้คำตอบ หญิงสาวก็ตอบเองเสร็จสรรพ
“จิไงคะ…น้องจิ”
ภูริตาและกาลเวลาออกจากบันไดเลื่อนพลางหันไปมองหญิงสาวหน้าใสที่ตะโกนต่อว่า
“อย่าเพิ่งไปนะคะ อยู่ตรงนั้นนะ จิจะลงไปหาเองค่ะ”
สองสาวทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ครู่เดียวหญิงสาวหน้าใสก็ลงบันไดเลื่อนมาหาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
ทั้งสามคนทักทายกันอยู่ครู่หนึ่ง ภูริตาก็ชักชวนจิรัศยาให้ไปทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านไวน์ซึ่งตนเคยมาใช้บริการบ่อยสมัยที่ยังมีเงินจับจ่ายไม่ขาดมือ แถมโซนร้านอาหารยังอยู่ใกล้กับทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้า สะดวกแก่การเดินทางกลับยิ่งนัก
“วันนี้พี่เลี้ยงเองน้องจิ”
“ไม่ได้หรอกค่ะพี่แพม จิกับพี่เวทำงานกันแล้ว จิเกรงใจค่ะ”
“พี่ไม่รีดเลือดกับปูจนๆ หรอกนะ โดยเฉพาะยายจิ ให้พี่เลี้ยงน่ะดีแล้ว”
“แต่ว่า…”
“เถอะน่า อย่าเถียงผู้ใหญ่ อยากกินอะไรสั่งเลย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
กาลเวลากับจิรัศยามองหน้ากันคล้ายจดจำข่าวในหนังสือพิมพ์ซึ่งระบุว่าบิดาของภูริตาเสียชีวิต บริษัทมีหนี้สินรุงรัง คนงานถูกลอยแพ และภูริตาก็กำลังเข้าตาจน แต่จะให้สองสาวถามออกไปก็ทำไม่ได้เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจและเป็นการเสียมารยาทจึงแกล้งเลยตามเลยไปก่อน
เวลาเคลื่อนคล้อยจากชั่วโมงสู่หลายชั่วโมง แต่ละคนขุดเรื่องราวของตนออกมาเม้าท์และเผากันอย่างสนุกปาก จากลูกค้าเต็มร้านเหลือเพียงโต๊ะของสามสาวซึ่งยังนั่งดื่มกันไม่หยุด ดวงหน้าของแต่ละคนแดงก่ำ คำพูดคำจาก็อ้อแอ้เต็มที
“แล้วตอนนั้นพี่แพมได้กลับไปคืนดีกับแฟนเก่ารึเปล่าคะ”
ภูริตาส่ายหน้าเศร้าๆ “ไม่ได้กลับหรอกยายจิ พี่ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน แต่ตอนนี้พี่รู้แล้ว และก็จะไม่ปล่อยให้เขาหนีหายไปอีกแน่นอน พูดถึงแต่พี่ แล้วเราล่ะเมื่อไรจะมีแฟนกับเขาสักที”
“พี่แพมก็ชอบล้อจิอยู่เรื่อย จิไม่ได้สวยเหมือนพี่แพมกับพี่เวสักหน่อย”
“ใครว่าไม่สวย ทั้งน่ารักทั้งอ่อนหวานแบบนี้ ใครไม่ชอบล่ะตาต่ำที่สุด จริงไหมเว”
กาลเวลาพยักหน้าหงึกหงัก “เห็นด้วยที่สุด”
“พี่ว่านะ ไหนๆ ก็อยู่เซ็นทรัลเวิลด์แล้ว เราไปขอพรพระตรีมูรติกัน เมื่อก่อนนัดกันเสียดิบดีว่าจะมาขอพรก็ไม่ได้ไปสักที วันนี้จัดสักหน่อย เผื่อสมหวังบ้าง” ภูริตาเสนอ
อีกสองสาวมองหน้ากันแล้วพยักหน้าคล้อยตาม
ภูริตาจึงเรียกพนักงานเช็กบิล แต่ทันทีที่เห็นตัวเลขบนกระดาษหญิงสาวกลับขบริมฝีปาก อยากย้อนเวลากลับไปช่วงก่อนเข้ามานั่งที่ร้านอาหารนัก เพราะค่าอาหารปาเข้าไปเกือบห้าพันบาท ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอเหลือเงินแค่หนึ่งหมื่นบาทเอง
กาลเวลาเห็นใบหน้าเผือดสีของภูริตาก็แย่งบิลไปมุงดูกับจิรัศยา ภูริตาเห็นเข้าก็รู้สึกเสียหน้า จึงยื่นมือออกไปหมายจะคว้าบิลกลับมา แต่กาลเวลากลับตีเพียะเข้าที่หลังมือเพื่อนเสียก่อน
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะเลี้ยง”
“แล้วพวกฉันบอกตอนไหนว่าโอเค”
“แต่มันเสียศักดิ์ศรีคุณหนูสายเปย์อย่างฉัน”
“ถูกแค่นี้หยามหน้าคุณหนูภูริตาเปล่าๆ ไว้ฉันกับน้องจิค่อยให้แกเลี้ยงมื้อหน้าแล้วกัน”
กาลเวลาควักบัตรเครดิตที่ร่วมรายการกับร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นมาส่งให้พนักงาน แล้วโบกมือให้รีบไปชำระเงิน
“แกแย่งฉันจ่ายแบบนี้ ฉันเสียหน้านะเว”
ภูริตาแหวเสียงแผ่ว จะโกรธก็โกรธไม่ลงเพราะเธอก็เสียดายเงินจริงๆ นั่นแหละ
“เดี๋ยวแกกับน้องจิค่อยคืนเงินสดฉันไง ฉันกำลังอยากได้แต้มบัตรเครดิตเอาไปแลกตั๋วเครื่องบิน”
“ใช่ค่ะ พี่แพมอย่าคิดมากสิ” จิรัศยาปลอบเสียงอ่อนโยน
“มื้อหน้าฉันเลี้ยงนะ”
“ฉันจะล้างท้องรอเลยย่ะ”
หลังจากรับสลิปบัตรเครดิตคืนแล้ว ภูริตาก็ส่งเงินสดครึ่งหนึ่งของค่าอาหารคืนให้กาลเวลา
“ฉันกับแกหารคนละครึ่ง เลี้ยงน้องจิ”
“ดีล!”